“ธานฮ์ เล” หวังน็อก “โบกุ” กรุยทางสู่การเผชิญหน้า “มาร์ติน เหงียน”
“ธานฮ์ เล” ดีใจกว่าที่เคยเกิดขึ้นครั้งไหนๆ ในชีวิตบนสังเวียนนักสู้ เมื่อได้รู้ว่าการขึ้นสังเวียนครั้งที่สองในศึก วัน แชมเปียนชิพ วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ จะได้พบกับ “No Face” โกเทตสึ โบกุ อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวตจอมเก๋า
หลังจากที่เดือนพฤษภาคมเขาเปิดตัวอย่างสวยหรู ด้วยการแทงเข่าเข้าปลายคางส่ง “Maestro” ยูซูป ซาดูลาเอฟ ลงไปกองกับพื้นเวทีในยกที่ 2
นักสู้วัย 33 ปีชาวเวียดนาม-อเมริกัน ได้รับการเรียกร้องให้กลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งในรอบสามเดือนกว่าๆ และเขาก็ยินดีที่จะตอบรับ
“มันคือความต้องการของผมในเส้นทางนี้ และผมก็ยินดีที่มันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง”
“ผมไม่ต้องการจะไปที่ไหนอีกแล้ว เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากที่โปรแกรมของผมไม่ว่างเลย ผมไม่ได้อายุ 21 ปีแล้วนะ ดังนั้นการต่อสู้ที่บ่อยครั้ง มันทำให้ผมรู้สึกดี มันช่วยให้มีสมาธิ”
การต่อสู้ไฟต์ที่สองในสังเวียนวงกลมเหล็กของ ONE เขาจะต้องเผชิญหน้ากับนักสู้ดีกรีอดีตแชมป์โลกระดับเจ้าตำนานของกีฬาประเภทนี้ ที่เต็มไปด้วยสถิติมากมายในการแข่งขันกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานอย่าง โบกุ ซึ่งถือเป็นสุดยอดของสุดยอด ผู้ความตื่นเต้นทุกๆ ไฟต์ที่ขึ้นสังเวียน
ไม่มีคู่แข่งขันคนไหนจะดีเท่านี้แล้ว สำหรับการพิสูจน์ตัวเองเพื่อไต่อันดับขึ้นสู่แถวหน้าของรุ่นเฟเธอร์เวต
“ผมชื่นชอบสไตล์ของเขา และความคิดในการต่อสู้”
“เขาเปิดเกมสู้ เขาทำให้คู่แข่งขันต้องแลก เขาปลุกให้ลุกเป็นไฟ และเขาก็ต้องการเข้ามาประชิดเพื่อทำในสิ่งที่เขาถนัด”
“เขามีฮุกซ้าย เขามีอาวุธที่หลากหลายที่สามารถจะเล่นงานคุณ ดังนั้นคุณปล่อยให้เขาสู้อย่างสบายใจไม่ได้ เพราะถ้ามีโอกาสเพียงครั้งเดียวเขาสามารถน็อกคุณได้เลย”
“มันคือการประกบคู่ที่สุดยอดมาก เขาคือนักสู้ที่อันตราย และเขาเคยต่อสู้กับตัวท็อปๆ ของรุ่นนี้มาหลายคนแล้ว”
ตลอดชีวิตการต่อสู้ของ เล เขาน็อกคู่แข่งได้ถึง 8 ครั้ง และซับมิชชันอีก 1 ครั้ง แต่เขาเองก็รู้ตัวดีว่ามันอันตรายอย่างยิ่งกับการต้องแลกกับนักสู้ผู้มากประสบการณ์อย่าง โบกุ
แม้เขาจะมีความมั่นใจกับทักษะการต่อสู้ของตัวเอง แต่จะต้องไม่ประมาทเพราะเขาอาจเป็นฝ่ายพบจุดจบเสียเอง
“มันเป็นเส้นบางๆ ของการยึดติดกับแผนและการมีวินัย การผ่อนคลายและออกอาวุธเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหากเขาแตะตัวคุณได้ มันจะอันตรายมาก เพราะเป็นการสร้างโอกาสให้เขาโจมตี”
“ผมคิดว่าเขายังไม่เคยเจอคู่แข่งขันที่มีสไตล์เหมือนผม เขาจะเซอร์ไพรส์กับความรวดเร็วและสิ่งที่ผมจะนำไปใช้”
ชัยชนะในศึก ONE: DREAMS OF GOLD จะทำให้เขามีโอกาส 50-50 ในการเข้าใกล้เป้าหมายสูงสุดกับการเป็นแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวต
แม้เขาจะต้องการขึ้นชิงแชมป์โลกมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่เขาจะไม่เร่งรัดที่จะเผชิญหน้ากับแชมป์โลกคนปัจจุบันอย่าง “The Situ-Asian” มาร์ติน เหงียน เขาจะพร้อมที่จะต่อสู้กับคู่ต่อสู้รายอื่นที่ยื่นโอกาสให้กับเขา
“สิ่งที่ผมหลงรัก ONE คือ คุณไม่สามารถบอกได้ว่าเส้นทางสู่แชมป์โลกเป็นยังไง คุณต้องผ่านนักสู้ฝีมือดีๆ และเข้าไปสู่หมายเลขหนึ่งของรุ่น”
“มันสำคัญมากสำหรับผมในการไต่อันดับขึ้นไป และเจอกับทุกคนที่มีเป้าหมายในการเป็นแชมป์โลกเหมือนกัน”
“นั่นคือแผน จัดการ โบกุ และทุกคนที่ขวางหน้า และหากสำเร็จ มาร์ติน เหงียน ก็จะเป็นรายต่อไป”
กรุงเทพฯ