นานาทัศนะกับ 6 นักชกไทยในศึก DREAMS OF GOLD
ศึกวัน แชมเปียนชิพ DREAMS OF GOLD ที่จะมีขึ้นช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ ณ สังเวียน อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี โดยรายการนี้มียอดนักสู้ระดับแนวหน้าจากทั่วทุกสารทิศกว่า 30 ชีวิต หรือ 15 คู่แข่งขันที่มาร่วมประลองฝีมือกันบนเวที และที่เป็นนักชกไทยมีถึง 6 คนด้วยกัน
วันนี้เราจะนำเสนอทรรศนะในเกมและทิศทางของเหล่านักสู้จากแดนสยามก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ชั่วโมงนี้
เพชรดำ เข็มขัดเส้นนี้จะอยู่หรือจะไป
“เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี” ต้องเจอกับอีกหนึ่งบททดสอบที่สำคัญในชีวิตอีกครั้ง กับการขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ครั้งแรก โดยจะพบกับ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” นักชกชาวเนเธอร์แลนด์
หากดูกันตามเนื้อผ้า เพชรดำ นั้นดูมีภาษีกว่า ทั้งเรื่องประสบการณ์การผ่านมวยที่เจ้าตัวมีมากกว่าร้อยไฟต์ และประสบการณ์ใน วัน แชมเปียนชิพ ที่เคยสัมผัสมาแล้ว แถมยังเป็นการชกในบ้านอีก ทุกอย่างจึงดูเข้าทางเพชรดำจริงๆ
แต่สิ่งที่ทำให้ต้องฉุกคิดคือ ครั้งนี้เป็นการเปิดตัวครั้งแรกใน ONE ของผู้ท้าชิงอย่าง “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” ซึ่งไม่บ่อยครั้งนักที่นักสู้หน้าใหม่ที่เพิ่งประเดิมสังเวียนครั้งแรก ก็ได้ขึ้นชิงแชมป์โลกทันที นั่นแสดงให้เห็นว่านักมวยรายนี้ย่อมไม่ธรรมดา การันตีได้จากแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง 6 สมัยในวัยเพียง 23 ปี
เอ็นนาฮาชิ เป็นมวยสไตล์คิกบ็อกเซอร์ อาวุธเด็ดคือลูกเตะตัดล่างและขึ้นบนที่ค่อนข้างว่องไว แต่ก็ยังมีจุดอ่อนให้เห็นในเรื่องน้ำอดน้ำทนของมวยจากแดนอัศวินสีส้มยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดนหนักๆ มีสิทธิ์ลงไปกองได้ทุกเมื่อ เพชรดำจะต้องประชิดให้ติดตัว เพราะหากทิ้งระยะห่างให้ เอ็นนาฮาชิ ดักออกอาวุธ เพชรดำก็มีสิทธิ์เข็มขัดกระเด็นเหมือนกัน
รีแมตท์นี้ที่รอคอยของ โจ ณัฐวุฒิ
ศึกรีแมตซ์ระหว่าง “สโมกกิ้น โจ” ณัฐวุฒิ กับ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” เป็นอีกคู่ที่แฟนๆ ให้ความสนใจ ซึ่งทั้งคู่โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศ ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต
ถ้ามองย้อนกลับไปในไฟต์แรกเมื่อเดือนเมษายน 2561 ทุกคนต่างมองว่า เปโตรเซียน เหนือกว่าแน่นอน แต่หากลบภาพที่ทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้ว และวิเคราะห์จากฟอร์มล่าสุด ก็ยากที่จะคาดเดาว่าใครเหนือกว่ากัน เพราะ 4 ไฟต์หลังสุดของนักชกไทยฟอร์มจัดจ้านเหลือเกิน
พัฒนาการของ โจ นั้นรวดเร็วมาก เขามีอาวุธหมัดที่รวดเร็วและแม่นยำ หากค่ำคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ โจ สามารถออกอาวุธได้เหมือนกับที่เคยกำราบคู่แข่ง 4 คนที่ผ่านมา เกมการชกก็น่าจะเป็นเกมหมัดดวลหมัด ซึ่ง โจ ในภาคสองนี้แข็งแกร่งและหนักหน่วงขึ้นกว่าภาคแรกเป็นกอง
ด้าน เปโตรเซียน ซึ่งเป็นยอดฝีมือแห่งวงการคิกบ็อกซิ่ง ต้องพยายามทำทุกวิถีทางที่จะงัดทุกกลยุทธ์เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ เพราะศักดิ์ศรีนั้นมันค้ำคออยู่ จึงยากจะเดาเหลือเกินว่าใครจะได้รับการชูมือ
แสตมป์ กับด่านทดสอบแรกจากแดนภารตะ
ถือว่าเป็นนักชกสาวในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ สำหรับ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ในฐานะแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่งและมวยไทย ผู้กำลังตามล่าเข็มขัดเส้นที่ามในกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) และนี่คือด่านทดสอบแรกที่สุดหิน ในการปะทะฝีมือกับ “น็อกเอาต์ควีน” อาชา โรกา นักสู้สาวจากอินเดีย
ทั้งคู่มีพื้นฐานเป็นนักมวยมาก่อน โดย แสตมป์ แน่นเรื่องมวยไทยตั้งแต่เด็ก ในขณะที่ โรกา แน่นทางมวยสากล จึงอาจจินตนาการได้ว่า การต่อสู้ของคู่นี้อาจไม่ค่อยเห็นเกมภาคพื้นสักเท่าไหร่ เพราะต่างฝ่ายต่างถนัดในการยืนสู้
การซับมิชชันอาจเป็นอาวุธเสริม หากใครเพลี่ยงพล้ำกองลงพื้นก่อน ก็อาจจะถูกปิดฉากได้ในทันที
เมืองไทย กับการคัมแบ็กที่ไม่ง่าย
ห่างหายจากสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ไปเกือบ 9 เดือน สำหรับ “Elbow Zombie” เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ที่การกลับมาครั้งนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับแชมป์ WBC มวยไทยจอมอึดจากญี่ปุ่น “เคนตะ ยามาดะ” ที่มีพื้นฐานคิกบ็อกซิ่งเป็นของแถม
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า เมืองไทย จะใช้ประสบการณ์บนสังเวียนมวยไทยอันโชกโชน เดินหน้ากดดัน ฟันศอกเด็ดให้เห็นตั้งแต่ยกแรกๆ ขณะที่ ยามาดะ คงเตรียมแผนรับมือการบุกด้วยการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เพื่อให้นักชกไทยหาโอกาสเล่นงานได้ยากขึ้น
เลิศศิลา เจอดาวดังไซปรัส
ถือเป็นคู่ประกอบรายการที่น่าชมมาก เผลอๆ อาจแย่งซีนคู่หลักๆ ไปได้เลย สำหรับการขึ้นสังเวียนของ “เลิศศิลา ภูเก็ตท็อปทีม” เจ้าของฉายา “ปลาไหลใส่สเก็ต” ซึ่งครั้งนี้นับเป็นงานหฤโหดเมื่อต้องดวลฝีมือกับรุ่นน้องดาวดังจากไซปรัส “The Baby Face Killer” ซาวาส ไมเคิล มวยต่างชาติฝีมือดีที่แฟนมวยชาวไทยรู้จักในนาม “ไมเคิล เพชรยินดีอะคาเดมี” ปราบนักมวยไทยแถวหน้าของบ้านเรามาแล้วแทบทุกคน
ไฟต์นี้ไม่ง่ายสำหรับ เลิศศิลา เพราะนอกจากความสดในวัย 20 ของ ซาวาส แล้ว ยังเพิ่มเติมด้วยความมุ่งมั่นที่เจ้าตัวหวังจะไต่อันดับขึ้นชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย แต่ด้วยความพริ้วไหวเหมือนปลาไหลใส่สเก็ต บวกประสบการณ์เก๋าเกมกว่า 30 ปีของ เลิศศิลา ก็ประมาทไม่ได้เหมือนกัน
“ความสด” จะบด “ความเก๋า” หรือไม่ต้องติดตามกันคืนนี้
บางพลีน้อย กลับมาพิสูจน์ตัวเอง
หลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วยการเอาชนะคะแนน “บราวน์ พินัส” นักสู้จากเนเธอร์แลนด์ ครั้งนี้เป็นการกลับมาครั้งที่ 2 ของ “บางพลีน้อย เพชรยินดีอะคาเดมี” บนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ
โดยจะพบกับ “เลียม โนแลน” ยอดนักชกจากอังกฤษที่ฝึกมวยค่ายเดียวกับ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ภายใต้การดูแลของเทรนเนอร์คนเดียวกันอย่าง “คริสเตียน โนวส์” ย่อมการันตีได้ว่าฝีมือไม่ปวกเปียกแน่นอน
ไฟต์นี้ บางพลีน้อย ต้องงัดฟอร์มเจ๋ง ไม่ใช่แค่ชนะ แต่ต้องให้ทิ้งห่าง หากหวังจะขึ้นเป็นตัวท็อปของรุ่นนี้ที่มีด่านหินมากมายจากนักชกคู่แข่งที่รอคาดเข็มขัดแชมป์โลก ONE อยู่เช่นกัน
กรุงเทพฯ