“บางพลีน้อยเพชรยินดีอะคาเดมี” เผยวิธีการเอาชนะ “เลียม โนแลน”
“บางพลีน้อย เพชรยินดีอะคาเดมี” รู้ดีว่าชัยชนะเหนือ “เลียม โนแลน” ไม่ได้มาง่ายๆ แต่ผลงานและหัวจิตหัวใจของเขาในศึก ONE: DREAMS OF GOLD พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำไมเขาถึงเป็นแชมป์โลก
เมื่อวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา นักชกวัย 25 ปีคว้าชัยชนะในบ้านเกิดของตัวเองที่ประเทศไทย ด้วยการเอาชนะคะแนนคู่ต่อสู้จากอังกฤษ หลังการแข่งขันสุดูสี 3 ยก
การแข่งขันครั้งนี้เป็นรุ่นแคตช์เวต 72 กิโลกรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักที่มากกว่ารุ่นเฟเธอร์เวตที่เขาเคยชกตามปกติ เขาตอบรับการแข่งขันอย่างไม่ลังเล แต่ก็ยอมรับว่ามีความกังวลกับการเผชิญหน้าคู่ต่อสู้ชาวอังกฤษเช่นกัน
“คู่ชกของผมมีรูปร่างที่สูงใหญ่ ผมรู้สึกหนักใจเหมือนกัน เพราะตัวเขาใหญ่กว่าผมมาก”
แม้จะเสียเปรียบ แต่นักชกชาวไทยก็เดินหน้าท้าชนกับ โนแลน แต่มันไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดที่จะเผชิญหน้ากับคู่แข่งขันหมัดหนักและมีชั้นเชิงสุดอันตราย
“เขาเก่งและมีเทคนิคที่ดี ในยกแรกมันเป็นการต่อสู้ที่เข้มข้นมาก”
“เขาเล่นงานผมด้วยศอกในช่วงปลายยกแรก จนผมร่วงลงไป และรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วจึงไม่ถูกกรรมการนับ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเขาให้คะแนนตรงนั้นอย่างไร”
บางพลีน้อย และทีมงานไม่ได้เป็นกังวลกับสถานการณ์ในยกแรก แต่พวกเขาก็รู้ว่าจะต้องเปลี่ยนแผนการชกในยกที่สอง หากต้องการได้รับการชูมือในท้ายที่สุด
หลังจากมีปรึกษาหาทางแก้เกมคู่ต่อสู้ นักชกจากค่ายเพชรยินดีอะคาเดมี ก็กลับมาเป็นฝ่ายตั้งรับเพื่อให้คู่ชกออกอาวุธมากขึ้นและ บางพลีน้อย ก็ป้องกันตัวได้ดี
“เทรนเนอร์บอกว่าให้พยายามโฟกัสคู่ชกให้ดี และห้ามลดการ์ดลง ผมไม่อยากประมาทเพราะผมรู้ดีว่าอาวุธของเขาหนักมาก แถมยังมีรูปร่างใหญ่กว่าผมด้วย”
“ผมรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในยกที่สอง รู้สึกได้ว่ากำลังเข้าใกล้ชัยชนะ เมื่อผมเริ่มชกได้ตามแผน ผมพยายามมากขึ้นกว่ายกแรก และลูกเตะของผมก็ทำงานได้ดีขึ้น”
“ผมรอจังหวะที่เขาจะกระโดดเข่าลอยเข้ามา ซึ่งผมเห็นเขาใช้ในยกก่อนหน้า ผมคิดว่าจะปิดบัญชีเขาได้ เพราะอาวุธของเขาไม่สามารถทำอะไรผมได้”
ความสำเร็จในสองยกหลัง ทำให้ บางพลีน้อย มั่นใจว่าจะได้การชูมือ แต่เมื่อถึงตอนที่กรรมการจะประกาศผลการตัดสินใจ เขายอมรับว่าข้องใจเล็กน้อยว่าสิ่งที่เขาทำเพียงพอกับชัยชนะในไฟต์นี้หรือไม่
ผลปรากฏว่าคะแนน 1 เสียงให้เสมอ และอีก 2 เสียงให้เขาชนะ นักชกชาวไทยออกอาการโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด
“ผมรู้สึกว่าผมแพ้ในยกแรก แต่ผมมั่นใจผมชนะได้อีกสองยกที่เหลือ”
“ก่อนจะประกาศผล ผมมั่นใจ 80 เปอร์เซนต์ว่าผมจะชนะแน่ แต่ยังสองจิตสองใจจนกระทั่งได้ยินเสียงผลการตัดสิน”
“ผมดีใจที่ชนะในไฟต์นี้ มันสูสีกันมาก แต่แน่ใจว่าผมทำได้ดีกว่าในยกที่ 2 และ 3”
การคว้าชัยชนะเหนือแชมป์โลก Roar Combat League ถูกบันทึกอยู่ในประวัติการชกของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทำให้เขาเพิ่มสถิติการชกเป็น 122-50-10
หลังผ่านการแข่งขัน 2 ไฟต์อันเฉิดฉายของ บางพลีน้อย เขารู้สึกคลายความกดดันกับการขึ้นสังเวียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของตัวเอง
“ทุกอย่างดีขึ้นกว่าในไฟต์แรก ผมรู้สึกสบายๆ ที่ได้ขึ้นสังเวียนในประเทศไทย มากกว่าที่เคยแข่งที่ฟิลิปปินส์เมื่อครั้งที่แล้ว”
“ไฟต์นี้ผมสนุกมา และรู้สึกพอใจกับฟอร์มการชกของตัวเอง”
“ผมจะพยายามรักษามาตรฐานและสั่งสมชัยชนะใน ONE โดยหวังว่าสักวันผมจะมีโอกาสได้ขึ้นชิงแชมป์โลก”