“จามาล ยูซูพอฟ” พลิกชีวิต หลังน็อกช็อกโลก “ยอดแสนไกล”
เชื่อว่ามีแฟนๆ วัน แชมเปียนชิพ ชาวไทยและต่างชาติจำนวนไม่มาก ที่รู้จัก “Kherow” จามาล ยูซูพอฟ โดยเฉพาะก่อนหน้าที่จะเปิดตัวใน “บ้านแห่งศิลปะการต่อสู้” วัน แชมเปียนชิพ แห่งนี้
นักชกวัย 36 ปีจากรัสเซีย ทำเอาวงการศิลปะการต่อสู้ลุกเป็นไฟ เมื่อได้สร้างปรากฏการณ์ช็อกโลก ซึ่งกลายเป็นฉากติดตาของแฟนๆ จนถึงวันนี้
😱 WHAT AN UPSET 😱 Jamal Yusupov makes a STATEMENT in his ONE Super Series debut, knocking out Thai legend Yodsanklai IWE Fairtex in Round 2!📺: How to watch 👉 http://bit.ly/ONEAODHOTW🏨: Book your hotel 👉 bit.ly/ONEhotelplanner📱: Watch on the ONE Super App 👉 bit.ly/ONESuperApp🏷: Shop official merchandise 👉 bit.ly/ONECShop
Posted by ONE Championship on Saturday, November 16, 2019
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จามาล ก้าวขึ้นประเดิมศึกแรกใน วัน แชมเปียนชิพ ด้วยการเผชิญหน้ากับเจ้าตำนานชาวไทยผู้เลื่องชื่ออย่าง “The Boxing Computer” ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์ ในกติกามวยไทย น้ำหนัก 73 กิโลกรัม ในศึก ONE: AGE OF DRAGONS ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยมีเวลาเตรียมตัวเพียง 10 วัน
ขณะที่เซียนทุกสำนักเชื่อว่าจะได้เห็นฉากที่นักชกระดับตำนานชาวไทยเดินหน้าบดขยี้ จามาล แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อ ยอดแสนไกล เป็นฝ่ายถูกเล่นงานซะเอง ถึงขั้นโดนน็อกเอาต์ในยกที่สอง
ศึกนี้จึงกลายเป็นไฟต์พลิกชีวิตและยกระดับโปรไฟล์ของนักชกแดนหมีขาวอย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากเป็นคนแรกที่น็อกเอาต์ ยอดแสนไกล ได้ในกติกามวยไทยในรอบกว่าทศวรรษ
ต่อไปนี้คือบทสัมภาษณ์สุดพิเศษที่ จามาล พูดถึงชัยชนะซึ่งเปลี่ยนชีวิตและเป้าหมายในปี 2020
ONE: คุณตอบรับที่จะเผชิญหน้ากับ ยอดแสนไกล เพียง 10 วันก่อนการแข่งขัน คุณรู้สึกลังเลบ้างหรือไม่
จามาล ยูซูพอฟ: เมื่อผู้จัดการโทรมาถามผมว่า ผมอยากสู้กับ ยอดแสนไกล ไหม ผมคิดว่า ถ้าผมไม่ทำมันตอนนี้ ผมอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำมันอีกเลย มันเป็นโอกาสที่จะได้สู้กับสุดยอดตำนาน และนักสู้ทุกคนต้องการประลองฝีมือกับเจ้าตำนานอยู่แล้ว แน่นอนว่าผมคว้าโอกาสนั้นทันที
ONE: แผนการชกของคุณเป็นอย่างไร
จามาล ยูซูพอฟ: แผนการชกคือเน้นป้องกันตัว เคลื่อนไหวบ่อยๆ และออกหมัดให้มากกว่าเตะ ผมคิดว่าเขาอาจจะเริ่มกดดันผมตั้งแต่ตอนต้น ดังนั้น งานของผมคือการใช้ประโยชน์ในตอนที่เขาอาจพลาดท่าเปิดช่องโหว่ เขาดูไม่สบอารมณ์ตัวเองในยกสอง และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้
ONE: ยกแรกเป็นยกที่สูสีกันมาก คุณรู้สึกว่าคุณเกือบน็อกเอาต์เขาได้หรือไม่
จามาล ยูซูพอฟ: ไม่น่าจะสูสีนะ ผมแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมไม่ใช่เหยื่อของ ยอดแสนไกล คู่ต่อสู้ของผมคงเข้าใจแล้วว่าเขาเจอกับคนที่แข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้
ผมสังเกตได้ว่าเขาออกหมัดพลาดอยู่บ่อยครั้งในช่วงท้ายยกแรก เขายิ่งไม่สบอารมณ์มากขึ้น หลังจากนั้น เขาเริ่มลงน้ำหนักบนกำปั้นเขามากขึ้น เขาหมายจะน็อกเอาต์ผมให้ได้เลย
ONE: เหตุการณ์ไหนเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุด
จามาล ยูซูพอฟ: มันมีหลายเหตุการณ์นะ แต่ตอนที่ ยอดแสนไกล เตะผม แล้วเป็นผมที่กวาดเขาร่วงกับพื้นเวที เรียกเสียงเชียร์จากแฟนๆ ได้เยอะเลยนะ ผมคิดว่าผู้บรรยายและคนดูคิดว่า ยอดแสนไกล คงบดขยี้ผมแน่นอน
ตอนผมกวาดเขาร่วงลงกับพื้น ผมคิดว่าเขาเองก็ตกใจ เขาคงประเมินผมไว้ต่ำ ก่อนการแข่งขันเขาบอกว่าไฟต์นี้จะจบลงในยกแรก ไม่ก็ยกสอง ซึ่งเขาก็พูดถูกนะ แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะเห็นตัวเองแพ้
ONE: คุณดูไม่ตื่นเต้นอะไรหลังจากสอยเขาร่วงได้
จามาล ยูซูพอฟ: ก็จริงนะ ผมไม่ถึงกับตื่นเต้น หรือไร้ความรู้สึก ผมแค่พยายามเก็บอารมณ์ และตระหนักว่าผมชนะอย่างใสสะอาด
ONE: การเอาชนะ ยอดแสนไกล มีความหมายอะไรกับคุณ ทั้งในด้านอาชีพและส่วนตัว
จามาล ยูซูพอฟ: ผมชนะเจ้าตำนานด้วยการน็อกเอาต์ มันเป็นชัยชนะที่สำคัญที่สุดในอาชีพของผม เขาไม่เคยถูกน็อกเอาต์เลยมาตลอด 10 ปี และก็ไม่เคยแพ้ในการแข่งขันชกมวยไทยมาตลอด 8 ปี ผมรู้สึกว่าชัยชนะของผมเป็นเหมือนประวัติศาสตร์มวยไทยที่ต้องจารึก
ONE: คุณได้ขึ้นสังเวียนกับ ยอดแสนไกล มาแล้ว ความคิดของคุณที่มีต่อเขาเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
จามาล ยูซูพอฟ: เขาเป็นเจ้าตำนาน และเขาก็ยังคงเป็นตำนานอยู่ ด้วยความสัตย์จริง ผมเคยดูนักมวยไทยตัวท็อปๆ อย่าง ยอดแสนไกล, บัวขาว บัญชาเมฆ กับ จอร์จิโอ เปโตรเซียน และจินตนาการว่าผมจะชกกับพวกเขาอย่างไร
ผมคิดว่าเขาเป็นนักกีฬาที่น่าทึ่ง ดูสถิติที่เขาชนะ ความมั่นใจของเขาที่มีมาตลอด และความได้เปรียบที่เขามีเหนือคู่แข่ง ซึ่งหลายคนแทบสู้เขาไม่ได้เลย ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้สู้กับเขา
ONE: ชีวิตคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรตั้งแต่รับชัยชนะ
จามาล ยูซูพอฟ: ผมสู้ในประเทศจีนมาค่อนข้างเยอะ ผู้คนจึงพอรู้จักชื่อผมบ้าง แต่ตอนนี้มันเป็นอีกระดับ การสนับสนุนจากแฟนๆ ชาวจีนยังคงล้นหลาม ตอนนี้ผมกลับมาที่ประเทศรัสเซียแล้ว ซึ่งตอนกลับมาถึงผมรู้สึกว่าคนที่นี่ปฏิบัติกับผมแตกต่างออกไป ด้วยความเคารพนับถือและให้เกียรติมากขึ้น
ONE: การเป็นนักสู้ที่ได้ลงแข่งขันมาแล้วรอบโลก ประสบการณของคุณใน วัน แชมเปียนชิพ เป็นอย่างไร
จามาล ยูซูพอฟ: วัน แชมเปียนชิพ เป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่ และมีชื่อเสียงมากในเอเชีย ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ วัน แชมเปียนชิพ ผมได้รับการต้อนรับอย่างยอดเยี่ยมที่กรุงปักกิ่ง
นอกจากนี้ วัน แชมเปียนชิพ มีความเป็นระบบ ทั้งการบริหารจัดการ ความปฏิสัมพันธ์กับนักกีฬา การจัดการแข่งขัน และอื่นๆ แน่นอนว่าผมเคยผ่านมาหลายสังเวียน แต่ผมไม่เคยเจอที่ไหนแบบนี้มาก่อน
ONE: สุดท้ายนี้ เป้าหมายในปี 2020 ของคุณเป็นอย่างไร
จามาล ยูซูพอฟ: เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมคือ การคว้าเข็มขัดแชมป์โลกของ วัน แชมเปียนชิพ และเป็นแชมป์โลก ผมคิดว่า วัน แชมเปียนชิพ เป็นองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ดีที่สุดในเอเชียตอนนี้ ผมหวังว่าผมจะสามารถขึ้นชกได้เร็วที่สุดในช่วงกุมภาพันธ์ เพื่อเริ่มภารกิจไล่ล่าเข็มขัดแชมป์โลกต่อไป
อ่านเพิ่มเติม: