“พงษ์ศิริ” จ้องปิดเกม “ลิโต อาดิวัง” น็อกคาบ้านเกิดแดนตากาล็อก
“นักฆ่าหน้าเปื้อนยิ้ม” พงษ์ศิริ มิตรสาธิต อาจรู้สึกว่าตัวเองตกเป็นรองนักสู้เจ้าบ้าน “Thunder Kid” ลิโต อาดิวัง ในการบุกไปดวลถึงถิ่นของคู่แข่งขัน เพื่อเปิดศึกการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นสตรอว์เวต ในรายการ ONE: FIRE & FURY ที่ มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีน่า กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 31 มกราคมนี้
นอกจากจะต้องรับมือกับดาวรุ่งพุ่งแรงจากทีมลาไคย์อันโด่งดัง ค่ายใหญ่ที่ปั้นแชมป์โลก ONE มาแล้วถึง 4 คน ยังจะต้องพบกับความกดดันจากเสียงกองเชียร์เจ้าบ้านอีกด้วย
“การสู้กับขวัญใจเจ้าถิ่นนั้นยากเสมอครับ ซึ่งผมเคยตกอยู่ในสถานะแบบนี้มาก่อน”
“มันอาจจะรบกวนจิตใจอยู่บ้าง แต่ในทางกลับกัน มันทำให้ผมไม่ประมาท และตื่นตัวตลอดเวลา เพราะอีกฝ่ายจะมีแฟนๆ ทั้งสนามหนุนหลัง ในขณะที่ผมต้องยืนสู้ท่ามกลางเสียงกองเชียร์เหล่านั้น”
ลิโต มีสถิติอันน่ากลัว โดยชัยชนะ 9 ใน 10 ครั้งมาจากการปิดเกมแบบไม่ครบยก และแพ้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น เขาผ่านเข้าเป็นนักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ ได้ด้วยการใช้ฝีมือล้วนๆ โดยการเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน Rich Franklin’s ONE Warrior Series (OWS) ซึ่งเป็นเวทีค้นหาดาวรุ่งของ วัน แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนตุลาคม 2018
เขาใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านวูซู เก็บชัยชนะได้ทั้งสองครั้ง โดยครั้งแรกชนะแบบทีเคโอ.ตั้งแต่ยกแรก ส่วนครั้งที่สองชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งผลงานเหล่านั้นส่งให้เขาคว้าสัญญามูลค่า 6 หลักในฐานะนักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ อย่างเต็มตัว
เมื่อได้มาเปิดตัวในเวทีระดับโลก ลิโต ก็แจ้งเกิดอย่างสวยงาม หลังจากบุกไปถล่มเจ้าถิ่นแชมป์โลก Pancrase รุ่นฟลายเวต “เซนโซ อิเคดะ” ถึงแดนซากุระ ในศึก ONE: CENTURY PART I และเอาชนะเจ้าบ้านได้ตั้งแต่ยกแรก
หลังจากคว้าชัยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพ ตอนนี้ดูเหมือนว่านักสู้ชาวฟิลิปปินส์วัย 26 ปี เข้าใกล้คำว่าไร้เทียมทานขึ้นทุกที
- ครั้งหนึ่ง “เปี๊ยก” พงษ์ศิริ กับการเป็นจิตอาสา อดีตทีมกู้ภัย 13 หมูป่า
- “รถเหล็ก” พร้อมแล้วกับการเก็บชัยครั้งที่ 3 ในกรุงมะนิลา
- คิกบ็อกซิ่งรอก่อน…“เพชรดำ” ขอกรุยทางสู่สงครามสายเลือดกับ “รถถัง”
สำหรับ พงษ์ศิริ แชมป์มวยไทยภาคเหนือของประเทศไทย เชื่อว่าทักษะในเกมยืนสู้ของเขา ไม่เพียงแต่จะหยุดยั้งสถิติชนะ 6 ไฟต์รวดของคู่แข่งจากทีมลาไคย์เท่านั้น แต่ยังดีพอที่จะทำให้อีกฝ่ายร่วงกลางเวทีได้อีกด้วย
“เขาเป็นนักสู้ที่ครบเครื่อง แข็งแกร่ง เก่งทั้งเกมยืนและเกมนอนสู้ เขามีความดุดันและเป็นพวกเดินหน้าท้าชนด้วย”
“แผนการสู้ของผมในไฟต์นี้คงต้องเน้นด้านเทคนิค ออกหมัดชุดแล้วรักษาระยะห่าง ผมต้องประคองให้เกมอยู่ในรูปแบบยืนสู้ให้นานที่สุด เพราะผมมั่นใจว่าเกมยืนสู้ของผมเหนือกว่า และจะเอาชนะเขาได้ตรงจุดนี้ ซึ่งถ้ามีโอกาสผมก็จะปิดเกมในแบบน็อกเอาต์”
เจ้าของฉายา “นักฆ่าหน้าเปื้อนยิ้ม” สร้างสถิติในการแข่งขันการต่อสู้แบบผสมผสานทั้งสิ้น 10-4 โดย 8 ครั้งเป็นชัยชนะที่ได้มาจากการน็อกเอาต์ และอีกครั้งมาจากการซับมิชชัน
เขาเก็บตัวฝึกซ้อมก่อนขึ้นสังเวียนแข่งขันที่ค่ายไทเกอร์มวยไทยซึ่งเป็นค่ายใหญ่ในภูเก็ต มีนักกีฬาและผู้เรียนจากทั่วโลกเดินทางมาฝึกซ้อมที่นี่มากมาย
นอกจากคู่ซ้อมที่มีฝีมือแล้ว พงษ์ศิริ ยังได้ “จอร์จ ฮิคแมน” มาเป็นหัวหน้าโค้ช ผู้สอนเทคนิค วางแผนการแข่งขัน รวมถึงช่วยเรื่องจิตใจซึ่งสำคัญมากสำหรับนักกีฬา
“จอร์จ เป็นคนถือเป้าซ้อมให้กับผมเอง ช่วยผมวางแผนเกมต่อสู้ ให้กำลังใจและกระตุ้นผมตลอดเวลา โดยบอกว่า ผมชนะได้ ผมทำได้ ซึ่งมันทำให้ผมมีความมั่นใจและฮึกเหิม แต่ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของกีฬาอยู่แล้ว”
การเผชิญหน้ากับ ลิโต อาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะท่ามกลางกองเชียร์เจ้าบ้านที่ มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีน่า
แต่ถ้า พงษ์ศิริ พิชิตชัยครั้งนี้ด้วยการน็อกเอาต์อย่างที่ตั้งใจไว้ เขาจะได้ชื่อว่าเป็นคนแรกที่น็อกนักสู้เจ้าบ้านรายนี้ และชื่อของเขาจะเป็นที่จดจำในแดนตากาล็อกไปอีกนาน
อ่านเพิ่มเติม: “พงษ์ศิริ” หวังพิชิตชัยรับศักราชใหม่ เหนือเจ้าถิ่นทีมลาไคย์