“พงษ์ศิริ” หัวใจใหญ่กว่าตับ รู้ตัวสองวันยืนสู้ “เพชรมรกต” ครบห้ายก
กระแสการต้อนรับดีเกินคาดสำหรับ “พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ที่มาเปิดตัวนัดแรกอย่างกะทันหันในฐานะ “นักมวยขัดตาทัพ” ให้กับศึก วัน แชมเปียนชิพ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย
ด้วยมีเหตุสุดวิสัยให้ต้องเปลี่ยนตัวนักมวยกะทันหัน เนื่องจากคู่ชกที่วางตัวในฐานะคู่เอกของศึก ONE: WARRIOR’S CODE กับ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” ซึ่งแต่เดิมคือ “จามาล ยูซูพอฟ” ชาวรัสเซีย เกิดป่วยกะทันหันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนการแข่งขัน ทำให้ทีมงาน วัน แชมเปียนชิพ ต้องหา “มวยแทน” ที่เหมาะสมที่สุด ทั้งเรื่องน้ำหนักในรุ่นเฟเธอร์เวต (65.9-70.3 กก.), ต้องไม่ติดสัญญาชกที่ไหน, ต้องเว้นระยะวันชกตามเงื่อนไขของ พ.ร.บ.มวย และต้องตรวจสุขภาพผ่านตามกฎระเบียบสากลของ วัน แชมเปียนชิพ
ที่สำคัญคือนักกีฬาทั้งคู่ต้องยินยอมพร้อมใจที่จะชกกัน ทางรายการจะตัดสินใจมัดมือชกไม่ได้ แม้รายการจะเสียหายยิ่งใหญ่จากกรณีไม่มีคู่เอก ซึ่งคู่นี้มีเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต เป็นเดิมพันด้วย
อย่างไรก็ตามความพยายามในการเฟ้นหานักมวยไทยและต่างชาติที่มีเงื่อนไขสมบูรณ์พร้อมทุกประการราวกับ “การพลิกแผ่นดิน” แต่แล้วสองวันสุดท้ายก่อนการแข่งขันก็เหมือน “ชะตาฟ้าลิขิต” ขีดเส้นทางให้ทั้งคู่ต้องมาเจอกันโดยรู้ตัวล่วงหน้าแค่ 2 วัน พงษ์ศิริ ผ่านขั้นตอนและกระบวนการตรวจสอบทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย และพร้อมขึ้นสังเวียนด้วยความสูงที่น้อยกว่า เพชรมรกต 11 ซม.
ในวันชั่งน้ำหนัก เพชรมรกต ชั่งได้ 70.3 กก. ส่วน พงษ์ศิริ ที่ไม่ได้ทำร่างกายมาชั่งได้ 70.2 กก. แม้จะเตรียมตัวมาน้อยกว่าแต่นักมวยค่าย พี.เค.ฯ ก็แผลงฤทธิ์สุดชีวิต เดินหน้าใส่ชนิดไม่ติดเกียร์ถอย ตามสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่มีติดตัวมาจนเป็นที่รู้กันทั่วทั้งวงการ ชนิดที่ว่าถึงไม่มีใบสั่งจาก “เสี่ยแขก” สมชาย เทศรุ่งเรือง หัวหน้าค่าย เจ้าตัวก็ขึ้นชกด้วยใจเกินร้อยตามสัญชาตญาณนักสู้ที่มีอยู่เต็มตัว
หลังผ่านศึกนี้แม้ พงษ์ศิริ จะได้รับความพ่ายแพ้ แต่กระแสตอบรับดีเกินคาดชนิดที่ทำเอาเจ้าตัวถึงกับตื้นตัน ซึ่งนั่นคือกำลังใจที่ทำให้เขารู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิด
“ผมดีใจมากครับที่ได้มาชกในรายการ วัน แชมเปียนชิพ ตามที่ผมเคยตั้งใจไว้นานแล้ว แม้จะเตรียมตัวมาน้อยแต่อยู่บนเวทีผมทำเต็มที่ แพ้ชนะว่ากันอีกที ผมคิดอย่างนี้ครับ”
“ผมยอมรับคำตัดสินว่าผมแพ้ ก็ต้องกลับมาฝึกซ้อมให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่เชื่อว่าถ้าผมซ้อมเต็มที่ คราวหน้าผมไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังแน่นอน จะแพ้หรือชนะสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมคือต้องชกให้สนุก ต้องมันทุกไฟต์ครับ”
“หลังจากเดินทางกลับถึงไทย ผมจะไปพักผ่อนกับครอบครัวสัก 7 วัน แล้วกลับเข้าค่ายฝึกซ้อมต่อไปครับ”
ผลตอบแทนสำหรับนักมวยที่มีหัวใจแกร่งดังกับ “มนุษย์หินฟลิ้นสโตน” คือกำลังใจจากกองเชียร์ที่มาจากเสียงเฮในสนาม และคอมเมนต์ต่างๆ ทางโซเชียลมีเดีย
และที่สำคัญที่สุด…ปัจจุบัน “พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ได้เซ็นสัญญาเป็นนักกีฬาในสังกัดของ วัน แชมเปียนชิพ เป็นที่เรียบร้อย สมใจกองเชียร์แล้ว!!!
อ่านเพิ่มเติม: “เพชรมรกต” แบกเข็มขัดแชมป์โลกกลับไทย นับถือหัวจิตหัวใจคู่แข่ง “พงษ์ศิริ”