“มาซาฮิเดะ คูโด” พร้อมลุยแหลกแจกความมันที่เวียดนาม
“Crazy Rabbit” มาซาฮิเดะ คูโด นักสู้ขวัญใจมหาชน เขาตั้งใจที่จะทำให้แฟนๆ ได้ตื่นตาตื่นใจอีกครั้งในศึก ONE: IMMORTAL TRIUMPH
วันศุกร์ที่ 6 กันยายนนี้ จอมน็อกเอาต์จากจังหวัดกุนมะ ประเทศญี่ปุ่น จะขึ้นสังเวียนเผชิญหน้ากับ “ยอดมวย 3 พ.ศ.” ชาวไทย “The Angel Warrior” พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
เจ้าของแชมป์รายการ RISE รุ่นเฟเธอร์เวต รู้ดีว่าเขาต้องท็อปฟอร์มเท่านั้นในการแข่งขันไฟต์นี้ แม้จะเป็นกติกาคิกบ็อกซิ่งที่เขาถนัดกว่าคู่แข่งขันก็ตาม
คูโด มีพัฒนาการดีขึ้นมากนับตั้งแต่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ ONE เขาปรับเปลี่ยนสไตล์และการฝึกซ้อมไปตามคู่แข่งขันที่เขาต้องเจอ และมันทำให้เขาเป็นนักสู้ที่มีความเก่งกาจรอบด้านมากขึ้น
“ประสบการณ์ของผมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
“ไฟต์แรกที่ผมชกในศึก ONE ผมเจอคู่แข่งขันต่างชาติ ตอนนี้ผมผ่านมาแล้ว 5 ไฟต์กับนักชกระดับโลกทั้งนั้น มันทำให้ผมเก่งขึ้นเป็นลำดับ และชำนาญบนสังเวียนแข่งขันมากขึ้น ซึ่งผมจะแสดงให้เห็นในไฟต์นี้”
“ผมจะออกตัวแรงตั้งแต่ยกแรก จึงทำให้ผมต้องเพิ่มความอึด โดยผมซ้อมทุกอย่างตั้งแต่พื้นฐานมาเลย”
“ผมฝึกความแข็งแกร่งและความฟิตมากขึ้น ผมมั่นใจในพลังหมัดของผมมาตลอด และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมจะสู้ด้วยนวมเล็กแบบเปิดนิ้ว แค่เข้าเป้าจังๆ หมัดเดียวก็สามารถน็อกได้”
ถึงกระนั้นประสบการณ์ของ คูโด ก็แทบจะเทียบไม่ได้กับนักชกไทยเจ้าของรางวัล “ยอดมวย 3 พ.ศ.” ซึ่งมีสถิติสุดโชกโชนชนะ 244 แพ้ 40 เสมอ 3 ไม่เพียงเท่านั้นในไฟต์เปิดตัวในศึก ONE เขายังฝากผลงานไว้อย่างสวยงาม
จากการศึกษาไฟต์ที่ผ่านมาของ พันธ์พยัคฆ์ ด้าน คูโด เองก็ยอมรับว่า ความเก่งของเขาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“พันธ์พยัคฆ์นั้นสามารถควบคุมเกมได้ดีมาก เขารักษาระยะจนแทบจะไม่โดนอาวุธของคู่ชกเลย ซึ่งมันน่าทึ่งมาก เขามีเทคนิคที่ดีกว่าผม เขาเก่งจริงๆ”
“เขาคงมีโอกาสได้ดูไฟต์ที่ผมสู้กับนักชกไทยคนอื่นๆ บ้างแล้ว และคงใช้วิธีการเดียวกันในการเล่นงานผม เขาเป็นมวยซ้าย และเขาอาจเข้าคลุกวงในเพื่อไม่ให้ผมโจมตีได้ ซึ่งใน 2 ไฟต์หลังสุด มันทำเอาจังหวะผมเสียไปเลย”
อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่ พันธ์พยัคฆ์ จะชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง นั่นหมายความว่าไฟต์วันที่ 6 กันยายนนี้ เขาจะต้องสู้ในโลกของนักชกชาวญี่ปุ่น
คูโด เตรียมแผนของเขาไว้แล้ว และพร้อมที่จะโต้กลับเพื่อให้ทุกอย่างเข้าทางตัวเอง
“เขาเป็นแชมป์โลก ซึ่งถ้าผมใช้เกมเตะสู้คงไม่ชนะแน่ ผมจะสู้ด้วยเกมหมัด และหาโอกาสน็อกเขาตั้งแต่ยกแรกเลย”
“ผมเชื่อมั่นว่าทักษะมวยสากลของผมเหนือกว่า และด้วยนวมเล็กแบบนี้ก็เข้าทางผม อีกอย่างคือเขามักจะสู้จากวงนอก เมื่อโดนรุกไล่ จังหวะของเขาก็จะเสีย”
“ผมศึกษาไฟต์ของ รถถัง จิตรเมืองนนท์ เพราะสไตล์มีความคล้ายกันกับผม ผมคิดว่าเขาสู้ด้วยนวมแบบนี้ได้ดี และสามารถหลบการรุกได้ นั่นเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผมเลย”
“ผมซ้อมกับ ฮิเดกิ แชมป์ K-1 Global ซึ่งก็เป็นมวยซ้าย ทำให้ผมได้ประโยชน์มาก เขาเป็นนักชกในรุ่นไลต์เวต ฉะนั้นเขาจึงตัวใหญ่กว่าผม 2 รุ่น การซ้อมกับเขาทำให้ผมทนมือทนเท้า และเริ่มคุ้นเคยกับพละกำลังมากๆ แล้ว”
การปรับตัวในการซ้อมของ คูโด ทำให้เขามั่นใจมากขึ้นในศึกที่ใกล้เข้ามา ซึ่งหากชัยชนะอยู่ในมือเขา อันดับในรุ่นฟลายเวตก็จะสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งยังคงเหมือนเดิม คือการขึ้นสังเวียนแบบไม่กลัวคู่ต่อสู้ และพร้อมแลกอาวุธอย่างสุดชีวิต
“สถิติน็อกเอาต์ของผมมันบอกอะไรในตัวอยู่แล้ว และผมอยากที่จะแสดงให้แฟนๆ เห็นอีก”
“ผมจะเดินหน้าไม่หยุดเพื่อให้แฟนๆ สนุกที่ได้รับชมการแข่งขันของผม เขา (พันธ์พยัคฆ์) ไม่ใช่มวยบุก และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะใส่ให้สุด”