“ยูยะ วากามัตสึ” พัฒนาฝีมือเพื่อหวังน็อก “เจเฮ อุสตาคิโอ” โดยเฉพาะ
หลังสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจในการเจอกับเจ้าตำนาน ทำให้จอมน็อกเอาต์อย่าง “Little Piranha” ยูยะ วากามัตสึ เกิดความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับอดีตแชมป์โลก ONE รุ่นฟลายเวต “The Gravity” เจเฮ อุสตาคิโอ ในการเป็นคู่สำรองของการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต ซึ่งจะจัดขึ้นภายใต้ศึก ONE: DAWN OF HEROES ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์
หากว่าเขาคว้าชัยชนะได้ก็จะทำให้เขายืนอยู่หน้าสุดของแถวเพื่อเตรียมเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์นี้ในกรณีที่มีนักสู้บาดเจ็บหรือต้องเปลี่ยนตัว และมีความเป็นไปได้ที่จะล้างตากับนักสู้ผู้เคยยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับเขามาก่อน
“The Mighty Mouse” ดิมีเทรียส จอห์นสัน ได้รับชัยชนะเหนือ วากามัตสึ ในรอบก่อนรองชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์นี้ ในศึก ONE: A NEW ERA ซึ่งนักสู้จากโตเกียววัย 24 ปี ยอมรับว่าเขารู้สึกถึงความกดดันมากที่สุดในชีวิตกับการขึ้นสังเวียนครั้งนั้น
“มันเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น ดังนั้นความคาดหวังในตัวผมจึงสูงมาก และผมก็มีความกลัวเล็กน้อยว่าจะแพ้อย่างรวดเร็ว”
“มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมกลัวมากที่สุด ผมอยากที่จะชนะ และหลุดพ้นจากความรู้สึกนั้น”
แม้เขาจะรู้สึกเช่นนั้น แต่เจ้าของฉายา “Little Piranha” ก็ทำให้บรรดาแฟนๆ จากทั่วโลกต้องประหลาดใจกับฟอร์มการแข่งขันที่สามารถรับมือได้พอฟัดพอเหวี่ยงกับแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นฟลายเวต 12 สมัย
เขาแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญที่จะต่อกรกับยอดฝีมือของโลกได้อย่างถึงพริกถึงขิง
“หลังจากไฟต์นั้น ผมตระหนักแล้วว่าผมสามารถแข่งขันกับในระดับโลกได้ แต่ผมก็รู้ว่ามันไม่ง่าย”
แม้ในที่สุดตัวแทนจากทีม Tribe Tokyo MMA จะต้องยอมจำนนต่อความพ่ายแพ้หลังจากถูก Guillotine choke ในยกที่สอง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาเกิดความสิ้นหวัง
การได้ขึ้นเทียบชั้นกับนักสู้ผู้เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของโลก ทำให้เขาเพิ่มดีกรีความมั่นใจในตัวเองว่าสามารถแสดงศักยภาพที่ดีขึ้นให้เป็นที่ประจักษ์ภายใต้องค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
“ผมสังเกตเห็นว่าทั้งหมดที่ผมทำไปมันช่วยให้ผมพัฒนาในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องสภาพร่างกาย, สภาพจิตใจ รวมไปถึงทักษะ ซึ่งมันทำให้ผมมีความมั่นใจ ผมคิดไม่ออกเลยว่าผมจะสามารถแข่งขันกับนักสู้ระดับโลกได้หรือเปล่าก่อนหน้านั้น แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมมั่นใจขึ้นมาว่าผมสามารถทำได้”
นั่นหมายความว่า วากามัตสึ จะเดินเข้าสู่เวทีที่ มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีน่า ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ด้วยมุมมองในแง่บวก เมื่อเขาต้องเจอกับคู่แข่งระดับยอดฝีมืออีกคนจาก ทีม ลาเคย์ นั่นก็คือ ยูสตากิโอ ที่เป็นหนึ่งในนักสู้มากประสบการณ์ในระดับท็อป มีชายเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นที่สามารถหยุดยั้งไม่ให้เขาได้รับชัยชนะจากการลงชิงชัย 15 ครั้งในรายการ วัน
“เขาเป็นตัวเก๋าเลยล่ะ ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าเขาจะต่อสู้แตกต่างออกไปจากที่ผมเคยเห็นมากนักหรอก เขาน่าจะพยายามป้องกันการโจมตีของผม และก็คอยจ้องหาจังหวะปล่อยหมัดสวน” วากามัตสึ กล่าว
“ตอนนี้ผมเริ่มปรับตัวเข้ากับ วัน ได้มากขึ้นแล้ว ดังนั้นผมจึงคิดว่าถ้าหากผมพยายามอย่างหนักตลอดทั้ง 3 ยก มันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร ผมเจอกับ จอห์นสัน และคู่แข่งที่แกร่งกว่าเขามาแล้ว ดังนั้นผมจึงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาเลย”
“แฟนๆ สามารถคาดหวังถึงสิ่งที่ทำให้ผมเป็นที่รู้จักได้เลย นั่นก็คือการปิดฉากด้วน็อคเอาท์ ผมต้องการแสดงให้พวกเขาเห็นว่าผมไม่ได้มีดีแค่หมัดเท่านั้น แต่เท้าของผมก็หนักด้วย รวมไปถึงเทคนิกต่างๆ”
“ผมต้องการชัยชนะ ผมเรียนรู้ทุกอย่างจากความพ่ายแพ้ และก็กลายเป็นนักสู้ที่แกร่งขึ้น ผมต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมกลับมาแกร่งมากกว่าเดิม”