“รถถัง-เพชรดำ” เปิดกล้องให้สัมภาษณ์สื่อผ่านออนไลน์ ลั่นซ้อมฟิตเปรี๊ยะ รับประกันความมัน
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา วัน แชมเปียนชิพ ได้จัดงานแถลงข่าวเชิญสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ ร่วมสัมภาษณ์ผ่านระบบ Zoom สองนักชกคู่เอกจากศึก ONE: NO SURRENDER ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ระหว่าง “รถถัง จิตรเมืองนนท์” และ “เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี” โดยได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ อย่างคับคั่ง โดยสองนักชกยืนยันความพร้อมและจะเสิร์ฟความมันให้สมกับที่แฟนๆ รอคอยแน่นอน
การสัมภาษณ์ผ่านออนไลน์ครั้งนี้ เริ่มต้นด้วย “บิ๊กปลาย” นายจิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย ตอบข้อซักถามของสื่อเกี่ยวกับความพร้อมในการจัดแข่งขัน และมาตรการเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้รับการยืนยันว่าจะเป็นไปด้วยความเข้มงวดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีการตรวจเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ก่อนเข้าพักในสถานที่กักตัว ในระหว่างเข้าพัก จนกระทั่งก่อนการแข่งขัน รวมถึงมีการแยกห้องพักทั้งนักกีฬา เทรนเนอร์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ ภายใต้มาตรฐานการจัดการในระดับสากล
ในส่วนของนักกีฬาที่แข่งขันในอีเวนต์นี้ล้วนแล้วแต่เป็นนักกีฬาที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากกฎระเบียบเรื่องการเข้าออกประเทศ และคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดบหนึ่ง จึงมีการระดมเหล่านักสู้ยอดฝีมือระดับแถวหน้าที่อยู่ในประเทศไทยมาเผชิญหน้ากัน ถือเป็นรายการใหญ่ที่ผู้ชมจะตื่นตาตื่นใจ และแม้จะไม่ได้เปิดให้เข้าชมในสนาม แต่จะมีการแพร่ภาพไปกว่า 150 ประเทศทั่วโลกผ่านทางแอปพลิเคชัน ONE Super App
สำหรับ รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่จะขึ้นป้องกันตำแหน่งเป็นครั้งที่ 3 เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ วัน แชมเปียนชิพ มาจัดการแข่งขันครั้งนี้ที่ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นนัดแรกหลังฝ่าวิกฤติโควิด-19 มาร่วม 5 เดือน ตนจะชกให้สนุกให้สมกับที่แฟนๆ รอคอยมาหลายเดือน และในฐานะคู่เอกชิงแชมป์โลก ตนจะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด
“ร่างกายตอนนี้ถือว่าพร้อมมากครับ เพราะช่วงที่ติดโควิด ผมก็ซ้อมร่างกายมาตลอด ไม่ปล่อยตัวเลย ซ้อมรอวันที่รายการจะกลับมาจัดอีกครั้ง ไฟต์นี้เต็มที่ ไม่มีแผ่วแน่นอนครับ”
“การเจอกับ เพชรดำ เป็นครั้งที่ 3 ถ้าเทียบกับครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน ถึงวันนี้เขาโตขึ้นมาหลายระดับเลยครับ เป็นมวยเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย การยืนมวย การออกแข้งซ้าย ลูกหนักขึ้น ไม่เหมือนตอนที่เจอกันแรกๆ”
“เขาพัฒนาตัวเองได้สุดยอด มีความรุนแรง มีจุดแข็งอยู่ที่การยืนมวยนิ่ง ไม่ค่อยตกใจและไม่ค่อยแลกเท่าไหร่ มีลูกฉาบฉวย เตะซ้าย หมุนออกข้าง ถ้าเขาพริ้วออก ผมก็อาจจะโดนแข้งได้เหมือนกัน ซึ่งผมจะไม่ประมาท และจะรักษาสไตล์ ไอรอนแมน ของผมไว้เหมือนเดิม เดินชน เดินอัดตั้งแต่ต้นๆ และจะบีบเขาให้อยู่ในเกมของเราให้ได้ครับ”
นอกจากนี้ รถถัง ยังปิดท้ายด้วยการอัปเดตอาการของพ่อซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปาก ระยะที่ 3 โดยขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลใน อ.หาดใหญ่ และกำลังจะได้รับการฉายแสงในสัปดาห์หน้า
ด้าน เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ที่จะขึ้นท้าชิงเข็มขัดของ รถถัง ยอมรับว่านับถืออีกฝ่ายเสมือนรุ่นพี่คนหนึ่ง เนื่องจากได้รู้จักกันจากการชกมวยบนเวที และทั้งคู่เคยไปร่วมทริปกระชับมิตรภาพนักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ ด้วยกัน จึงพอรู้จักกันในระดับหนึ่ง
“ผมดีใจครับที่ได้ต่อยกับ รถถัง เขาเป็นระดับซูเปอร์สตาร์เมืองไทย ตั้งแต่ชกกันไฟต์ล่าสุด ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นเยอะครับ เก็บมวยระดับแถวหน้าของประเทศมามากมาย ทั้ง เสกสรร รถเหล็ก ยอดเหล็กเพชร เขาเก็บมาหมดแล้ว ทีแรกที่รู้ว่าชกกับเขาก็กังวลนะครับ แต่หลังจากที่ซ้อมเต็มที่ ตอนนี้ไม่กังวลแล้วครับ และยิ่งได้เป็นคู่เอกด้วยก็ยิ่งดีใจมาก”
“ผมเป็นมวยสไตล์ยืนเตะตั้งแต่เริ่มแรก และก็ซ้อมมาแบบนี้ ถ้าเราไปแลกกับเขาก็อาจจะเสียเปรียบ ทั้งเรื่องพละกำลัง และประสบการณ์ เพราะเรารองเขาทุกอย่าง ผมจะไม่ประมาท จะรักษาสไตล์ของตัวเอง และเดินเกมตามแผนที่เตรียมไว้”
“ถึงตอนนี้ก็ซ้อมมาเต็มที่ เหลือเวลาอีกสองอาทิตย์คิดว่าสมบูรณ์แน่นอนครับ ส่วนเรื่องการเปิดตัว ขอเก็บเป็นเซอร์ไพรส์ และอาจต้องคำนึงถึงเรื่องเวลาที่มีจำกัดมากขึ้นครับ”
อ่านเพิ่มเติม: