“ริตู โฟกาต” เสริมแกร่งเกมยืนสู้ จ้องปิดเกมยกแรกแบบน็อกเอาต์
“The Indian Tigress” ริตู โฟกาต ยอดมวยปล้ำหญิงจากแดนภารตะ เจ้าของเหรียญทองมวยปล้ำ Commonwealth ซึ่งผันมาจับกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) และเปิดตัวไฟต์แรกใน วัน แชมเปียนชิพ ด้วยการปิดฉากคู่ต่อสู้ตั้งแต่ยกแรก เธอกำลังจะลงสนามแข่งขันอีกครั้งในศึก ONE: KING OF THE JUNGLE วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ที่สิงคโปร์ ซึ่งเธอเชื่อว่าจะสามารถโบกธงอินเดียเพื่อประกาศชัยชนะได้อีกครั้ง
นัม ฮี คิม 🆚 ริตู โฟกาต ONE: AGE OF DRAGONS
ช่วยนับที…เธอโดนไปกี่หมัด 👊👊👊นี่คือความหายนะของนักสู้สาวเกาหลีใต้ "นัม ฮี คิม" 🇰🇷 เมื่อต้องดวลเดือดกับตัวแม่แห่งวงการมวยปล้ำจากอินเดีย "ริตู โฟกาต" 🇮🇳………………………………………………..🗓 ONE: AGE OF DRAGONS📺 16 พฤศจิกายน | 16.00 น. | ปักกิ่ง📱 ชมฟรีทุกคู่ 👉 bit.ly/ONESuperApp👨💻 คู่ก่อนรายการชมได้ที่เฟซบุ๊กนี้
Posted by ONE Championship Thailand on Monday, November 18, 2019
“ฉันฝึกมาหนักมากสำหรับไฟต์นี้ และฉันก็พร้อมเต็มที่สำหรับการขึ้นสังเวียนแล้ว ฉันฝึกทุกวันและโฟกัสเฉพาะเรื่องการแข่งขัน ฉันเพิ่มทักษะการยืนสู้เป็นพิเศษ และพัฒนาขึ้นไปมาก”
คู่แข่งไฟต์นี้ของ ริตู คือ “Miss Red” หวู เฉี่ยว เฉิน แม้จะเป็นหน้าใหม่ใน “บ้านแห่งศิลปะการต่อสู้” วัน แชมเปียนชิพ แต่บนสังเวียนการต่อสู้ที่ประเทศจีน-ไทเป เธอมีดีกรีเป็นถึงแชมป์เหรียญทองการแข่งขัน เอเชียน ยิวยิตสู โดยผ่านเวทีคิกบ็อกซิ่งและสานต่า รวมแล้วกว่า 20 ไฟต์
ส่วนในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน เธอลงสนามระดับสมัครเล่นและเก็บชัยชนะแบบไร้พ่ายได้ถึง 8 ไฟต์ ส่วนในระดับอาชีพเธอมีสถิติมากกว่า ริตู เพียงครั้งเดียวคือ 2-1
แทนที่นักสู้สาวจากอินเดียจะกังวลอยู่กับสถิติของคู่แข่งขัน เธอใช้เวลาเหล่านั้นศึกษาจุดอ่อนของตัวเอง และพยายามอุดรอยรั่ว รวมถึงขัดเกลาเกมภาคพื้นของเธอให้เฉียบคม
“ฉันดูวีดีโอการแข่งขันของเธอมาบ้าง แต่ไม่ได้วางแผนรับมืออะไรเป็นพิเศษ ฉันโฟกัสกับการกำจัดจุดอ่อนของตัวเอง และเพิ่มพิษสงในเกมภาคพื้นของฉันให้มากขึ้น”
ที่สำคัญการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของ ริตู หลังจากที่เธอได้เข้าร่วมทีมอีโวลฟ์ตลอดปีที่ผ่านมา และเชื่อว่ากำลังใจจากเพื่อนในทีม รวมถึงพ่อแม่ที่จะเดินทางไปอยู่ใกล้ๆ จะเป็นความได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ริตู ได้แบกความหวังของชาวอินเดียนับล้านในการแข่งขันครั้งนี้ในฐานะนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานตัวแทนของประเทศ ซึ่งเธอยอมรับหน้าที่นี้ด้วยความเต็มใจ และจะไม่นำความกดดันนี้ทำให้เสียความเป็นตัวเอง เธอจะใช้มันเป็นแรงผลักดันเพื่อคั้นฟอร์มการแข่งขันอันยอดเยี่ยมให้พวกเขาได้จดจำไปตลอด
“ฉันแค่อยากจะบอกว่า ฉันเคยสร้างผลงานมวยปล้ำมาอย่างไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฉันก็จะทำให้ประเทศภูมิใจในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานเฉกเช่นเดียวกัน”
“ฉันจะพยายามจบเกมนี้ตั้งแต่ยกแรกเหมือนในนัดเปิดตัว ฉันจะใช้ทักษะยืนสู้ให้มากขึ้นและปิดเกมนี้ในแบบน็อกเอาต์”
อ่านเพิ่มเติม: