“ริวโตะ ซาวาดะ” มองไกลถึงความสำเร็จในรุ่นสตรอว์เวต
ดาวดวงใหม่ของรุ่นสตรอว์เวตได้ปรากฏตัวบนเวทีระดับโลก เมื่อวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อ “Dragon Boy” ริวโตะ ซาวาดะ ก้าวขึ้นสังเวียนเปิดตัวในศึก วัน แชมเปียนชิพ ครั้งแรก
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คาดหวังว่าจะได้เห็นจากนักกีฬาดาวรุ่งชาวญี่ปุ่น หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในบ้านเกิด รวมถึงในรายการ Rich Franklin’s ONE Warrior Series (OWS)
ความคาดหวังนั้นปรากฏให้เห็นในศึก ONE: DREAMS OF GOLD ที่ประเทศไทย จากการใช้เวลาเพียง 69 วินาทีเพื่อปิดเกมคู่แข่งขันชาวอินโดนีเซีย “The Krauser” อาซิซ คาลิม ด้วยการซับมิชชันในท่า rear-naked choke
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักสู้หน้าใหม่บนเวทีระดับโลกแห่งนี้ แต่ ซาวาดะ มีประสบการณ์ในการแข่งขันระดับอาชีพมาแล้ว 15 ไฟต์ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่สังเวียนที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าตัวเองรู้สึกกระวนกระวายพอสมควรกับการประเดิมเวทีศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
“ผมไม่ได้ประหม่าเหมือนอย่างที่คิด แต่ประหม่ามากที่สุดเพราะขนาดของสนามแข่งขัน มันเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยผ่านมา จึงทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ไปบ้าง”
“ผมกังวลเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มการแข่งขัน แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในสังเวียนวงกลมเหล็ก ความกังวลก็หายไป ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดี”
ก่อนการแข่งขัน มันแทบไม่มีสัญญาณอะไรเลยที่บ่งบอกถึงศักยภาพของ ซาวาดะ จนเมื่อเปิดฉากเข้าสู่เกมการต่อสู้ เขาก็เริ่มลงมือทันที
“มันเป็นไปตามที่ผมได้ฝึกซ้อมมา ผมพยายามกดดันเขาด้วยการยืนสู้ และทำให้เขาอยู่ห่างจากกรง และผมดีใจมากที่ได้ใช้ท่าถนัด เมื่อเขาหันหลังให้ผม ผมจึงรีบลุยทันที”
“เขาค่อนข้างสูง ผมจึงใช้การโจมตีทั้งสูงและต่ำ ผมไม่กลัวการจู่โจมของเขา และคิดว่าคุมเชิงได้ดี”
“หลังจากรวบเขาลงพื้น ผมอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ จึงลงมือเล่นงานเขา และพอเห็นโอกาสว่าจะจับเขารัดได้ ผมก็ลงมือทันที และมันก็เป็นไปด้วยความราบรื่น”
ถือเป็นการชัยชนะด้วยการซับมิชชันที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ONE รุ่นสตรอว์เวต และเป็นอีกครั้งที่เขาสามารถเผด็จศึกคู่แข่งขันในยกแรก หลังจากที่เคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งในการรายการ OWS เมื่อปีที่แล้ว
จึงค่อนข้างชัดเจนว่า ซาวาดะ เป็นหนึ่งในนักสู้ที่มีเกมปล้ำกอดรัดสุดอันตรายของรุ่นนี้ และเขากำลังก้าวไปสู่การเป็นนักสู้ตัวท็อป
ทันที่ที่เสร็จสิ้นภารกิจในประเทศไทย เขามุ่งหน้ากลับไปที่บ้านเกิด ณ กรุงโตเกียว เพื่อพบปะครอบครัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาหลังจากย้ายมาอยู่กับสังกัดใหม่ และจะกลับไปที่ประเทศสิงคโปร์ในเร็วๆ นี้ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในนัดต่อไป ซึ่งเขาหวังว่ามันอาจเข้าใกล้การชิงแชมป์โลกมากขึ้น
“มันชี้เฉพาะเจาะจงไม่ได้ว่าผมอยากสู้กับใครเป็นคนต่อไป แต่ผมอยากเผชิญหน้ากับคนเก่งๆ ผมพร้อมเจอกับทุกคนและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพเหมือนอย่างในตอนนี้ หลังจากนั้นผมคิดว่าผมอาจจะได้มีชื่อเข้าชิงแชมป์”
“การประเดิมสนามของผมตอนนี้ถือว่าดีมาก ผมได้รับการตอบรับที่ดี และไม่มีปัญหาบาดเจ็บอะไรเลย ผมอยากที่จะขึ้นสังเวียนอีกในเร็วๆ นี ถ้าเป็นไปได้ ผมหวังว่ามันจะเกิดขึ้นในศึก ONE: CENTURY ที่ประเทศญี่ปุ่นอันเป็นบ้านเกิดของผม ในเดือนตุลาคมนี้