“รีเกียน เออร์เซล” มั่นใจย้ำแค้น “นิกี โฮลสเกน” ได้แน่
ศึกสายเลือดกำลังระเบิดขึ้นอีกครั้ง ระหว่าง “The Immortal” รีเกียน เออร์เซล กับคู่ปรับเก่า “The Natural” นิกี โฮลสเกน ซึ่งก่อนหน้านี้ เออร์เซล เคยเอาชนะเพื่อนร่วมชาติอย่าง โฮลสเกน ด้วยคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งให้เขาขึ้นนั่งบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต ทันที
สองนักชกชาวดัตช์กำลังจะกลับมาดวลเดือดกันอีกครั้งในศึก ONE: DAWN OF VALOR ในวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ที่สนามอิสโตรา เสนายัน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีเดิมพันเป็นเข็มขัดแชมป์โลกที่ เออร์เซล ครอบครองอยู่
แชมป์โลกชาวดัตช์ไม่คิดว่าภาคสองกับ โฮลสเกน จะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ แต่เขาก็พร้อมสู้ เพื่อพิสูจน์ให้แจ่มแจ้งว่าเขาคือเบอร์หนึ่งของรุ่นอย่างไร้ข้อกังขา
“ความรู้สึกแรกเลยคือ ‘นี่ผมเพิ่งเอาชนะเขาไปเองไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเราต้องมาเจอกันอีก แต่ผู้จัดการผมบอกว่า ทางที่ดีที่สุดคือผมจะต้องสู้กับเขาอีกครั้ง และพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าผมเหนือกว่า”
นักชกจากค่ายศิษย์ยอดธง Amsterdam คว้าชัยชนะในไฟต์แรกอย่างไม่มีอะไรต้องกังขา โดยยกที่ 4 เขาประเคนเข่าลอยใส่คู่ต่อสู้จนร่วงลงพื้น
ถึงกระนั้น โฮลสเกน ก็ทนทายาด กัดฟันสู้จนสิ้นเสียงระฆังสุดท้าย ซึ่งฝ่าย เออร์เซล รู้ดีว่าคู่ชกของเขาคงได้เรียนรู้แล้วว่า อะไรคือสิ่งที่ผิดพลาดในไฟต์แรก และจะกลับมาด้วยฟอร์มที่ดีกว่า แข็งแกร่งกว่า และกระหายชัยชนะยิ่งกว่าเดิม
“ผมคิดว่า นี่คงเป็นไฟต์ที่ยากขึ้นสำหรับเราทั้งคู่ เพราะเราต่างรู้ถึงสไตล์การชกของอีกฝ่ายมากขึ้น เขารู้ว่าผมชกแบบไหน ผมก็รู้เขาเหมือนกัน”
“ไฟต์นี้เขาน่าจะมาในสไตล์ที่ต่างจากเดิม และผมก็เตรียมตัวมาด้วยรูปแบบที่ต่างจากเดิมเช่นกัน แน่นอนเขาต้องการชัยชนะ และผมก็ต้องการพิสูจน์ว่าผมดีกว่า มันจะเป็นไฟต์ที่สาหัสกว่าครั้งแรกแน่นอน”
แม้งานนี้จะหินกว่าเดิม แต่ เออร์เซล มั่นใจว่าเขาจะกำชัยชนะได้อีกครั้ง และป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เขาเพิ่มดีกรีการฝึกซ้อมให้เข้มข้นขึ้น เพื่อจะกดดันอีกฝ่ายจนสิ้นเสียงระฆังสุดท้าย
“จะว่าไปแล้ว อาจไม่ใช่การเพิ่มเติมสิ่งใหม่ แต่ผมซ้อมให้ฟิตกว่าเดิม เพราะรู้สึกว่าในยกสุดท้ายของไฟต์แรก ผมยังกดดันเขาไม่มากพอ”
“ผมยังมั่นใจว่าชัยชนะจะอยู่ในมือผม แต่เราสองคนคงสู้กันหมดแรง ผมตั้งใจเก็บแต้มไปเรื่อยๆ ถอยบ้าง โยกออกซ้ายขวาบ้าง แต่จะไม่เดินหน้าลุย ผมเตรียมแผนการไว้แล้ว และจะเล่นงานเขาให้ถึงยกสุดท้าย”
“ผมเชื่อว่า นิกี จะแกร่งขึ้น แต่ไม่คิดว่าเขาจะยืนระยะถึงยกท้ายๆ กับผมได้”
เออร์เซล เกือบเอาชนะแบบไม่ครบยกได้ในไฟต์แรกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่สิงคโปร์ ซึ่งการปิดฉากด้วยการน็อกเอาต์ถือเป็นสิ่งที่เพอร์เฟ็คท์สำหรับการแข่งขัน แต่การเจอกับหนึ่งในนักชกที่เก่งกาจที่สุดของโลก จึงไม่อาจการันตีได้ว่าจะคว้าชัยชนะได้หรือไม่ และในรูปแบบไหน
อย่างไรก็ตาม แชมป์โลกหนุ่มวัย 26 ปีจากกรุงอัมสเตอร์ดัมสัญญาว่า เขาจะมาด้วยฟอร์มเต็มร้อย พร้อมสไตล์ที่ดุเด็ดเผ็ดมัน บดขยี้ กดดัน และจะทำให้ไฟต์นี้เป็นที่น่าจดจำสำหรับแฟนๆ ชาวอินโดนีเซียชนิดที่ลืมไม่ลงทีเดียว
“เป้าหมายของผมคือการชนะแบบไม่ครบยกให้ได้เสมอ แต่คู่ชกคราวนี้คือ นิกี โฮลสเกน เขาก็เก่งพอตัว และเป็นคู่แข่งที่อันตราย แม้ยามที่เล่นงานเขาได้ก็ตาม”
“ไฟต์นี้ผมสู้เต็มที่แน่ แต่คงไม่สัญญาว่าจะปิดเกมเร็วนะ เพราะเมื่อต้องเจอกับคู่ชกเก่งๆ แน่นอนมันไม่ใช่งานง่าย ที่ผ่านมามีคู่ชกที่ผมต้องสู้ด้วยสองรอบราว 3 คน ซึ่งในไฟต์รีแมตช์ผมน็อกพวกเขาได้ทั้งหมด และหวังว่าจะทำแบบเดียวกันอีกครั้ง”