สมน้ำสมเนื้อ! “คริสเตียน ลี” หมายตา “เอ็ดดี อัลวาเรซ” ที่อเมริกา
“The Warrior” คริสเตียน ลี สร้างปรากฏการณ์ความมันเร้าใจในศึก ONE: CENTURY PART I ด้วยชัยชนะอย่างเหนือชั้นต่อคู่แข่งขัน “Dagi” เซยิด กูเซน อาร์สลานาลิเอฟ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ในรอบชิงชนะเลิศ ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นไลต์เวต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยรู้ตัวล่วงหน้าเพียงสองอาทิตย์
มีนักกีฬาไม่กี่คนที่จะยอมเสี่ยงขึ้นสังเวียนดวลเดือดกับคู่แข่งสุดอันตรายอย่างปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้ แต่ ลี เชื่อว่าในฐานะนักสู้ชั้นนำผู้ครองตำแหน่งแชมป์โลกของรุ่นนี้ มันเป็นหน้าที่และศักดิ์ศรีที่เขาต้องตอบรับ
“จริงๆ แล้วมันก็แค่ ผมเป็นนักสู้ และเป็นแชมป์ ขึ้นไปทำหน้าที่ของตัวเองบนสังเวียน”
“ผมพูดมาตลอดทั้งสัปดาห์ ตั้งแต่ตอบรับการแข่งขัน ในฐานะแชมป์โลก ผมควรต้องพร้อมที่จะสู้กับทุกๆ คนและทุกเวลา นั่นคือสิ่งที่ผมทำ ผมเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่อันตรายและเอาชนะเขาได้หลังผ่านไปสามยก”
“ผมมีเวลาเตรียมตัวแค่ 10 วันสำหรับไฟต์นี้ แต่พวกเรามีแผนอยู่แล้ว เราใช้เวลาไม่มากในการวางกลยุทธ์เพื่อรับมือกับคู่แข่งคนนี้ และคุณคงเห็น กล้องอาจจะจับภาพไว้ได้ ผมอาเจียนทันทีหลังจบการแข่งขัน ผมทุ่มสุดตัวแล้วจริงๆ”
“ ดากี เป็นคู่ต่อสู้ที่แกร่งและอึดมาก ผมนับถือเขาเลย และเขายืนต่อกรกับผมได้จนครบยก”
ก่อนถึงรอบชิงชนะเลิศนี้ อาร์สลานาลิเอฟ ผ่านด่านคู่ต่อสู้มาแล้วถึงสองคน โดยน็อก “E.T.” เอฟ ทิง และ “อาเมียร์ ข่าน” ได้ตั้งแต่ยกแรก ก่อนทะลุเข้าสู่รอบชิงดำ และมีความได้เปรียบเหนือกว่าในเรื่องของการเตรียมตัว แต่ ลี เชื่อว่า ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ ทำให้เขาประสบความสำเร็จ แม้จะดูเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็ตาม
- “คริสเตียน ลี” ดับซ่า “เซยิด กูเซน อาร์สลานาลิเอฟ” คว้าแชมป์ ONE เวิลด์ กรังปรีซ์ รุ่นไลต์เวต
- “ดิมิเทรียส จอห์นสัน” พุ่งเป้าเข้าหา “อาเดรียโน โมราเอส” พ.ศ.หน้า
- “แองเจลา ลี” เปิดใจหลังคว้าชัยเหลือเชื่อเหนือ “ซง จิง หนาน”
การฝึกฝนเคียงข้างพี่สาวอย่าง “Unstoppable” แองเจลา ลี ที่ยิม United MMA ในฮาวาย ภายใต้คำแนะนำของ “เคน ลี” ผู้เป็นพ่อที่คอยปลุกปั้นพวกเขามาตลอด ทำให้เขาพร้อมอ้าแขนรับการแข่งขันในครั้งนี้
“ผมยกความดีความชอบทั้งหมดให้กับทีม และทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำด้วยกันในยิม โดยผมกับพี่สาวอยู่ซ้อมที่ยิมตลอดทั้งปี แม้ว่าเราจะไม่มีคิวแข่งขันก็ตาม และนั่นคือการใช้ชีวิตของเราทั้งสองคน”
“ผมต้องเตรียมพร้อมอย่างหนัก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวผมอยู่แล้ว การทุ่มเทฝึกซ้อมทำให้ผมชนะการต่อสู้ และนั่นคือสิ่งที่ผมทำที่โรงยิมทุกวัน”
ในฐานะแชมป์โลกและแชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นไลต์เวต ทำให้ตอนนี้ “The Warrior” คริสเตียน ลี มีอำนาจตัดสินใจถึงการแข่งขันครั้งต่อไปในองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดของโลก
เขาได้แสดงฝีมือในศึกประวัติศาสตร์นัดที่ 100 ของ วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ เขายังต้องการเป็นกำลังหลักขององค์กรในการเปิดสังเวียนและนำการต่อสู้ที่ตื่นตาตื่นใจไปสู่อเมริกาเหนือในปี 2020
ลี ต้องการพบคู่แข่งชื่อดังที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น โดยเขาหวังว่าจะได้เผชิญหน้ากับดาวดังของวงการ ผู้ซึ่งพิชิตสังเวียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอีกฟากของมหาสมุทรแปซิฟิก และสามารถนำความตื่นเต้นและเกียรติยศมาสู่การเปิดตัวในอเมริกาได้
“มีคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้ออยู่หลายคนในรุ่นไลต์เวต แต่เมื่อมันมีการถ่ายทอดสดในสหรัฐอเมริกา ผมก็อยากเผชิญหน้ากับ เอ็ดดี อัลวาเรซ ที่นครนิวยอร์ก หรือที่ฮาวาย”
“ผมคิดว่าแฟนๆ คงตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้เห็นผมดวลกับ เอ็ดดี อัลวาเรซ ในสหรัฐฯ และผมอยากเป็นนักสู้คนแรกที่นำ วัน แชมเปียนชิพ ไปสู่สายตาชาวอเมริกัน ซึ่งผมมองว่ามันสามารถเป็นไปได้สำหรับไฟต์ต่อไป”