“อากิฮิโร” โว 16 ปีกับการคลุกคลีในกีฬา MMA สร้างแต้มต่อนักสู้หนุ่ม “พงษ์ศิริ”
“Superjap” อากิฮิโร ฟูจิซาวา นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) จากกรุงโตเกียว วัย 40 ปี ที่มีประเทศไทยเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง กำลังจะคืนสังเวียนกู้ศรัทธา ด้วยการเผชิญหน้านักสู้หนุ่มดอย “นักฆ่าหน้าเปื้อนยิ้ม” พงษ์ศิริ มิตรสาธิต ในศึก ONE: NO SURRENDER II ศุกร์ที่ 14 สิงหาคมนี้
เจ้าของฉายา Superjab ก้าวเข้าสู่ วัน แชมเปียนชิพ หลังคว้าชัยชนะในการแข่งขัน Rich Franklin’s ONE Warrior Series ซีซันแรก เมื่อเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ควบสถิติไร้พ่ายในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน ชนะ 5 เสมอ 1 โดยเป็นการปิดเกมแบบไม่ครบยก 100%
อากิฮิโร ฟูจิซาวา ใน Rich Franklin’s ONE Warrior Series
แต่หลังจากนั้นหนึ่งปีให้หลัง ฟอร์มของ อากิฮิโร ก็เริ่มไม่ได้ดังใจ เขาพบกับความพ่ายแพ้ 3 ไฟต์ติดต่อกัน ซึ่งเจ้าตัวมองว่ามันเป็นปีแห่งการเรียนรู้ และพยายามที่จะกลับเข้าสู่ท็อปฟอร์มให้ได้
การต้องขึ้นสังเวียนกับนักสู้หนุ่มวัย 24 ปี อย่าง พงษ์ศิริ ซึ่งเคยสร้างสถิติไร้พ่ายในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานก่อนหน้านี้ 9 ไฟต์รวด แม้ช่วงหลังเขาจะพ่ายให้กับนักสู้เก่งๆ หลายคน แต่เมื่อชั่งประสบการณ์แข่งขันในกีฬานี้ 15 ไฟต์ บวกเวทีมวยไทยอีกร่วม 90 ครั้ง ก็นับว่า พงษ์ศิริ มีเที่ยวบินสูงกว่า อากิฮิโร อยู่มาก
“เขา (พงษ์ศิริ) มีพื้นฐานมวยไทย แน่นอนว่าเขาย่อมต้องเก่งเรื่องการยืนสู้ วิธีแก้เกมที่ดีที่สุดคือต้องจับเขาเทกดาวน์ และเล่นเกมภาคพื้น ก่อนที่จะจบด้วยการซับมิชชัน”
“ถ้าผมทำตามแผนนี้ไม่ได้ ผมก็ยังมีอีกหลายทางเลือก ซึ่งถ้าพูดถึงการแข่งขันการต่อสู้แบบผสมผสานแล้ว ผมยังเชื่อว่าผมมีทักษะและลูกล่อลูกชนมากกว่าเขา เขาอาจจะมีประสบการณ์บนสังเวียนมากกว่าโดยเฉพาะในการแข่งขันมวยไทย แต่ในกติกานี้ผมเชื่อว่าผมคลุกคลีกับมันมามาก เพราะผมเริ่มฝึกมาตั้งแต่แรก ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาร่วม 16 ปีแล้ว” อิกิฮิโร กล่าว
ตั้งแต่ก่อนเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อากิฮิโร ได้ฝึกซ้อมภายใต้การดูแลของหัวหน้าโค้ชคนใหม่ ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ อย่าง “นิโคลัส ลี” ซึ่งเปิดยิม Yorky MMA อยู่ที่กรุงเทพฯ จึงทำให้ อากิฮิโร เป็นนักกีฬาต่างชาติที่ได้ร่วมแข่งขันในศึก ONE: NO SURRENDER II นั่นเอง
“การเปลี่ยนโค้ชทำให้เราต้องพยายามจูนกันในช่วงแรกๆ ฟอร์มของผมจึงยังไม่เข้าที่เข้าทาง โค้ชแนะนำว่าผมต้องแก้ไขจุดอ่อน และจำเป็นต้องพัฒนาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งเราได้ช่วยกันแก้ไขจุดต่างๆ ให้ดีขึ้น เพื่อดันให้ผมกลับไปสู่ฟอร์มการแข่งขันอย่างเมื่อปีก่อนหน้า”
การอาศัยอยู่บ้านหลังที่สองที่ประเทศไทยในช่วงโควิด-19 แม้ยิมจะปิดแต่ อากิฮิโร ก็ยังคงฝึกซ้อมด้วยตัวเองและหมั่นรักษาร่างกายให้ฟิตอย่างสม่ำเสมอ ทั้งด้วยการวิ่ง บอดี้เวต ชกลม จึงทำให้รูปร่างและน้ำหนักของเขาไม่เป็นปัญหาเลยสำหรับการแข่งขันไฟต์นี้
อีกทั้งการแข่งขันในรูปแบบสนามปิด ไม่มีผู้ชม ยิ่งจะเป็นการช่วยลดความกดดันให้กับนักกีฬาต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ต้องเจอกับนักสู้เจ้าบ้าน ซึ่งเราคงจะได้เห็นกันว่า อากิฮิโร จะใช้ความเก๋าเกมที่เขาฝึกฝนมากว่า 16 ปี จัดการกับ พงษ์ศิริ ได้อย่างที่เขาตั้งใจหรือไม่…14 สิงหาคมนี้เดี๋ยวได้รู้กัน!
อ่านเพิ่มเติม: