“อาร์จาน บูลลาร์” เขามาเพื่อสิ่งที่ “แบรนดอน เวรา” ครองอยู่
ในฐานะนักสู้ตัวท็อปรุ่นเฮฟวีเวตของอินเดียอย่าง “Singh” อาร์จาน บูลลาร์ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้เปิดตัวอย่างสวยงามบนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ในศึกประวัติศาสตร์ ONE: CENTURY PART II เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา อีกแล้ว
บูลลาร์ แทบไม่ได้ใช้ทักษะมวยปล้ำของเขาเลย แต่กลายเป็นว่าเขาตัดสินใจยืนแลกหมัดกับคู่แข่งอย่าง “The Hammer” มาวโร เซริลลี แม้มันไม่ใช่ทางถนัดของเขา แต่สุดท้ายเขาก็สามารถปิดจ๊อบและได้รับการชูมือให้เป็นผู้ชนะ
“ผมสบายดีมาก ต้องขอบคุณที่เป็นแบบนั้น ผมสามารถกลับบ้านไปหาครอบครัวได้แบบสมบูรณ์ ขอบคุณพระเจ้า”
“นอกเหนือจากนั้นแล้ว ถือว่าผมประสบความสำเร็จเอามากๆ มันเป็นเรื่องของการออกหมัด และพยายามไม่โดนหมัด ผมได้รับคำตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการ และผมก็มีความสุขมากจริงๆ”
บูลลาร์ เป็นนักกีฬาเหรียญทองมวยปล้ำ Commenwealth Games และเคยผ่านการแข่งขันโอลิมปิกส์มาแล้ว แต่คู่แข่งร่างยักษ์ชาวอิตาเลียนก็ทำได้ดีในการรับมือกับเกมปล้ำของเขา
นอกจากนั้นนักสู้ชาวอินเดียวัย 33 ปี ยังผ่านการฝึกฝนคิกบ็อกซิ่งที่ WKX กับ “เจย์ จอนซีย์” ที่แคนาดา นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมเขาจึงใช้เกมยืนแลกกับ เซริลลี แม้จะน็อกคู่แข่งขันไม่ได้ แต่เขาก็ทำให้ใบหน้าของ เซริลลี บอบช้ำจากพลังหมัดและอัปเปอร์คัตไปหลายดอก
“เขาอึดมาก แข็งแกร่ง และสามารถต้านทานการจับรวบของผมได้”
“เขารับหมัดของผมไปแบบเต็มๆ ในคืนนี้ แต่เขาก็ยังคงเดินหน้า เขาต้องการชัยชนะ แต่ต้องขอบคุณที่ผมมีคู่ซ้อมที่ดี และผมก็มีหัวจิตหัวใจที่ยิ่งใหญ่”
“มันเป็นเรื่องยากเสมอ ผมจึงจำเป็นต้องฝึกฝนฝีมือให้เฉียบคมอยู่ตลอดเวลา ผมมีความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะ และนั่นก็คือเป้าหมายที่ผมมาที่นี่”
ชัยชนะเหนืออดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวตในครั้งนี้ ส่งให้ “Singh” เป็นที่จับตาขึ้นมาทันที กับการขึ้นสู่อันดับผู้ท้าชิงแชมป์โลกใน “บ้านแห่งศิลปะการต่อสู้” วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งทำให้แฟนๆ ในบ้านเกิดของเขาต่างรู้สึกตื่นเต้นที่อาจมีโอกาสได้เห็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หาก บูลลาร์ ได้เป็นนักสู้อินเดียคนแรกที่คว้าแชมป์โลกในกีฬาประเภทนี้
“ผมตื่นเต้นมากๆ คุณก็รู้ว่าผมมาที่นี่เพื่อเป็นแชมป์โลก”
“ผมต้องการสิ่งที่ แบรนดอน เวรา ครองอยู่ เขาได้มันมาที่ฟิลิปปินส์ เพื่อชาวฟิลิปีโน ผมก็ต้องการที่จะทำเช่นนั้นเพื่อประเทศชาติ และเพื่อชาวอินเดียเช่นกัน ผมต้องการที่จะทำตามความฝัน และก้าวไปเป็นแชมป์โลก ผมขออวยพรให้กับเขา แต่เป้าหมายมันก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป”
“ผมตื่นเต้นมากๆ ผม และทีม วัน แชมเปียนชิพ จะทำให้ประเทศของผมร้อนเป็นไฟ”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดแบบชัดเจนว่า เขาพร้อมสำหรับการแข่งขัน 5 ยกในไฟต์ชิงแชมป์โลก แต่มั่นใจได้เลยว่า บูลลาร์ จะตอบรับโอกาสนี้แน่หากมันผ่านเข้ามา
“ผมปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโค้ช แต่ในฐานะนักสู้ ผมมาที่นี่เพื่อเป็นแชมป์โลก นั่นคือความฝันของผม”
“ผมจะยังคงฝึกซ้อมต่อไป และทำให้ร่างกายพร้อมสมบูรณ์ที่สุด นั่นคือหน้าที่ของผม”