“อาเมียร์ ข่าน” อยากคืนฟอร์มในฐานะจอมเผด็จศึก

“อาเมียร์ ข่าน” เริ่มต้นไม่สวยนักในปีที่ผ่านมา แต่หลังจากจบปี 2019 เขาก็เชื่อว่าจะสามารถสร้างความมั่นใจและศรัทธาของตนเองกลับมาได้อีกครั้ง ในการแข่งขัน ONE: KING OF THE JUNGLE ซึ่งจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ด้วยการเผชิญหน้ากับผู้ชนะจาก ONE Warrior Series อย่าง “คิมิฮิโร เอโตะ”

อาเมียร์ คืนฟอร์มอีกครั้ง หลังเอาชนะ “ET” เอฟ ทิง ไปอย่างเฉียดฉิว ในศึก ONE: EDGE OF GREATNESS เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม แต่มันกลับสร้างความรู้สึกผสมปนเปให้กับเขาหลายอย่าง ใจหนึ่งเขายินดีกับผลลัพธ์ แต่อีกใจก็ยอมรับว่าเขาอยากให้ผลการแข่งขันมันชี้ชัดขาดลอย และนั่นเองที่ผลักดันให้เขาอยากจะกู้ฟอร์มในฐานะจอมเผด็จศึกที่อันตรายที่สุดของรุ่นไลต์เวต

ในฐานะแชมป์มวยไทยชาวสิงคโปร์ อาเมียร์ ใช้พื้นฐานการต่อสู้ที่เขามีอยู่ประยุกต์ใช้ในการต่อสู้แบบผสมผสาน โดยที่ผ่านมาสามารถเก็บชัยชนะได้ 12 ครั้ง โดย 8 ครั้งเป็นการน็อกเอาต์ และอีก 2 ครั้งเป็นการซับมิชชัน คิดเป็น 83 เปอร์เซ็นต์ในการปิดเกมแบบไม่ครบยก ซึ่งเป็นสถิติที่น่าประทับใจมากทีเดียว

“ไฟต์ล่าสุดผมระวังตัวเกินไป เราฝึกเกมบุกจากวงนอก แต่พอถึงตอนนั้น ผมไม่สามารถหาจังหวะออกอาวุธได้เลย ผมอยากกลับไปเป็นจอมน็อกเอาต์ ซึ่งหลายคนลืมภาพนั้นไปแล้ว ผมอยากพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าผมยังเจ๋งอยู่”

• “โฮโนริโอ” สืบทอดสายเลือดนักรบมาจากบรรพบุรุษอีโกรอต
• การคิดบวกที่ได้จากพ่อ ช่วย “อาเมียร์ ข่าน” รับมือกับอุปสรรคในชีวิต
• “เจฟ จัน” นักสู้เน็ตไอดอลกับเส้นทางที่เลือกเอง
  

“ปัญหาที่เรื้อรังมานานสำหรับผม คือความไม่มั่นใจ ผมมีอาวุธอยู่ในคลัง แต่ใจผมมันยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะสาดอาวุธออกไป พวกเราพยายามหาทางแก้ไขจุดนี้ โดยเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมออกอาวุธ ผมต้องตั้งใจให้มันแตกต่างระหว่างการต่อยเพื่อสัมผัสตัวเขา หรือต่อยเพื่อให้เขาเจ็บ”

การเผชิญหน้ากับ คิมิฮิโร ในไฟต์นี้ ทำให้ อาเมียร์ เชื่อว่าเขาจะสามารถเรียกวิญญาณจอมเผด็จคืนกลับมาได้ แม้นักสู้จากแดนอาทิตย์อุทัยจะมีฝีมืออันตราย การันตีได้จากชัยชนะในการแข่งขัน OWS ด้วยการซับมิชชันคู่ต่อสู้ 3 คน 

นอกจากนี้ทั้งคู่เคยฝึกฝนการต่อสู้ด้วยกันที่ยิมอีโวลฟ์ ในสิงคโปร์เมื่อปีกว่าที่ผ่านมา อาเมียร์ รู้ว่าคู่แข่งรายนี้มีทักษะการปล้ำจับล็อกที่น่าเกรงขามขนาดไหน

“เขาไม่ค่อยถนัดการยืนแลกอาวุธ สายตาของเขาจับการเคลื่อนไหวได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะตอนที่มันพุ่งเข้ามาใกล้ แต่สิ่งที่เขาทำได้ดีจริงๆ คือมวยปล้ำ ซึ่งเราเคยฝึกด้วยกัน เขายังเคยสอนผมด้วยซ้ำ ดังนั้นผมจึงคุ้นเคยกับกระบวนท่าของเขา และนั่นคือข้อได้เปรียบอย่างเดียวที่เขามี”

“ผมจะไม่ประมาทเกมยืนสู้ของเขา เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาน่าจะพัฒนาฝีมือขึ้นไปมากจากที่เราเคยฝึกด้วยกัน เช่นเดียวกับการป้องกันเทกดาวน์ของผมที่ดีขึ้น ทางเดียวที่เขาจะมีโอกาสชนะเกมนี้ได้ คือต้องรวบผมลงพื้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง”

อีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงเวลาที่ อาเมียร์ จะเผชิญหน้ากับคู่ซี้เก่าที่เคยซ้อมยิมเดียวกัน เขาทั้งมั่นใจและมุ่งมั่นที่จะนำความตื่นเต้นมามอบให้แฟนๆ

“ผมอยากจะเข้าไปยืนตรงนั้น และเป็นฝ่ายโจมตีก่อน ผมต้องการเปิดเกมอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการชกเขาอย่างแรง ทำลายการ์ดของเขาและประเคนทุกอย่างตามไปหลังจากนั้น”

“ผมว่าผมสามารถจัดการเขาได้ภายในยกหนึ่งไม่ก็ยกสอง ผมวางแผนที่จะติดเครื่องให้เร็วและแรง แต่ต้องใช้สมองในการแข่งขันด้วย ไม่ใช่เอาแต่ใช้กำลังเข้าแลก และเมื่อทุกอย่างเริ่มต้นตามแผนแล้ว ผมจะอ่านเกมต่อไปว่ามันจะไปในทิศทางไหน”

อ่านเพิ่มเติม: “คิมิฮิโร เอโตะ” อัปเกรดตัวเอง พร้อมต่อกรซี้เก่า “อาเมียร์ ข่าน”