“เคนตะ ยามาดะ” หวังใช้ไหวพริบพิชิตเจ้าถิ่น “เมืองไทย”
“เคนตะ ยามาดะ” เป็นหนึ่งในนักชกชาวญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์สูงทั้งในการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย ผ่านสังเวียนมาแล้วถึง 88 ไฟต์ และเคยผ่านการสู้ศึกกับนักชกไทยมาแล้วหลายคน
เขากำลังก้าวขึ้นสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ เป็นครั้งที่ 3 ในศึก ONE: DREAMS OF GOLD ซึ่งไฟต์นี้เขาจะได้พบกับนักชกขวัญใจชาวไทย “ขุนศอกผีดิบ” เมืองไทย พี.เค แสนชัยมวยไทยยิม ในการแข่งขัน วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคมนี้
Japanese warrior Kenta Yamada earns a hard-fought split decision win against ultra-tough Deividas Danyla in ONE Super Series Muay Thai!Watch the full event on the ONE Super App 👉 http://bit.ly/ONESuperApp | TV: Check local listings for global broadcast
Posted by ONE Championship on Friday, May 3, 2019
แม้นักชกวัย 32 ปีจากโตเกียวจะไม่ใช่หน้าใหม่ของ วัน แชมเปียนชิพ เช่นเดียวกับ เมืองไทย แต่ทั้งคู่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการสวมนวมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน 4 ออนซ์ เพราะถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับนักชกคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย แต่ไฟต์นี้เชื่อว่าทั้งคู่ได้ปรับตัวกับนวมแบบนี้มาระยะหนึ่งแล้ว จะสามารถออกอาวุธได้อย่างถนัดและคล่องแคล่วมากขึ้น
“มันเบาและสบายมือเล็กน้อย แต่สำหรับผมก็รู้สึกว่ามันเล็กจริงๆ นั่นล่ะ”
“จริงๆ แล้วในไฟต์ล่าสุดที่ผมโดนอัปเปอร์คัตเข้าไปเต็มในยกแรก มันรู้สึกมึนจนแทบจะจำอะไรไม่ได้เลย”
ด้วยหัวใจของนักสู้ที่มีอยู่ในตัว ยามาดะได้แสดงให้แฟนๆ ทั่วโลกได้เห็นถึงทักษะการต่อสู้ที่คู่ควรกับการเป็นแชมป์ WBC มวยไทยจากญี่ปุ่น, แชมป์ NJKF สองรุ่น และแชมป์ Krush คิกบ็อกซิ่ง อีกทั้งยังยกเครดิตความสำเร็จที่ผ่านมาว่าส่วนหนึ่งมาจากการเป็นครูฝึกสอนคิกบ็อกซิ่งที่ REON Fighting Sports Gym ที่โตเกียว
“ตั้งแต่ผมเริ่มมาฝึกสอนที่นี่ ทำให้ผมกลายเป็นนักชกที่มีไหวพริบมากขึ้น”
“ผมสังเกตเห็นเทคนิคหลายอย่างมากขึ้น เมื่อคุณได้ฝึกสอนใคร คุณจะเข้าใจมันอย่างถ่องแท้มากขึ้นด้วย”
ยามาดะ หวังใช้ประสบการณ์และเทคนิคที่เขาเก็บเกี่ยวมาทั้งชีวิตในการเผชิญหน้ากับนักชกไทยที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแถวหน้าของประเทศอย่าง “เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ผู้มีอาวุธศอกสุดอันตราย บวกสถิติน่าทึ่งถึง 198-41-4 และเคยผ่านสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ มาแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยคว้าชัยชนะตั้งแต่นัดเปิดตัวเหนือแชมป์โลกสองสมัย “พานิคอส ยูซูฟ”
“เขาเป็นนักต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก ผมต้องเคลื่อนตัวให้ไว เหมือนเท้าติดไฟตลอดเวลา เขาอาจจะใช้ทักษะการกอดรัดคอตีเข่า และหาจังหวะสับศอก ตามแบบสไตล์มวยไทยคลาสสิก”
“แต่เนี่องจากคู่ชกของเขาส่วนมากเป็นนักมวยไทย ผมคิดว่าเขาอาจจะยังไม่เคยเจอมวยที่มีสไตล์เหมือนผม หากตัดสินใจแลกอาวุธกับเขา บางทีผมอาจะไม่ต้องกังวลเรื่องศอก เพราะการใช้ศอกมันจะเกิดขึ้นในระยะประชิด ดังนั้นผมจะไม่ให้เขาเข้าใกล้ผมได้ ซึ่งผมคิดว่าเขาอาจจะใช้หมัดไม่ค่อยดีนัก ซึ่งมันเป็นโอกาสของผมตรงนี้”
ยามาดะ กำลังจะเดินเข้าถ้ำเสือในวันศุกร์นี้ กับการบุกมาเผชิญหน้าเจ้าของฉายา “ขุนศอกผีดิบ” ถึงบ้านเกิด แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถทำให้ผู้ชมทั้งสนามต้องตกตะลึงและชื่นชมกับการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งหากเขาทำได้ ก็เท่ากับเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาก็มีฝีมือเทียบชั้นได้กับนักชกที่มาจากถิ่นกำเนิดของมวยไทยเช่นกัน
“เมืองไทยเป็นแชมป์มวยไทยอันดับต้นๆ ที่มีทักษะและชั้นเชิงที่ยอดเยี่ยม แต่ผมจะทำเซอร์ไพรส์ผู้ชมด้วยการคว้าชัยชนะในครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่านักสู้จากญี่ปุ่นก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน”
“ผมต้องการแสดงให้แฟนๆ เห็นถึงสปิริตในการต่อสู้และเทคนิคของผม น็อกเอาต์ได้ก็ยิ่งดี เกมการแข่งขันจะได้ชัดเจน”