“เจเฮ อุสตาคิโอ” ขอย้ำให้โลกจำเขาคือ “ราชาแห่งการรีแมตช์”
แม้จะกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เราสามารถทำอนาคตให้ดีได้ เช่นเดียวกับ “Gravity” เจเฮ อุสตาคิโอ ที่กำลังจะได้เจอคู่ปรับเก่า “Dynamite” โทนี ตาอูรุ ซึ่งเขาเคยพ่ายซับมิชชัน rear-naked choke เมื่อปี 2016
ในศึก ONE: MASTERS OF FATE วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เจเฮ เชื่อว่าเขาจะปิดฉากการแข่งขันส่งท้ายปี 2019 ด้วยความสะใจมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
“ไฟต์นั้นผมไม่เป็นตัวของตัวเองเลย แต่ก็ได้เรียนรู้จากความผิดพลาด และจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก ผมต้องโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และเตรียมพร้อมกับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นบนสังเวียน ตอนนี้นับวันรอให้ถึงไฟต์รีแมตช์ และต้องการพิสูจน์ฉายา ‘ราชาแห่งการรีแมตช์’ ของผม”
หลังจากพ่ายแพ้แก่ โทนี ในคราวนั้น เจเฮ ก็กู้ชื่อด้วยการคว้าชัยเหนือ อนัตพงษ์ บุญราษฎร์, ไครัต อักห์เมทอฟ และ อาเดรียโน โมราเอส จนคว้าแชมป์โลก ONE รุ่นฟลายเวตได้สำเร็จ
หนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จ เจ้าตัวเผยว่าคือการมีโปรแกรมลงแข่งขันตลอด หลังเจอกันไฟต์แรกเขาก็มีคิวแข่งขันมากกว่า โทนี เป็นเท่าตัว ทำให้เขาถือเป็นนักสู้ของ วัน แชมเปียนชิพ ที่งานชุกมากที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
“สำหรับผมการมีคิวแข่งขันอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดผลดี ผมได้พัฒนาฝีมือตัวเองได้อย่างรวดเร็ว”
- “โจชัว พาซิโอ” เผยการป้องกันแชมป์โลกครั้งนี้เป็นความเหมือนที่แตกต่าง
- “เอดูอาร์ด โฟลายัง” เตรียมดวลเดือด “โซกูคู” ในเวทีบ้านเกิด
- “บิ เหงียน” โว “แสตมป์” เตรียมรับเซอร์ไพรส์ชนิดคาดไม่ถึง
การฟิตซ้อมอย่างต่อเนื่องทำให้ เจเฮ ได้เทคนิคใหม่ๆ ที่จะทำไปใช้บนสังเวียน ไม่เพียงเท่านั้นเขายังมีประสบการณ์ในการวิเคราะห์และแก้เกมมากขึ้นกว่าเดิม และนั่นคือกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ
“ผมเติบโตขึ้นทุกด้านในกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน อาวุธสำคัญที่สุดของผมคือหัวจิตหัวใจ ผมจะสู้อย่างชาญฉลาด”
การแข่งขันในรุ่นฟลายเวตนั้นเข้าทาง เจเฮ มากเพราะคู่แข่งจากฟินแลนด์วัย 34 ปี จำต้องลดน้ำหนักลงมาเยอะพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จะไม่ประมาท โทนี เด็ดขาด เพราะบทเรียนจากความพ่ายแพ้ซับมิชชันในไฟต์แรก
เจเฮ ในวันนี้เขาแตกต่างไปจากเดิม หลังจากผ่านนักปล้ำจับล็อกมาหลายคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงการฝึกซ้อมกับทีมลาไคย์ที่เก่งกาจ ทำให้เขาเชื่อว่าจะปิดบัญชี โทนี ได้ในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้
“ผมยังต้องระวังเกมปล้ำจับล็อกของเขาอยู่ แต่ผมไม่กลัวจะต้องสู้กันบนพื้น ผมยอมรับในทักษะการยืนสู้ของเขา แต่ก็เชื่อว่าทีมลาไคย์ฝึกฝนเรามาอย่างดี”
“สิ่งสำคัญที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้คือการโชว์ฟอร์มของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อให้แฟนๆ ได้สนุกกับการรับชม และการได้เห็นพัฒนาการของผมที่เติบโตขึ้น”
“ผมตั้งใจคว้าชัยชนะแบบไม่ครบยก ด้วยการปิดเกมแบบซับมิชชันให้ได้”