“เพชรมรกต vs เดชฤทธิ์” ใครจะเป็นแชมป์โลกไทยคนที่ 7 ในสังเวียน ONE
ในปี 2562 ประเทศไทยส่งท้ายปีในฐานะประเทศที่มีแชมป์โลก วัน แชมเปียนชิพ มากที่สุด โดยครอบครองเข็มขัด 5 เส้นจากแชมป์โลกถึง 4 คน ได้แก่
- แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว
- แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต รถถัง จิตรเมืองนนท์
- แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต สามเอ ไก่ย่างห้าดาว
- แชมป์โลก ONE มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต แสตมป์ แฟร์เท็กซ์
ทั้งนี้ยังไม่นับรวมเข็มขัดที่ถูกกระชากไปแล้วอีก 2 เส้นคือ แชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต (การต่อสู้แบบผสมผสาน MMA) ที่เคยเป็นของ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค และ แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ของ เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี
ต้นปีนี้ประเทศไทยมีอีกหนึ่งความหวังใหม่ที่จะได้จารึกบนหน้าประวัติศาสตร์ “แชมป์โลกชาวไทยคนที่ 7 ใน วัน แชมเปียนชิพ” จากการชิงชัยระหว่างสองนักชก “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” และ “เดชฤทธิ์ เสถียรมวยไทย” ถือเป็นศึกสายเลือดไทยครั้งที่สองที่เกิดขึ้น หลังจากที่เคยมี “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว vs เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ เพชรมรกต ถูกวางตัวให้ชกกับ “จามาล ยูซูพอฟ” ยอดมวยจากแดนหมีขาวชาวรัสเซีย ที่สร้างปรากฏการณ์ช็อกโลกด้วยการคว่ำยอดมวยเจ้าตำนานชาวไทย “ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์” เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในฐานะนักมวยหน้าใหม่ของ วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งมาเป็นมวยแทนโดยรู้ตัวล่วงหน้าเพียง 10 วัน
ฟอร์มอันสุดเฉียบขาดในไฟต์นั้น ส่งให้ จามาล ได้รับโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (ที่ว่าง) คู่กับ เพชรมรกต ทันที แต่ปรากฏว่าราว 10 วันก่อนการแข่งขัน เขาเกิดปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้ วัน แชมเปียนชิพ จำเป็นต้องจัดหาคู่ชกใหม่ที่เหมาะสมที่สุด เพราะศึกนี้มีเข็มขัดแชมป์โลกเป็นเดิมพัน จะเลือกใครมาแทนจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
เดชฤทธิ์ ไม่ใช่นักมวยใหม่เอี่ยมสำหรับ วัน แชมเปียนชิพ เขาเคยเสนอตัวเองมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แต่มันยังไม่ถึงเวลาของเขา แต่อย่างที่เราๆ ท่านๆ ก็รู้ว่าบางทีโอกาสมันก็มาหาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว
กรณีมวยเปลี่ยน มวยแทน ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ หรือบนเวทีไหนๆ นักกีฬาป่วยหรือบาดเจ็บ มันเกิดขึ้นได้จนเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้จัดการแข่งขันต้องยอมรับความเสี่ยง
สำหรับ วัน แชมเปียนชิพ มีนักกีฬาที่ก้าวเข้ามาชกไฟต์แรกก็ได้ชิงแชมป์โลก ONE ในทันทีหลายคน ยกตัวอย่าง “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” ที่พกชื่อชั้นและเข็มขัดแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง 6 สมัยติดตัวมาด้วย ก็สมควรแล้วที่เขาจะได้ขึ้นชิงแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต กับ “เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี” ตั้งแต่นัดเปิดตัว
หรืออย่างกรณี “เจเน็ต ท็อดด์” แชมป์ Pan-American 2 สมัย เธอมาเปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ ในฐานะคู่ชิงแชมป์โลกมวยไทย รุ่นอะตอมเวต (ที่ว่าง) กับ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ซึ่งขณะนั้น แสตมป์ เป็นแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งเพียงตำแหน่งเดียว
หากเทียบศักดิ์ศรีและดีกรีของ “เพชรมรกต และ เดชฤทธิ์” ทั้งคู่ก็ต่างครอบครองเข็มขัดแชมป์มาแล้วหลายเส้น โดย เพชรมรกต ถือเป็นนักชกแถวหน้าระดับประเทศ เจ้าของแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินีและ WMC ส่วน เดชฤทธิ์ ก็เป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์ 5 เส้นทั้ง WPMF, IWF, IPCC, IKC และ IMC ทั้งคู่ต่างก็มีประสบการณ์ผ่านมวยตัวเป้งๆ และสนามต่างประเทศกันมาแล้ว ความได้เปรียบเสียเปรียบ จุดอ่อน-จุดแข็ง มีดีกันคนละอย่าง แต่บนเวที วัน แชมเปียนชิพ หน้าเสื่อไม่สำคัญ ฝีมือเท่านั้นคือตัวตัดสิน
ถึงตรงนี้เชื่อเถอะว่าไฟต์นี้ใครเป็นคนไทยต้องดู เพชรมรกต รอคอยวันนี้มานานเกือบ 2 ปีที่จะได้ชิงแชมป์โลก ONE ตั้งแต่ตบเท้าเข้ามาอยู่ในสังกัด ขณะที่ เดชฤทธิ์ ซึ่งเคยเสนอตัวเข้ามาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ก็รอคอยเวลาที่จะได้รับการตอบรับ จนกระทั่งโอกาสผ่านเข้ามาหา ถ้าไม่รีบคว้าก็ไม่รู้โอกาสจะมาอีกเมื่อไหร่
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเข็มขัดเส้นนี้จะตกอยู่ในมือใคร ก็เป็นของ “ประเทศไทย” ทั้งขึ้นทั้งล่อง ดังนั้นแฟนๆ วัน แชมเปียนชิพ รักใครชอบใคร ก็เลือกเชียร์กันได้ตามอัธยาศัย
อ่านเพิ่มเติม: “เดชฤทธิ์ เสถียรมวยไทย” เสียบแทน “จามาล” ในฐานะคู่ชิงแชมป์โลก “เพชรมรกต”