แรงบวกของ “แสตมป์” เสริมกำลัง “รถถัง” มุ่งมั่นคว้าแชมป์เส้นที่สอง
“รถถัง จิตรเมืองนนท์” หลังจากป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวตไว้ได้สองครั้ง เจ้าตัวก็เริ่มเดินหน้าหาโอกาสที่จะขึ้นชิงแชมป์โลกเส้นที่สองในกติกาคิกบ็อกซิ่ง โดยแรงผลักดันสำคัญมาจากการได้เห็นหวานใจ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” คว้าแชมป์โลกทั้งคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยมาครอง ตนในฐานะลูกผู้ชายจึงต้องพยายามทำให้ได้
“รถถัง จิตรเมืองนนท์” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่ขึ้นสังเวียนป้องกันแชมป์โลก ONE ครั้งที่สองกับ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” และปิดเกมได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ชนิดไร้ข้อกังขาคาใจ เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีครอบครัวเดินทางจากพัทลุงมาให้กำลังใจถึง อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
ก่อนหน้านี้ รถถัง ไม่เคยให้พ่อแม่มาดูเขาชกเลย เพราะกลัวว่าพ่อแม่จะทนไม่ได้ที่เห็นลูกเจ็บ และทำให้เขาพะว้าพะวังในการแข่งขัน แต่ครั้งนี้พ่อที่กำลังป่วยอยู่ขอมาดูด้วยตัวเอง จึงถือเป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญที่เพิ่มขึ้นจากทุกครั้งที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ รถถัง ได้ขึ้นสังเวียนในรายการเดียวกับหวานใจ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ไม่ว่าจะขึ้นชกรายการเดียวกันหรือไม่ ที่ผ่านมาทั้งคู่ต่างก็ส่งข้อความ และโทรหากันเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันก่อนที่จะทำการแข่งขัน
หลังจากที่ทั้งคู่คว้าชัยในการแข่งขันไฟต์นั้น แสตมป์ ก็เปิดเผยว่าเธอมีคิวที่จะป้องกันแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง วันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ในศึก ONE: KING OF THE JUNGLE ที่สิงคโปร์ กับคู่ปรับเก่าที่เคี้ยวยากที่สุดอย่าง “เจเน็ต ท็อดด์”
ส่วน รถถัง ก็หมายตาที่จะคว้าแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งมาให้ได้อีกเส้น ซึ่งตอนนี้ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” นักมวยพรสวรรค์สูงชาวดัตช์-โมร็อกโก ครอบครองอยู่
“ผมคิดไว้แต่แรกแล้วครับว่า ถ้าป้องกันแชมป์โลกมวยไทยกับ แฮ็กเกอร์ตี ได้สำเร็จ ผมจะขอชิงคิกบ็อกซิ่งอีกเส้น”
“การที่เราเห็น แสตมป์ เขาเป็นแชมป์โลกสองเส้น มันเป็นกำลังบวกนะครับ อย่างเขาเป็นผู้หญิง เขาป้องกันแชมป์ได้ แล้วเราเป็นลูกผู้ชายเลือดนักสู้ เราก็ต้องทำเหมือนเขาให้ได้”
“ที่ผ่านมาก่อนผมได้เจอ แสตมป์ ก็ยอมรับว่าเรามีขี้เกียจบ้าง นักมวยทุกคนเป็นเหมือนกันครับ ไม่หลบไม่อู้อยู่ไม่ได้ นี่เป็นสโลแกนเลย แต่พอมาได้รู้จัก แสตมป์ น้องเขาเป็นคนมีความตั้งใจและขยัน ทำให้ผมสปีดตัวเอง และต้องรักษามาตรฐานของตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ”
“สำหรับ เอ็นนาฮาชิ เขาเก่งทีเดียวครับ นักมวยต่างชาติเขาเสียเงินเรียนมวย เขาตั้งใจฝึกซ้อม ซึ่งต่างจากนักมวยไทยที่ค่อนข้างฟรีสไตล์ ยังไงผมก็รอโอกาสนี้อยู่ เพราะผมอยากได้เข็มขัดสองเส้นมาครองให้ได้เหมือน แสตมป์ ครับ
อ่านเพิ่มเติม: ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ของ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ”