“โฮโนริโอ บานาริโอ” เผยไม้เด็ดพิชิต “ครูตอง” ชนนภัทร
แม้จะถูก “ครูตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย จัดหนักเข้าหลายดอก แต่สุดท้าย “The Rock” โฮโนริโอ บานาริโอ ก็กลับมาแก้เกม และเอาชนะไปได้แบบหืดขึ้นคอ ในศึก ONE: KING OF THE JUNGLE เมื่อวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ซึ่งการแข่งขันไฟต์นี้ทั้งคู่กลับลงมาสู้ในพิกัดเก่งอย่างเฟเธอร์เวต และต้องขับเคี่ยวเกรี้ยวกราดเพื่อคว้าชัยชนะหลังจากที่พ่ายแพ้มาหลายไฟต์
ชัยชนะครั้งแรกในรุ่นน้ำหนักเดิมของเขา ซึ่งเคยทะยานขึ้นถึงจุดสูงสุดในการครองตำแหน่งแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวต เมื่อปี 2013 นักสู้วัย 30 ปีจากค่ายใหญ่ ลาไคย์ แห่งฟิลิปปินส์ ได้มาเปิดใจถึงการตัดสินใจกลับสู้รุ่นน้ำหนักนี้ในปี 2020 และแผนการต่อไปใน วัน แชมเปียนชิพ
ONE: ประสบการณ์การแข่งขันในสนามแบบปิดเป็นอย่างไรบ้าง
โฮโนริโอ บานาริโอ: มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับพวกเรา เพราะในการฝึกซ้อมก็อยู่ในสถานที่ปิดอยู่แล้ว มันเลยเหมือนเป็นวันซ้อมอีกวันหนึ่ง ซึ่งทำให้ความกดดันน้อยลงด้วย บนเวทีที่เต็มไปด้วยเสียงเชียร์ของแฟนๆ บางทีก็ทำให้ผมไม่ค่อยได้ยินสิ่งที่โค้ชแนะนำข้างสนาม ผมจึงมองในแง่ดีว่า มันทำให้ผมได้ยินเสียงโค้ชมากขึ้น
- “สามเอ” ซูฮกหัวใจ “ร็อกกี” มวยหนุ่มคนนี้อนาคตไกลแน่นอน
- “ครูตอง” ชนนภัทร เตรียมออกศึกในสนามปิดที่สิงคโปร์ หวังสร้างความสุขสู่ผู้คนที่โดนผลกระทบจากไวรัสโคโรนา
- ขี้สงสัย!…”เอเลียน” เกี่ยวอะไรในการเปิดตัว “ครูตอง”
ONE: คุณรู้สึกอย่างไรกับการกลับมาสู้ในรุ่นเฟเธอร์เวต
โฮโนริโอ บานาริโอ: ผมรู้สึกดีครับ รู้สึกตัวเบาและคล่องตัวกว่า ผมคิดว่าสามารถใช้พลังได้เต็มที่ ทำให้ผมสามารถควบคุมเขาและเทกดาวน์เขาได้ดั่งใจ แม้ผมจะไม่ได้แสดงผลงานอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็สู้ได้ตามแผนที่พวกเราวางไว้ ผมพอใจกับฟอร์มการต่อสู้หลังจากที่ลดน้ำหนักลงมารุ่นเดิมเป็นครั้งแรก และผมแน่ใจว่า ถ้าออกสตาร์ตได้ดีแล้ว ครั้งหน้าผมจะทำได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ONE: คุณวางกลยุทธ์รับมือ ชนนภัทร อย่างไร?
โฮโนริโอ บานาริโอ: เขาเป็นมวยซ้าย ดังนั้นเมื่อเขาสืบเท้าเข้ามา ผมก็ต้องหลบฉากไปทางซ้ายก่อนที่เขาจะชิงโจมตีก่อน
ผมต้องเตรียมพร้อมรับมือกับลูกเตะของเขาเช่นกัน สองอย่างนี้รวมกันกับการทำเทกดาวน์ และการคุมเกมภาคพื้น จากที่เราเห็นในไฟต์ก่อนหน้าของเขา เราน่าจะเล่นงานการป้องกันเทกดาวน์ของเขาได้ และการที่เขาพยายามหลบหนีจากเกมภาคพื้น จะทำให้เขาเหนื่อย นี่คือสิ่งที่เราทำตลอดเกม
เราต้องทำให้การโจมตีของเขาไร้ผล เราจะกดดันเขาด้วยการผลักเขาไปที่มุม และเมื่อเขาอ่อนแรงลง ก็จะจับเขารวบลงพื้น จากตรงนั้น เราจะไม่เปิดโอกาสให้เขาลุกขึ้น ผมยังเผชิญหน้ากับเขาในท่ายืน แต่เมื่อเขาเตะ ผมจะประชิดตัว
ONE: คุณต้องปรับกลยุทธ์ในระหว่างเกมไหม
โฮโนริโอ บานาริโอ: ปรับไม่มากครับ จริงๆ แล้วผมได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากเพื่อนร่วมทีม ที่ช่วยให้ผมชินกับการรับมือมวยซ้ายในการจับคู่ซ้อม ก่อนที่จะไปเจอของจริง ซึ่งช่วยผมได้มาก เพราะตอนที่ผมอยู่ในสังเวียน ผมก็ชินกับมวยซ้ายแล้ว
ONE: เขาเตะคุณจังๆ ไปหลายที มันมีผลกระทบอะไรบ้างไหม
โฮโนริโอ บานาริโอ: ผมโดนผมก็เจ็บครับ แต่มันไม่ทำให้ผมสะทกสะท้าน ผมทนรับหมัดของเขาได้ เพราะผมคิดว่าการระดมชกของเขาทำให้แต่ละหมัดที่ปล่อยออกมา ไม่มีกำลังอะไร เขายังกะจังหวะออกหมัดไม่ดี ผมมองว่าหมัดเขาหนักเอาเรื่อง แต่ไม่หนักเท่ากับคู่ต่อสู้คนอื่นๆ ในรุ่นไลต์เวตที่ผมเจอมา
ONE: คุณใช้วิธีต่อสู้แบบมวยปล้ำและเกมภาคพื้นมากขึ้นในไฟต์นี้ เราจะได้เห็นมันมากขึ้นในอนาคตหรือเปล่า
โฮโนริโอ บานาริโอ: ผมอยากให้ทุกคนเห็นว่า ผมพัฒนาทักษะการปล้ำจับล็อกของผมมากแค่ไหน ในอนาคตคู่แข่งจะไม่ระวังแค่เพียงการโจมตีท่ายืนเท่านั้น แต่ต้องระวังเกมภาคพื้นของผมด้วย
เราจำเป็นต้องพัฒนาตัวเอง เพราะนับคู่แข่งก็ยิ่งเก่งขึ้น ผมต้องเพิ่มทักษะต่างๆ ให้มากขึ้นเพื่อให้ตัวเองตามทัน ตอนอยู่ในรุ่นไลต์เวต ผมโดนจับลงพื้นได้ง่ายมาก ทำให้ผมรู้ว่าควรจะปรับปรุงตัวเองในจุดนี้ ซึ่งผมซุ่มฝึกมานานมากแล้ว และในที่สุดก็สามารถหยิบมาใช้มันในไฟต์ครั้งนี้ เป้าหมายต่อไปของผมคือการพัฒนาซับมิชชัน เพื่อที่ผมจะได้เป็นนักสู้ที่ครบเครื่องกว่าเดิม
ONE: หลังจากแข่งเสร็จ คุณได้พูดอะไรกับ ชนนภัทร
โฮโนริโอ บานาริโอ: ผมรู้ว่าเขาคงเครียดจากความพ่ายแพ้ เพราะเราทั้งคู่ต่างก็ต้องการเอาชนะให้ได้ในไฟต์นี้ ผมพยายามกระตุ้นให้เขากลับมาอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิมและฝึกหนักต่อไป ผมเข้าใจความรู้สึกของการทำทุกอย่างที่คุณทำได้ เพื่อให้กลับมาเป็นฝ่ายชนะแต่ก็ยังไม่ดีพอ นักกีฬาบางคนอาจจะรู้สึกท้อแท้และล้มเลิก ผมจึงอยากให้กำลังใจเขาสู้ต่อ
ONE: คุณประหลาดใจไหมเมื่อการตัดสินไม่เป็นเอกฉันท์
โฮโนริโอ บานาริโอ: โดยส่วนตัวแล้ว ผมมั่นใจเต็มร้อยว่าได้รับการตัดสินเป็นเอกฉันท์แน่นอน ดังนั้นผมจึงแปลกใจกับผลการตัดสินที่ออกมา ผมสามารถตอบโต้อาวุธที่เข้ามาได้เกือบทุกครั้ง และยังคุมเกมภาคพื้นได้อย่างมั่นคง
บางทีกรรมการคงเห็นว่าผมทำได้ไม่ดีพอ หรือ ชนนภัทร ทำได้มากกว่า แต่สุดท้ายแล้ว มันเท่ากับว่าเราต้องปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ดังนั้นโค้ชกับผมคงต้องปรึกษากันเรื่องที่เราจะต้องทำให้ดีขึ้นในครั้งหน้า แค่คว้าชัยชนะ และเดินหน้าต่อ
ONE: รุ่นเฟเธอร์เวตตอนนี้แตกต่างจากช่วงก่อนที่คุณเคยอยู่อย่างไร
โฮโนริโอ บานาริโอ: ตอนนี้ผมรู้สึกว่ารุ่นนี้เต็มไปด้วยคนเก่ง แทบทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นจอมเผด็จศึก มันจึงน่าสนใจถ้าผมจะได้ประมือกับคนใดคนหนึ่งในอนาคต บางไฟต์ที่ผมดูจบลงตั้งแต่ยกแรก พวกเขาแข็งแกร่งมาก ดังนั้นผมจะต้องฝึกฝนต่อไป เพราะเราจะไม่มีทางรู้เลยว่า เราจะเจอคู่ต่อสู้แบบไหน
ONE: คุณเล็งคนไหนเป็นพิเศษไหม
โฮโนริโอ บานาริโอ: ตอนนี้ยังครับ ผมเพิ่งปรับรุ่นลงมา และผมก็แค่อยากไต่อันดับขึ้นไปก่อน ผมไม่ใช่คนประเภทมานั่งชี้ว่าผมอยากเจอกับคู่ต่อสู้คนไหน ผมพร้อมรับทุกความท้าทายอยู่แล้ว
ONE: เราหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะจัดการแข่งในสนามแบบปิด คุณอยากส่งข้อความอะไรถึงแฟนๆ ในช่วงวิกฤตทั่วโลกอย่างนี้บ้าง
โฮโนริโอ บานาริโอ: สำหรับทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส ผมหวังว่าเราทุกคนจะผ่านมันไปได้ และมันจะจบลงในไม่ช้า ผมหวังว่าทุกคนจะไม่ยอมแพ้ในการต่อสู้กับความท้าทายเหล่านี้ เราต้องใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็ง เพื่อเอาชนะสิ่งที่ตราหน้าเข้ามา มันทำให้เราเรียนรู้และเติบโตในฐานะวิญญูชน คิดบวกเข้าไว้ และขอให้พระเจ้าคุ้มครองพวกคุณทุกคน!
อ่านเพิ่มเติม: เหล่านักสู้โพสต์อะไรในโซเชียล หลังจบศึก ONE: KING OF THE JUNGLE