ใจบอกว่าใช่เธอ! “ยอดพนมรุ้ง” ไม่ได้พูดแค่เอาใจ แต่ชีวิตนี้ผมให้เธอไปหมดแล้ว
“ขุนเข่าสายฟ้า” ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์ นักมวยไทยระดับแถวหน้าของประเทศ วัย 26 ปี เจ้าของแชมป์ WPMF, WMC และเวทีมวยอ้อมน้อย ผู้ใช้ดีกรีและความสามารถก้าวเข้ามาเป็นนักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ และผ่านเวทีนี้มาแล้วสองไฟต์
นอกจากลักกี้อินเกมแล้ว เขายังลักกี้อินเลิฟ มีความรักสุกงอม และเพิ่งผ่านพ้นขวบปีที่ 8 ไปหมาดๆ โดยเจ้าตัวได้โพสต์หวานผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งทำให้แฟนๆ สัมผัสได้ถึงความรักที่เขามีต่อภรรยา ผ่านตัวหนังสือเพียงไม่กี่ประโยค
“ Happy anniversary 8 years “ 🥰🥰8ปีละนะที่เราอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ผ่านเรื่องราวทั้งดีทั้งร้ายมาด้วยกัน ก็ไม่มีอะไรจะพูดมาก แค่อยากจะบอกว่า….#จะรักและดูแลครอบครัวให้ดีอย่างนี้ตลอดไป ❤️❤️👨👩👦👨👩👦
Posted by Aekphon Klumya on Tuesday, June 30, 2020
ยอดพนมรุ้ง เปิดใจให้ฟังว่า เขาพบรักกับ “น้องจี” ปนัดดา เสืออารีย์ ภรรยาสาว ตั้งแต่สมัยเรียนที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน ด้วยกัน ตอนนั้นเขาอยู่ ปวช.ปี 3 ส่วน น้องจี เป็นรุ่นพี่ ปวส.ปี 2 ด้วยความที่เรียนสาขาการตลาดเหมือนกัน จึงได้เรียนในตึกเดียวกัน และทำให้พบเจอกันบ่อยครั้ง
“เธอเป็นสาวอิสลาม ผิวขาว หน้าคม นัยน์ตาแขก ด้วยความสดใสน่ารัก ทำให้ผมหลงเสน่ห์และอยากจะจีบเธอเป็นแฟน”
“สมัยก่อน จี เขาพูดน้อยมากครับ ค่อนข้างขี้อาย ผมต้องคุยกับเขาผ่านเฟซบุ๊ก พอเริ่มสนิทกันมากขึ้น ก็ชวนเขาไปทานข้าวด้วยกัน จีบเขาอยู่ประมาณสองเดือน พอเขาเริ่มเปิดใจให้ผม ก็ตัดสินใจขอคบเป็นแฟนในวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2555 ครับ”
ช่วงนั้นเจ้าของฉายา “ขุนเข่าสายฟ้า” กำลังเรียนหนังสือและชกมวยเป็นอาชีพ ความที่ยังเป็นวัยรุ่นกำลังคึกคะนอง ช่วงแรกที่คบหากัน เขาจึงยังไม่คิดจริงจังกับเรื่องความรัก
จนกระทั่งฝ่ายสาวจบการศึกษาและย้ายไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย หัวใจของเขาเริ่มเรียกร้องและถามหาเธอหนักขึ้น จนเริ่มรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่ความรู้สึกวูบวาบแบบหนุ่มสาวแต่คือ “ความรัก” และอยากมีอนาคตที่ดีด้วยกัน
“ผมมารู้ว่าตกหลุมรักเธออย่างหัวปักหัวปำตอนที่เธอย้ายไปเรียนต่อ ผมตามไปรับส่งที่บ้าน ได้เจอพ่อแม่ซึ่งท่านรักและเอ็นดูผมเหมือนลูก แม้แต่ช่วงที่ผมตกที่นั่งลำบากท่านก็ยื่นมือเข้ามาช่วย”
ย้อนหลังไปเมื่อตอนออกเดตกันครั้งแรก ยอดพนมรุ้ง รู้ว่า น้องจี นับถือศาสนาอิสลาม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับหนุ่มชาวพุทธอย่างเขา ซึ่งหลังจากที่เขาได้บวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่แล้ว เขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม เพื่อแสดงความจริงใจที่มีต่อฝ่ายหญิง และตั้งใจที่จะใช้ชีวิตร่วมชายคากับเธอ
“ประโยคหนึ่งที่พ่อแม่บอกผม ไม่ว่าลูกนับถือศาสนาอะไร ลูกก็คือลูกของพ่อกับแม่อยู่ดี ผมซึ้งใจกับคำพูดของท่านมาก ขอบคุณที่ยอมรับและเข้าใจในตัวลูกชายคนนี้”
ทางด้าน น้องจี ก็ใช้เวลาพิสูจน์หัวใจนักมวยหนุ่มอยู่หลายปี ก่อนที่จะตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เป็นเวลาเดียวกับที่ ยอดพนมรุ้ง ได้ย้ายมาอยู่ค่ายจิตรเมืองนนท์ ทำให้เขามีรายได้ และพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ด้วยกัน ในวันที่ 1 สิงหาคม 2560
“เธอเป็นภรรยาที่ดีมากครับ ทำงานทั้งนอกบ้านและในบ้าน สมัยก่อนเธอเป็นพนักงานบัญชีอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า แต่ช่วงหลังๆ มาผมให้เธอเลี้ยงลูกอยู่บ้าน เพื่อจะได้มีเวลาให้เขาอย่างเต็มที่ ส่วนผมนอกจากชกมวยแล้ว ก็ยังมีอาชีพเสริมขายรถยนต์มือสองด้วยครับ”
“ผมกับ จี เราก็มีทะเลาะกันบ้างตามประสาลิ้นกับฟัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราใช้วิธีถอยกันคนละก้าว อารมณ์เย็นแล้วค่อยกลับมาคุยกัน”
ปัจจุบันทั้งสองคนมีพยานรักตัวน้อยด้วยกันหนึ่งคนคือ “น้องฟีรอส” ด.ช.ภาคิน กลุ่มยา ลูกชายวัยสองขวบครึ่งที่กำลังซน และเป็นคนที่เข้ามาเติมชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งคู่ได้วางแผนกันไว้ว่าอยากจะมีน้องให้ ฟีรอส อีกสักคนในช่วงที่เขามีความพร้อมที่จะเป็นพี่ชายได้มากกว่านี้
สำหรับวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นวันครบรอบ 8 ปีนับจากวันที่ทั้งคู่เริ่มคบหาดูใจกันเป็นวันแรก ยอดพนมรุ้ง และ น้องจี ก็ได้ขอปลีกตัวไปสวีตกันสองต่อสองตามลำพัง โดยฝาก น้องฟีรอส ไว้กับญาติๆ ที่บ้าน นานทีจะได้มีโอกาสจู๋จี๋กันแบบนี้
“เราไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารริมน้ำด้วยกันครับ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้พิเศษอะไรมาก แต่ผมอยากให้เธอรู้ว่าทั้งชีวิตของผม ผมให้เธอหมดทั้งตัวและหัวใจตั้งนานแล้วครับ” ยอดพนมรุ้ง ทิ้งทวนด้วยประโยคสั้นๆ แต่ความหวานตลบอบอวลไปทั่วจริงๆ
อ่านเพิ่มเติม: