10 คำถามเปลือยใจ “เพชรทนง” ราชันคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวตคนล่าสุด
คุยเปิดอกกับ “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” ราชัน ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวตป้ายแดงกับ 10 คำถามที่จะทำให้คุณรู้จักตัวตนผู้ชายคนนี้มากยิ่งขึ้น
สมการรอคอย ในที่สุดตำแหน่งราชันคิกบ็อกซิ่งได้กลับคืนสู่ประเทศไทยอีกครั้ง โดยนักชกคิกบ็อกซิ่งระดับเทพอย่าง “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” สามารถโค่นบัลลังก์ อดีตแชมป์จากแดนซามูไร “ฮิโรกิ อากิโมโตะ” ได้สำเร็จ ขึ้นแท่นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (145 ป.) และเป็นแชมป์โลก ONE ชาวไทย คนที่ 12
เรามีโอกาสได้จับเข่าคุยกับแชมป์โลกป้ายแดงที่จะมาเล่าถึงเส้นทางที่ต้องล้มลุกคลุกคลานกว่าจะถึงความสำเร็จสูงสุดในฐานะแชมป์โลก ONE ในวัย 37 ปี
ONE : รู้สึกอย่างไรบ้างที่สามารถครองแชมป์โลก ONE ได้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
เพชรทนง : รู้สึกดีใจมาก ๆ เป็นอีกก้าวที่ผมฝันไว้ จริง ๆ แล้วผมมีความฝันนี้ตั้งแต่เห็น “น้องโอ๋” ขึ้นชิงแชมป์ในเวที วัน แชมเปียนชิพ ที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานีเมื่อ 3 ปีก่อน แต่พอตัวเองได้เข้ามาใน ONE ก็ดันพลาดท่าแพ้น็อก “กัปปิตัน” ตั้งแต่ไฟต์แรก จนเกือบจะยอมแพ้ไปแล้ว ผมต้องใช้เวลาถึง 2 ปีเพื่อมาถึงจุดนี้ได้ ถึงจะช้าหน่อยแต่ก็ทำได้แล้ว ตื้นตันใจมาก ๆ ครับ
ONE: ก่อนหน้านี้มีคนสบประมาทเรื่องอายุ และมองว่า “เพชรทนง” คงสู้ “ฮิโรกิ” ไม่ได้ มาถึงตอนนี้อยากพูดอะไรไหม?
เพชรทนง : มันเป็นเรื่องปกติครับ ที่คนอื่นจะมองอย่างนั้น ถ้าพูดกันเรื่องอายุมันเป็นวัฏจักรครับ เก่าไปใหม่มา แต่ในส่วนของผมก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แค่ไม่ยอมแพ้ครับ
ONE : สำหรับไฟต์ที่ผ่านมากับ “ฮิโรกิ” เกมการชกไปตามแผนที่เตรียมมาหรือต้องมีการแก้เกมบนสังเวียนอย่างไรบ้าง
เพชรทนง : ผมวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เห็น ฮิโรกิ ในไฟต์ก่อน ๆ แล้วครับ คือเขาเคยเจอแต่คู่ต่อสู้ที่เดินหน้าเขา และเขาแข็งแรง อึด ทน เขาถึงสามารถแลกได้ ถ้าผมไปแลกกับเขาก็คงสู้ไม่ได้ ผมจึงวางแผนว่าต้องรอดักจังหวะสองและชกให้ฉลาด
ผมตั้งใจไว้ว่าต้องชนะให้ได้ทุกยก ซึ่งผมคิดว่าผมทำได้นะครับ ในยกแรกกับยกสองผมตั้งใจมารอจังหวะสอง แต่ระหว่างที่ประจันหน้ากันเขายกแขนค่อนข้างสูง เลยเผยช่องโหว่ตรงช่วงเอว พอเห็นแบบนั้นแล้วผมตั้งใจเตะย้ำ ๆ ไปแค่ตรงบริเวณนั้น เพื่อให้ได้คะแนนครับ ที่จริง ผมเตรียมลูกเตะก้านคอมาด้วย แต่ ฮิโรกิ เป็นคนยกการ์ดสูงเลยไม่มีโอกาสได้ใช้ ผมพยายามไม่เตะโดนแขนของเขา เพราะจะทำให้เราไม่ได้คะแนนครับ
ONE : พูดถึงคู่ชก “ฮิโรกิ” พอได้ประมือกันจริง ๆ แล้วฝีมือเขาเป็นยังไงบ้าง
เพชรทนง : ก่อนที่จะได้ชกกับ ฮิโรกิ ผมมองว่าเขาเป็นนักสู้ที่ใจเกินร้อย แข็งแรง อึด ทน แถมยังมีความไวด้วย ซึ่งผมก็ประเมินเขาไว้ค่อนข้างสูง แต่พอได้มาชกจริง ๆ เขาไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้เลย เขาคิดแค่ว่าจะออกอาวุธใส่ผมยังไง แต่เขาไม่คิดที่จะปิดช่องโหว่ของตัวเองเลยครับ มันก็เลยกลายเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผมที่มีประสบการณ์มากกว่าและใช้พื้นฐานมวยไทยเข้าไปแก้เกมในไฟต์นี้ครับ
ONE : ช่วงไหนที่ เพชรทนง มั่นใจว่าทำคะแนนและสามารถเอาชนะได้แน่ แล้วพอคะแนนออกมาไม่เอกฉันท์ รู้สึกอย่างไรบ้าง?
เพชรทนง : ผมมั่นใจตั้งแต่ยกแรกแล้ว ผมมองว่าผมทำคะแนนได้ดีกว่า เมื่อครบ 5 ยก ก็ยิ่งมั่นใจว่าผมชนะเขาได้ทุกยก ไม่มียกไหนที่ผมด้อยกว่า ทุกครั้งที่ออกอาวุธชัดเจนหมด แต่เมื่อผลออกมาไม่เอกฉันท์ คิดว่ากรรมการคงมีมุมมองที่หลากหลาย กรรมการนั่งกันคนละมุม ก็อาจจะมองเห็นคนละมุมกับเรา แต่ผมเชื่อมั่นว่าทาง ONE ยุติธรรมที่สุดแล้วครับ
ONE : พอใจกับผลงานตัวเองในไฟต์ที่ผ่านมามากน้อยแค่ไหน
เพชรทนง : ผมพอใจผลงานตัวเองในทุกไฟต์ครับ เพราะทุกครั้งที่ขึ้นชก ผมจะพูดกับเทรนเนอร์เสมอว่า เราฝึกซ้อม เตรียมตัว และตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว ใส่เต็มที่หนึ่งร้อยเปอร์เซนต์ ไม่ว่าผลจะออกมายังไง แพ้หรือชนะ จะไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้นครับ
ONE : ทีมงานที่ “เพชรทนง” พูดขอบคุณบนเวทีทั้ง “ซุปเปอร์บอน”, “น้องโอ๋”, “รถถัง” และทุกคน ๆ ที่มีส่วนช่วยกับความสำเร็จครั้งนี้ แต่ละคนมีความสำคัญอย่างไรบ้างในไฟต์นี้
เพชรทนง : ซุปเปอร์บอน น้องโอ๋ รถถัง เป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้ผมครับ เมื่อเราอยู่กับแชมป์โลกมันก็จะมีแรงผลักดันให้เราเป็นแชมป์โลกด้วยครับ ทุก ๆ คนคอยให้กำลังใจอยู่ตลอด ทั้งยังช่วยในเรื่องแก้เกม แนะแนวทางหลายอย่างให้ผม ส่วนทีมเทรนเนอร์ทุกคนเป็นกำลังหลักที่ช่วยผมในการฝึกซ้อม คอยเป็นทั้งเพื่อนและคู่ซ้อมให้ผม ไม่มีพวกเขาผมคงไม่ประสบความสำเร็จแบบนี้ครับ
ONE: การครองแชมป์โลก ONE ในวัย 37 ปี ถือเป็นความสำเร็จขั้นสูงสุดในอาชีพนักสู้หรือยัง?
เพชรทนง: ถือว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดสำหรับผมแล้วครับ การได้เข็มขัดแชมป์โลกของ ONE ผมถือว่ามันเป็นที่สุดของโลกครับ และตอนนี้ผมก็เป็นที่สุดของโลกในรุ่นนี้
ONE: เป้าหมายต่อไปใน ONE คืออะไร อยากป้องกันแชมป์ไปอีกนานแค่ไหน
เพชรทนง: ตอนนี้ผมยังพอใจกับการต่อยกติกาคิกบ็อกซิ่ง ยังไม่คิดที่จะข้ามสายไปชกในกติกาอื่นครับ ส่วนคู่แข่งครั้งต่อไปยังไม่มีในใจ ถ้า ONE จะให้ผมชกกับใคร ผมก็พร้อมเจอทุกคน เพราะชกต่อไปจนกว่าร่างกายผมจะไม่ไหวครับ
ONE : “เพชรทนง” ใช้เวลานานพอสมควรใน ONE กว่าที่จะสามารถก้าวสู่จุดสูงสุดได้ในวันนี้ อยากให้เรื่องราวของตัวเองสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาคนอื่นอย่างไรบ้าง?
เพชรทนง : ในช่วง 5-6 ปีมานี้ ผมพยายามที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักกีฬาคนอื่น ผมไม่อยากให้อายุมาเป็นข้ออ้างในการเลิกล้มความตั้งใจ ตัวผมเอง ผมก็พยายามดูแลร่างกายตัวเองเป็นอย่างดีแม้จะอายุ 37 แล้ว และคอยเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกคนที่ผมรู้จักว่า วิทยาศาสตร์การกีฬานั้นมีความสำคัญกับนักกีฬามากแค่ไหน คอยให้ข้อมูลเรื่องอาหารและการออกกำลังกายที่ถูกต้อง
ผมอยากให้นักมวยรุ่นน้อง ๆ ดูแลตัวเองให้มีสภาพร่างกายที่ดีเพื่อเราจะได้สามารถสู้กับคู่แข่งชาวต่างชาติที่เก่ง ๆ และได้เปรียบเรื่องความแข็งแกร่งได้ เหมือนที่ผมทำได้แม้จะอายุเท่านี้แล้วก็ตามครับ
อ่านเพิ่มเติม:
