ทางลัดความสำเร็จ “อเลสซานโดร” จ้องโค่น “อลาเวอร์ดี” เปิดทางลุยศึกใหญ่ ONE
“อเลสซานโดร” หายจากบาดเจ็บพร้อมคืนสังเวียนครั้งที่สอง ปะทะ “อลาเวอร์ดี” เชื่อหากสยบคู่ชกดีกรีอดีตแชมป์โลกได้ อนาคตลุ้นไปลุยศึกใหญ่ ONE สดใสแน่
“อเลสซานโดร ซารา” หรือที่แฟนมวยชาวไทยคุ้นเคยในชื่อ “อเล็กซ์ จิตรเมืองนนท์” มวยสูงยาวเข่าคม วัย 22 ปี จากอิตาลี กลับมาทวงคืนความมั่นใจต้องเจอศึกหนักกับ “อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ที่หวังสะกดคำว่าชนะให้ได้เป็นครั้งแรก โดยทั้งคู่จะสู้กันในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135 – 145 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 31 วันศุกร์ที่ 1 ก.ย.นี้
เจ้าของฉายา “The Italian Ferrari” (ดิ อิตาเลียน เฟอร์รารี) เกิดที่เมืองแบร์กาโม ประเทศอิตาลี ตอนอายุ 9 ขวบ ได้มาเที่ยวเมืองไทยและรู้จักมวยไทยเป็นครั้งแรก ก่อนที่ 2 ปีต่อมาเขาและคุณพ่อได้ตัดสินใจย้ายมาพำนักที่แดนสยาม แต่หลังจากนั้นไม่นานคุณพ่อของเขาจำเป็นต้องกลับไปทำงานที่บ้านเกิด โดยนำ “ด.ช.อเล็กซ์” ไปฝากอยู่กับค่ายมวยเพชรรุ่งเรืองที่พัทยาเป็นเวลานานกว่า 9 ปี
ช่วงแรก “อเลสซานโดร” ยอมรับว่าไม่ได้สนใจเรื่องชกมวยมากนักแต่เป็นคุณพ่อที่ชื่นชอบในเรื่องศิลปะการต่อสู้มากกว่า จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาชกมวยเป็นอาชีพมายาวร่วม 10 ปี โดยช่วง 2 ปี หลังสุดได้ย้ายมาอยู่ที่ค่ายจิตรเมืองนนท์ ซึ่งได้ฝึกซ้อมกับนักมวยไทยแถวหน้าหลาย ๆ คน ทำให้ทักษะการออกอาวุธของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีดีกรีแชมป์ประเทศไทย รุ่น 145 ป. ประจำปี 2565 การันตีฝีมือ
ไฟต์เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 4 “อเลสซานโดร” เสียท่าพ่ายน็อกยกแรก “เออร์เดม ทาฮา ดินเซอร์” คู่ชกจากตุรกี แบบน่าผิดหวัง โดยยอมรับทั้งตื่นเต้นและไม่ชินกับการสวมนวมเล็กขึ้นชกครั้งแรกในชีวิต แถมยังมีอาการเจ็บจนต้องพักยาว กลับมารอบนี้จึงมุ่งมั่นทำผลงานให้ดีกว่าเดิม
“มาชกที่ ONE ลุมพินี ครั้งแรกผมรู้สึกตื่นเต้นมากและเสียใจด้วยเพราะเป็นฝ่ายแพ้น็อกครับ ผมตั้งเป้าอยากมาเปิดตัวให้สวยงาม แต่สุดท้ายก็ต้องเสียใจกลับไป ผมขึ้นชกนวมเล็กเป็นครั้งแรก ทำให้ไม่ชินกับการป้องกันอาวุธของคู่ชก แถมยังมามีอาการเจ็บบริเวณโหนกแก้มจนต้องรักษาตัวยาวด้วยครับ
“ส่วนตอนนี้การปรับตัวใช้นวมเล็กน่าจะดีกว่าไฟต์แรกครับ ผมต้องชกไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เกิดความคุ้นชินมากขึ้น แต่ยังไงผมมั่นใจว่าไฟต์นี้ต้องทำผลงานได้ดีกว่าไฟต์เปิดตัวแน่นอนครับ ตอนนี้ ONE ลุมพินี คือรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้วย ถือเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้แข่งขันในเวทีที่ได้ท้าทายตัวเองมากขึ้นครับ”
อย่างไรก็ตามงานนี้ “อเลสซานโดร” ลุ้นกู้คืนความมั่นใจไม่ง่ายเหมือนที่คิด เพราะด่านต่อไปมีของแข็งอย่าง “อลาเวอร์ดี” ที่ผ่านประสบการณ์เวทีใหญ่ ONE มาอย่างโชกโชนยืนท้าทายอยู่ แต่ในมุมกลับกันเขาก็มองว่านี้คือโอกาสอันดีที่จะปราบนักสู้ชั้นนำ เพื่อใช้เป็นตั๋วกรุยทางสู่ วัน แชมเปียนชิพ สะดวกมากขึ้น
“กลับมาครั้งนี้อย่างแรกเลยคือผมจะไม่ประมาทครับ จุดแข็งของ อลาเวอร์ดี คงอยู่ที่ประสบการณ์ เพราะเขาผ่านการชกแบบนวมเล็กมามากกว่าผมเยอะ ช่วงแรกที่เจอกันบนเวทีผมคงต้องรีบปรับตัวหาทางรับมือให้ไว จากนั้นช่วงปลายเกมอาจได้มาวัดชี้ชะตาตัดสินผลหาผู้แพ้ชนะกันอีกทีครับ”
“เป้าหมายตอนนี้ผมอยากได้โอกาสชกใน ONE ลุมพินี ต่อเนื่องไปให้ได้ก่อนครับ เพื่อสร้างกระดูกให้แข็งแกร่งขึ้น เพราะผมยังไม่ชินกับการใช้นวมเล็กมากนัก แต่ถ้าชนะในไฟต์นี้ อนาคตของผมคงสดใสมากขึ้น เพราะคู่ชกมีดีกรีเคยเป็นถึงอดีตแชมป์โลกและเป็นนักมวยที่เก่งด้วยครับ”
เวลา 10 ปี ผ่านไปไวเหมือนโกหก “อเลสซานโดร” ผูกพันกับเมืองไทยแบบแทบถอนตัวไม่ขึ้น จนตอนนี้พ่อของตนก็มาทำธุรกิจที่พัทยาด้วย ซึ่งหากไฟต์นี้ทำผลงานดีและเก็บโบนัส 3.5 แสนบาทได้ ก็พร้อมนำเงินไปเก็บไว้ใช้จ่ายเลี้ยงชีพ เพราะคงปักหลักอยู่โชว์แม่ไม้มวยไทยที่นี่ไปอีกนาน
“ผมอยู่ที่เมืองไทยมาเป็น 10 ปี สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดของประเทศไทยก็คือ มวยไทย ครับ ผมชอบมาก ถ้าว่างจะไปดูมวยแบบติดขอบเวทีอยู่เสมอ ส่วนพ่อที่กลับมาอยู่ด้วยกันได้ 2-3 ปี เพิ่งเปิดธุรกิจอู่แต่งรถที่พัทยาด้วย ตอนนี้มันเหมือนกลายเป็นบ้านหลังที่ 2 ของผมไปแล้วครับ”
“ตอนช่วงโควิดผมได้มีกลับไปอยู่บ้านที่อิตาลีบ้าง รวมถึงไปชกที่ยุโรปเฉลี่ยปีละครั้งครับ แต่หลังปี 2563 เป็นต้นมาผมอาศัยอยู่เมืองไทยมาตลอด ไฟต์นี้ถ้าได้เงินโบนัส 3.5 แสนบาท ผมอยากเก็บเอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัวครับ เพราะน่าจะอยู่ที่ไทยนาน”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 31 วันศุกร์ที่ 1 ก.ย.นี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมทาง
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- Facebook ทุกคู่ (บางประเทศ)
- YouTube ONE ทุกคู่ (บางประเทศ)
- Watch.ONEFC.com ทุกคู่ (บางประเทศ)