หมัดช็อกโลก “แฮ็กเกอร์ตี” เผด็จศึก “น้องโอ๋” ยกแรก ซิว “น็อกเอาต์ยอดเยี่ยม กติกามวยไทย ประจำปี 2566”
“แฮ็กเกอร์ตี” ไล่ถล่มหมัดชนะน็อก “น้องโอ๋” แบบสุดช็อกตั้งแต่ยกแรก พร้อมขึ้นไปนั่งบัลลังก์แชมป์โลกแทนที่ คว้า “น็อกเอาต์ยอดเยี่ยม กติกามวยไทย ประจำปี 2566”
ตลอดปี 2566 นี้มีการแข่งขันในกติกามวยไทย เกิดขึ้นอย่างมากมายแทบทุกสัปดาห์ทั้งจากการแข่งในศึก ONE ลุมพินี และในศึก ONE Fight Night ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายต่อหลายครั้ง ที่บรรดาเหล่านักมวยไทยฝีมือฉกาจทั้งไทยและเทศ ต่างปล่อยของไล่เผด็จศึกคู่ต่อสู้ จนเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมทั่วโลกมาแล้วแทบนับไม่ถ้วน
แต่ผลงานการปิดเกมน็อกที่ติดตาตรึงใจ จนกลายเป็นภาพจำต่อแฟนมวยทั่วโลกในปี 2566 ต้องยกให้ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” ที่ระเบิดฟอร์ม ปล่อยหมัดชุด ไล่ถล่ม “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” กระชากบัลลังก์แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต มาครองอย่างยิ่งใหญ่ ในศึก ONE Fight Night 9: น้องโอ๋ vs โจนาธาน เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา
การปิดเกมน็อกด้วยท่วงท่าการออกหมัดที่ทั้งสวยงามและเปี่ยมไปด้วยพลังทำลายล้าง ส่งผลให้ ONE จึงตัดสินใจมอบ “น็อกเอาต์ยอดเยี่ยม กติกามวยไทย ประจำปี 2566” ให้แก่ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แชมป์โลก ONE มวยไทย และคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) วัย 26 ปีจากสหราชอาณาจักร
สำหรับกระแสก่อนเกมในไฟต์นี้ แม้หลายฝ่ายจะมองว่า “โจนาธาน” เป็นรอง “น้องโอ๋” ในทุกมิติ ทั้งในเรื่องของประสบการณ์ และโดยเฉพาะการเพิ่งขยับมาขึ้นสู้ในรุ่นแบนตัมเวตเพียงครั้งที่สอง แต่ปรากฏว่าเมื่อเกมการชกเปิดฉากเริ่มขึ้น กลับกลายเป็นฝั่งจอมบู๊จากสหราชอาณาจักร ที่กล้าลองดียืนแลกเดือดกับเจ้าตำนานชาวไทยอย่างไม่เกรงกลัว
กระทั่งเกมดำเนินมาถึงช่วงกลางยก เหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อ “แฮ็กเกอร์ตี” ได้จังหวะกระแทกหมัด อัด “น้องโอ๋” ลงไปให้กรรมการนับแปดครั้งแรก ก่อนจะเรียกนับครั้งที่สองในอีกไม่กี่อึดใจ และแม้ “น้องโอ๋” จะยังฝืนลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่ “แฮ็กเกอร์ตี” ไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอย ระดมแจกหมัดชุดใหญ่ จนนักชกขวัญใจชาวไทยหลับกลางอากาศ กรรมการต้องสั่งยุติการแข่งขัน ในนาทีที่ 2:40 ของยกแรก ส่งให้ “แฮ็กเกอร์ตี” ผงาดขึ้นแท่นกลายเป็นราชัน ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต คนใหม่ อย่างสวยงาม
เท่านั้นยังไม่พอ “แฮ็กเกอร์ตี” ยังสามารถเอาชนะใจบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” พิชิตโบนัสคูณสอง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) เข้าบัญชีได้อีกด้วย พร้อมสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นเจ้าของแชมป์โลก ONE มวยไทย สองรุ่นน้ำหนัก คือ รุ่นแบนตัมเวต ในปัจจุบัน และรุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ซึ่งเป็นอดีตบัลลังก์ที่เคยครอง
สำหรับผลงานล่าสุดของ “แฮ็กเกอร์ตี” เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลก ONE สองประเภทกีฬา มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ได้สำเร็จ ในศึก ONE Fight Night 16: โจนาธาน vs ฟาบริซิโอ เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังโชว์ฝีมือกระโดดข้ามสาย ย้ายไปปราบ “ฟาบริซิโอ อานดราเด” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต รุ่นเดียวกัน ขึ้นไปนั่งบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งที่ว่างอยู่ได้สำเร็จ
นอกจากนี้ ยังมีการปิดเกมด้วยน็อกเอาต์ในอีก 4 คู่ที่ติดอันดับท็อป 5 น็อกเอาต์ยอดเยี่ยม กติกามวยไทยประจำปี 2566 ได้แก่
#2 ดีมิทรี เมนชิคอฟ vs มูชีน ชาฟี
“ดีมิทรี เมนชิคอฟ” นักชกหมัดหนักจากรัสเซีย พบกับ “มูชีน ชาฟี” จอมเดือดจากสเปน ในกติกามวยไทย รุ่นไลต์เวต (155 – 170 ป.) ในศึก ONE Fight Night 17: โรมัน vs อเล็กซ์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี เมื่อวันที่ 5 ส.ค.66 โดยเกมการชกจบลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ยกแรก หลัง “มูชีน” ติดประมาท เปิดหน้ายั่วยวน จนโดน “ดีมิทรี” เหวี่ยงหมัดซ้ายเข้าเต็ม ๆ กลายเป็นฝ่ายชนะน็อกไปอย่างสวยงาม
#3 พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย vs สามเอ ไก่ย่างห้าดาว
“พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” พบกับ “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115 – 125 ป.) เฉพาะกาล ในศึก ONE ลุมพินี 22 วันที่ 23 มิ.ย.66 โดยผลการแข่งขันเป็นทางด้าน “พระจันทร์ฉาย” ที่ระเบิดฟอร์มฉายเป็นชุดหยุด “สามเอ” จนอยู่หมัด ปิดเกมเอาชนะน็อกไปได้ในยกที่สอง พร้อมขึ้นครองบัลลังก์เฉพาะกาลในขณะนั้นอย่างยิ่งใหญ่
#4 ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย vs จามาล ยูซูพอฟ
“ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ครั้งแรก พบกับ “จามาล ยูซูพอฟ” ผู้ท้าชิงจากตุรกี ในศึก ONE FIGHT NIGHT 7: จอห์น vs ฟาบริซิโอ II ที่สนามมวยเวทีลุมพินี เมื่อวันที่ 25 ก.พ.66 โดยฝั่งเจ้าของบัลลังก์ โชว์ฟอร์มเดือด ใช้เวลาเพียง 49 วินาทีของยกแรก ปิดเกมชนะน็อก ด้วยการหวดแข้งซ้ายเข้าบริเวณต้นขาด้านหลัง จน “จามาล” ถึงกับเดินทรุดกลับมุมทันที
#5 เมืองไทย พีเค.แสนชัย vs กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย
“เมืองไทย พีเค.แสนชัย” พบกับ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 9 วันที่ 17 มี.ค.66 โดยหลังจากยืนซัดกันมันหยดในสองยกแรก เมื่อเข้าสู่ยกสุดท้าย กลายเป็นทางฝั่ง “เมืองไทย” ที่โชว์เพลงศอก ฟันเข้าเต็มหน้า “กุหลาบดำ” ปิดเกมเอาชนะน็อก เก็บชัยในการพบกันครั้งที่สี่ ไปได้สำเร็จ
ติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh