สรุปผลและประมวลภาพ ONE167: ตะวันฉาย vs โจ II
รูดม่านปิดฉากลงไปอย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอยของแฟนกีฬาการต่อสู้ทั่วโลก สำหรับศึก ONE 167: ตะวันฉาย vs โจ II ที่ขนความมันมาระเบิดแบบจัดเต็ม ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ไปเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยผลปรากฏว่า “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” สามารถย้ำแค้น “โจ ณัฐวุฒิ” ป้องกันบัลลังก์ครั้งที่ 3 ได้สำเร็จ ขณะที่ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” และ “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” พร้อมใจกันเก็บชัยชนะมาครองได้อย่างสุดสะใจ ส่วน “โนแอล กรองด์ชอง” พลาดท่าพ่ายเป็นไฟต์ที่สองติดต่อกัน
#ตะวันฉาย แลกเดือด โจ ณัฐวุฒิ รั้งบัลลังก์เหนียวแน่น
คู่เอกของรายการ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145 – 155 ป.) วัย 25 ปี ลงสังเวียนป้องกันบัลลังก์ครั้งที่ 3 พบกับ “โจ ณัฐวุฒิ” นักสู้อินดี้ วัย 34 ปี ซึ่งเป็นคู่ปรับเก่าที่เคยประชันฝีมือกันมาแล้วอย่างดุเดือดในกติกาคิกบ็อกซิ่ง เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา
ช่วงสองยกแรก “โจ” ไม่กลัวศักดิ์ศรีแชมป์ มีปล่อยอาวุธแลกกับแข้งซ้ายของ “ตะวันฉาย” ได้อย่างดุเดือด เข้ายก 3 ผู้ท้าชิงเร่งเครื่องกดดันหนักซัดอาวุธใส่ “ตะวันฉาย” ไปหลายดอก เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย “ตะวันฉาย” ใข้ความสดเดินบดบี้สู้กับ “โจ” จนหยดสุดท้าย เรียกเสียงเชียร์จากแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายดังสนั่น ครบ 5 ยก กรรมการชูมือให้ “ตะวันฉาย” เป็นฝ่ายชนะด้วยคะแนนเสียงข้างมาก (กรรมการ 2 คนให้อีกฝ่ายชนะ ส่วน 1 คนให้เสมอ) นั่งครองบัลลังก์เป็นสมัยที่ 4
#รถถัง เปิดหน้าแลก ดับซ่า เดนิส สุดมัน
คู่รอง “ดิไอรอนแมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์ ราชันมวยไทย รุ่นฟลายเวต (125 – 135 ป.) วัย 26 ปี หวนคืนเวทีครั้งแรกของปีท้าชน “เดนิส พูริช” มวยเก๋า วัย 39 ปี ตัวแทนจากบอสเนีย – แคนาดา ที่ได้โอกาสสู้กับนักชกคนดังชาวไทยสมใจ ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 141.25 ป.
ภาพรวมเกมการชกตลอดทั้งสามยก ดำเนินไปอย่างสุดมันสมการรอคอย ต่างฝ่ายต่างเดินเข้าหากันอย่างไม่เกรงกลัว โดย “รถถัง” ใช้ความไวของการออกอาวุธที่เหนือกว่า ชิงเล่นงานโกยคะแนนอย่างต่อเนื่อง ด้าน “เดนิส” แม้จะเป็นรองด้านความสดและความคล่องตัว แต่อาศัยหัวใจนักสู้ยืดบดกับนักสู้ขวัญใจชาวไทยได้อย่างน่าประทับใจ สุดท้ายเป็น “รถถัง” ที่ได้รับการชูมือชนะแต้มเอกฉันท์
#สิทธิชัย โชว์ลูกเก๋า คุมกำเนิด มาซาอากิ
ขณะที่ “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ตำนานคิกบ็อกซิ่งขวัญใจชาวไทย วัย 32 ปี อาสารับน้อง “มาซาอากิ โนอิริ” นักชกคิกบ็อกซิ่งซูเปอร์สตาร์ จากญี่ปุ่น วัย 31 ปี ที่มาประเดิมโชว์ฝีมือบนเวทีระดับโลก ONE เป็นครั้งแรก ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.)
เปิดฉากยกแรก “สิทธิชัย” ไม่พูดพร่ำทำเพลง เปิดฉากเดินโจมตี “มาซาอากิ” ทันที โดยทำคะแนนได้อย่างจะแจ้งจากการวางแข้ง และหมัดซ้าย ที่อัดเข้าเป้าอย่างต่อเนื่อง ยกสอง “มาซาอากิ” แก้เกมเดินสาดหมัดหวังโกยแต้มคืน แต่ยังทำอะไรได้ไม่ถนัดเท่าไหร่ ยกตัดสินทั้งสองฝ่ายทุ่มอาวุธทุกอย่างที่มีออกมาเรียกเสียงเชียร์กระหึ่มอิมแพ็ค อารีนา ครบ 3 ยก ผู้ชี้ขาดบนเวทีชูมือให้ “สิทธิชัย” ชนะคะแนนเอกฉันท์ กู้ศรัทธาแฟนมวยทั่วโลกกลับมาได้สำเร็จ
#โนแอล ต้านแกร่งไม่ไหว พ่าย เดนิส เอกฉันท์
ด้าน “โนแอล กรองด์ชอง” นักสู้หญิงแกร่งลูกครึ่งไทย – ฝรั่งเศส วัย 28 ปี ส้มหล่นครั้งใหญ่ ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองกับนักสู้ตัวท็อปของแรงกิง อย่าง “เดนิส แซมโบอันกา” นักสู้สวยสังหาร วัย 27 ปี จากฟิลิปปินส์ ในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นอะตอมเวต (105 – 115 ป.)
เริ่มยกแรกเป็นทางด้าน “เดนิส” ที่คุมเกมได้เหนือกว่า โดยเฉพาะในช่วงปลายยกที่พา “โนแอล” ลงไปเล่นเกมนอนจนเกือบจะปิดเกมได้ในช่วงท้ายยก จากนั้นช่วงที่เหลือรูปเกมหนักไปทางยืนสู้ แม้ “โนแอล” จะพยายามเร่งเต็มที่ในยกสุดท้าย แต่ “เดนิส” ยังคงทำได้เหนือกว่าชัดเจน จบครบ 3 ยก “เดนิส” เข้าวินด้วยคะแนนเอกฉันท์ พร้อมรักษาสิทธิ์ในการเป็นผู้ท้าชิงบัลลังก์ของ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ต่อไป
#นักสู้ฟอร์มจัดคว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์
บิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” สั่งจ่ายโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า1.8 ล้านบาท) ให้ 3 นักกีฬาฟอร์มเดือดเป็นของแถมไม่รวมค่าตัว ได้แก่
- อาเดรียน ลี
- เคด รูโทโล
- ไมกี มูซูเมกี
โดยคิดเป็นยอดรวมกว่า 5.5 ล้านบาท (ห้าล้านห้าแสนบาท) ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
สรุปการแข่งขันทุกคู่ศึก ONE 167
- คู่เอก ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย ชนะคะแนนเสียงข้างมาก โจ ณัฐวุฒิ (ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต 145 – 155 ป.)
- คู่รอง รถถัง จิตรเมืองนนท์ ชนะคะแนนเอกฉันท์ เดนิส พูริช (คิกบ็อกซิ่ง แคตช์เวต 141.25 ป.)
- ไมกี มูซูเมกี ชนะซับมิชชัน กาเบรียล ซูซา นาทีที่ 3:07 ของยกแรก (ปล้ำจับล็อก รุ่นแบนตัมเวต 135 – 145 ป.)
- เคด รูโทโล ชนะซับมิชชัน เบลก คูเปอร์ นาทีที่ 3:20 ของยกแรก (การต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นไลต์เวต 155 – 170 ป.)
- สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง ชนะคะแนนเอกฉันท์ มาซาอากิ โนอิริ (คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต 145 – 155 ป.)
- เดนิส แซมโบอันกา ชนะคะแนนเอกฉันท์ โนแอล กรองด์ชอง (การต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นอะตอมเวต 105 – 115 ป.)
- อาเดรียน ลี ชนะซับมิชชัน อันโตนิโอ มัมมาเรลลา นาทีที่ 1:56 ของยกที่ 2 (การต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นไลต์เวต 155 – 170 ป.)
- เหงียน ตรัน ดุย งัด ชนะคะแนนเอกฉันท์ โจฮัน กาซาลี (มวยไทย รุ่นฟลายเวต 125 – 135 ป.)
- วิกตอเรีย ซูซา ชนะซับมิชชัน อิตซูกิ ฮิราตะ นาทีที่ 1:31 ของยกแรก (การต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นอะตอมเวต 105 – 115 ป.)
- โยฮัน เอสตูปินาน ชนะคะแนนเอกฉันท์ ซาเฟอร์ ซายิก (มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต 135 – 145 ป.)
ความหมายของผลการตัดสินแบบต่าง ๆ
- ชนะเอกฉันท์ (Unanimous Decision) หมายถึง กรรมการ 3 คนเห็นตรงกันให้ฝ่ายหนึ่งชนะ อีกฝ่ายหนึ่งแพ้
- ชนะไม่เอกฉันท์ (Split Decision) หมายถึง กรรมการ 2 คนให้ฝ่ายหนึ่งชนะ ส่วน 1 คนให้อีกฝ่ายชนะ
- ชนะเสียงข้างมาก (Majority Decision) หมายถึง กรรมการ 2 คนให้ฝ่ายหนึ่งชนะ ส่วน 1 คนให้เสมอกรณีกรรมการ 3 คนให้คะแนนเสมอกัน หรือ 1 คนให้ชนะ อีก 2 คนให้เสมอ กรรมการที่ให้ผลเสมอจะต้องพิจารณาเลือกผู้ชนะ และจะนำไปสู่การตัดสินแบบชนะเอกฉันท์ หรือชนะไม่เอกฉันท์ ต่อไป