ONE ลุมพินี ปลุกไฟฝัน “ชนะจน” พร้อมคืนสังเวียนเมื่อใจยังไหวกายยังสู้
อดีตมวยดัง “ชนะจน” หอบไฟฝันอันลุกโชน หวนคืนสู่สังเวียนผ้าใบครั้งแรกในรอบ 3 ปี หวังใช้ศึก ONE ลุมพินี พิสูจน์ตัวอีกครั้ง ขอเดินหน้าสู้บู๊สนั่นแม้วัยล่วงเลยเกินเลขสาม
“ชนะจน พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” นักชกจอมเก๋า วัย 34 ปี จากบุรีรัมย์ ดีกรีแชมป์ “อีซูซุคัพ24” ในปี 2557 ห่างหายจากสังเวียนไปนาน 3 ปี จนเกือบถอดใจเลิกชกมวยไปแล้ว แต่การมาถึงของศึก “ONE ลุมพินี” ทำให้เจ้าตัวกลับมามีแรงบันดาลใจและตัดสินใจกลับมาชกอีกครั้ง พร้อมพิสูจน์ตัวเองว่าฝีมือยังดีไม่เป็นรองใคร
ในวัยเด็ก “ชนะจน” ต้องฝ่าฟันอุปสรรคความจนมาอย่างหนักหน่วง ก่อนมารู้จักกีฬามวยไทยที่ช่วยให้เขาและครอบครัวลืมตาอ้าปากได้ โดยจากประสบการณ์การผ่านสังเวียนผ้าใบมาเกือบ 30 ปี “ชนะจน” ยังคงเห็นภาพความทรงจำของชีวิตสุดทรหดในวัยเด็กอย่างชัดเจน
“ตอนเป็นเด็กชีวิตผมลำบากมากครับ ถึงขนาดที่ว่าบ้านอื่นมีไฟฟ้าใช้กันหมดแล้วบ้านผมยังต้องใช้ตะเกียงอยู่เลย ก่อนมาเริ่มชกมวยตอนอายุ 6 ขวบ ต้องสู้ชีวิตมาตั้งแต่ตอนนั้น จากที่ไม่มีอะไรเลยชีวิตมาดีขึ้นเพราะการชกมวยเลยครับ คือตอนนั้นถ้าไม่ชกมวยก็ไม่รู้จะทำอะไร ต้องช่วยหารายได้เข้าบ้านครับ”
หนึ่งในโมเมนต์สำคัญของชีวิตคือตอนเปลี่ยนมาใช้ชื่อ “ชนะจน” แล้วมี “เสี่ยแขก” สมชาย เทศรุ่งเรือง หัวหน้าค่ายพีเค.แสนชัยฯ คอยอุปการะช่วยเหลือมาตลอด ทำให้เขายังคงมีเรี่ยวแรงและกำลังใจเดินต่อบนเส้นทางมวยไทยต่อไป
“ก่อนหน้านี้ผมเคยใช้ชื่อ “ออมสินเล็ก ศิษย์เจ๊กานต์” ก่อนที่ “เสี่ยแขก” จะตั้งชื่อให้ผมว่า “ชนะจน” ซึ่งตั้งตามชื่อหลวงพ่อที่ท่านนับถือ จากนั้นชีวิตผมก็ดีขึ้นทันตาเห็น คว้าแชมป์มวยรอบอีซูซุคัพ ครั้งที่ 24 มาได้ แม้เจอช่วงยากลำบากตอนโควิดที่ร้างเวทีไปนาน 3 ปี ท่านก็ยังคอยถามไถ่ชวนกลับมาชกมวยอยู่เสมอครับ”
การเปิดตัวของศึก “ONE ลุมพินี” ที่เปิดโอกาสให้นักมวยไทยไม่ว่าจะมาจากค่ายเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่าวัยรุ่น วัยหนุ่มหรือวัยเก๋าได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่และได้รับค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ ทำให้ไฟในตัวของ “ชนะจน” ลุกโชนอีกครั้ง และตัดสินใจสละอาชีพครูสอนมวยไทยที่ประเทศจีนในปัจจุบันซึ่งได้รับเงินเดือนกว่าครึ่งแสนบาท กลับมาล่าฝันอีกครั้งบนเส้นทางนักสู้ในวัย 34 ปี
“ช่วงโควิดผมไม่มีโปรแกรมขึ้นชกจนเกือบเลิกชกมวยไปแล้วครับ ก่อนในช่วง 6 เดือนหลังผมจะได้รับโอกาสไปสอนมวยไทยที่จีน แต่พอเห็นนักชกรุ่นน้องได้ไปชกในศึก ONE ลุมพินี ทำให้ผมอยากพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง พอดีกับที่ทาง เสี่ยแขก ชักชวนให้กลับมาชกด้วย ผมคิดว่าตัวเองยังไหวจึงขอลองดูสักตั้งครับ”
หลังกลับมาที่ค่าย พีเค.แสนชัยฯ “ชนะจน” ยังได้รับการต้อนรับแบบอบอุ่น พร้อมมุ่งมั่นเตรียมความพร้อมลุยในศึก ONE ลุมพินี 18 เป็นครั้งแรก โดยถูกวางตัวให้เจอกับ “วิคเตอร์ ฮิวโก” นักมวยจากบราซิล ในกติกามวยไทย รุ่นไลต์เวต (155-170 ป.) ซึ่งเจ้าตัวพร้อมลุยมิดเกียร์ให้ทุกคนเห็นฝีมือ
“ตั้งแต่กลับมาที่จีนผมซ้อมได้ประมาณ 3 เดือนแล้วครับ ร่างกายตอนนี้พร้อมประมาณ 90% แล้ว การปรับตัวในการชก 3 ยกและใช้นวมเล็กไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม เพราะผมเคยชกมวยคาดเชือกมาแล้ว หลัก ๆ มันอยู่ที่การป้องกันตัวมากกว่าครับ ฝ่ายไหนเผลอพลาดเพียงเสี้ยววินาทีอาจทำให้หลับได้เลยครับ”
“ผมดูเทปการชกของ วิคเตอร์ มาแล้วถือว่าเป็นมวยที่เก่งพอสมควรครับ ถือเป็นคู่ชกที่รับมือด้วยยากในการกลับมาในครั้งนี้ แต่พอขึ้นไปบนเวทีผมพร้อมทำให้เต็มที่ครับ ไม่สนใจอยู่แล้วว่าต้องเจอใคร ผมจะชกตามเกมของตัวเองที่ซ้อมมา ถ้ามีโอกาสน็อกได้ก็น็อก ถ้าทำไม่ได้ก็จะชกตามเกมของตัวเองครับ”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 18 วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคมนี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น., Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ)