ขึ้นอย่าหลง ลงอย่าท้อ “เดชดำรงค์” พร้อมสู้ต่อเพื่อพิสูจน์ว่าผมยังไหว
หลังจากจบการแข่งขันศึก ONE: REIGN OF DYNASTIES เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ประเทศสิงคโปร์ “เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” นักสู้ระดับเจ้าตำนานมวยไทยวัย 41 ปี พ่ายคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ (2:1 เสียง) ให้กับนักสู้จีน-มองโกเลีย “เหอซิเกอทู” ไปอย่างน่าเสียดาย
#ไฮไลต์มาแล้วคร้า "เหอซิเกอทู" ชนะคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ "เดชดำรงค์" MMA 9 ต.ค.63 สิงคโปร์
#ไฮไลต์มาแล้วคร้า "เหอซิเกอทู" ชนะคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ "เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค" กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นสตรอว์เวต………………………ศึก ONE: REIGN OF DYNASTIES 9 ต.ค.63
Posted by ONE Championship Thailand on Friday, October 9, 2020
เดชดำรงค์ ขึ้นสังเวียนด้วยประสบการณ์ 16 ไฟต์ (ชนะ 11 แพ้ 5) ในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) พ่วงสถิติมวยไทยอีก 350 ไฟต์
ในขณะที่ด้าน เหอซิเกอทู อายุ 35 ปี รายนี้เรียนมวยปล้ำมองโกเลียมาแต่เด็ก แถมฝึกวิชามวยสานต่าของจีนมาเป็นเวลา 10 ปี มีสถิติการต่อสู้แบบผสมผสาน 11 ไฟต์ (ชนะ 7 แพ้ 4)
เริ่มยกแรกทั้งคู่ดูเชิงจดๆ จ้องๆ เดชดำรงค์ เป็นฝ่ายไล่จี้และเปิดเกมด้วยอาวุธมวยไทย ขณะที่นักสู้จีนก็พยายามวิ่งรอบเพื่อหาจังหวะเข้าเทกดาวน์เล่นเกมภาคพื้นที่ตัวเองถนัด โดยในช่วงปลายยกเขาสามารถรวบ เดชดำรงค์ ได้และพยายามซับมิชชันแต่ไม่สำเร็จ
ยกสองและยกสาม เดชดำรงค์ พยายามทวงแต้มคืน ด้วยการไล่เตะขวาเข้าลำตัวและขาของคู่แข่งชาวจีนหลายครั้งจนออกอาการ แต่ เหอซิเกอทู ก็ตอบโต้ด้วยเกมมวยปล้ำมองโกเลียที่แข็งแกร่ง จับ เดชดำรงค์ เทกดาวน์แต่ก็ทำอะไรได้ไม่จะแจ้ง ครบสามยกกรรมการชูมือให้ เหอซิเกอทู ชนะคะแนนไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์
https://www.facebook.com/thamrong.yai/posts/10216982829034263
“ผมขอขอบคุณแฟนมวยทุกๆ คนที่ให้กำลังใจผมตลอดมา ผมไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อคืนต้องขอโทษแฟนมวยทุกๆ คนที่ทำให้ผิดหวัง ผมจะขอต่อสู้กับ Hexigetu อีกครั้งในการขึ้นสังเวียนครั้งต่อไป เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าจะสู้ต่อไปหรือพอแค่นี้ “เลือดนักสู้ ใจเต็มร้อย”
เดชดำรงค์ เปิดใจหลังการแข่งขันว่า รู้สึกเสียใจและยังไม่พอใจในเกมการต่อสู้ของตัวเอง เพราะร้างสังเวียนไปนานเนื่องจากพิษโควิด-19 แม้จะขยันซ้อมอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังส่งผลให้ออกอาวุธช้า อีกทั้งคู่ต่อสู้ก็พยายามหนีให้ต้องตามไล่ จนออกอาวุธไม่ถนัด
“เขาวิ่งหนี ไม่ยืนสู้กับเรา เพื่อหาจังหวะเทกดาวน์เรา ทำให้เราพะวง และออกอาวุธไม่ค่อยถนัด ซึ่งผมคิดว่าเขาได้คะแนนจากการเทกดาวน์ให้เราอยู่ล่างในยกแรกและปลายยกสาม แต่ผมก็คิดว่าผมไล่คะแนนขึ้นมาเป็นผู้ชนะแล้ว”
“ไม่มีข้อแก้ตัวครับ ผมอยากรีแมตช์กับเขา เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าร่างกายผมยังไหว หัวใจผมยังเต็มร้อยทุกครั้งที่สู้ แม้สุขภาพร่างกายจะหยุดไปช่วงโควิด-19 นานพอสมควร บวกกับอายุด้วย ทุกอย่างย่อมไม่จีรัง ยามขึ้นอย่าหลง ยามลงอย่าท้อ หัวใจผมสู้เต็มร้อยเสมอทุกสถานการณ์ครับ”
อ่านเพิ่มเติม: