“เอฟ ทิง” ยอมรับสุดโล่งหลังไฟต์ชวนตาค้างที่มาเลเซีย
คงไม่มีไฟต์ไหนที่เด็ดดวงไปกว่า “ET” เอฟ ทิง ปะทะ “ไดชิ อาเบ” ในศึก ONE: MASTERS OF DESTINY
ไฟต์นี้อาจไม่จัดจ้านด้านเทคนิคการยืนสู้อย่าง “เปโตรเซียน vs เพชรมรกต” และไม่เฉียบคมในเกมจับล็อกอย่าง “นิโคลินี vs ลี” แต่ถ้านับถึงความตื่นเต้นเพียวๆ ก็ต้องยกให้เขาล่ะ
ทั้งคู่ต่างก็ถูกสอยร่วง ก่อนที่ดาวเด่นชาวมาเลเซีย เอฟ ทิง จะคว้าชัยด้วยซับมิชชันในยก 2 ต่อหน้าแฟนๆ ในบ้านตัวเอง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา แม้จะมีความหวาดเสียวให้แฟนๆ ต้องลุ้น แต่ ทิง บอกว่าเขาไม่ได้เจ็บตัวอย่างที่หลายคนคิด
“เขาเล่นงานผมอยู่หลายครั้ง ตอนที่ผมกำลังจะก้าวขา ทำให้ผมเสียการทรงตัว และดูดรามามากกว่าที่เป็นจริง ONE ก็ต้องการสร้างความเร้าใจให้ผู้ชมอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ” เขากล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ
“แผนก็คือการผสมผสานทำให้คู่ต่อสู้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย แต่ ไดชิ ก็ควบคุมเกมได้ดี ตอนที่เขาเล่นงานผมล้มลง ผมรู้ว่าผมต้องหยุดเคลื่อนไหว ไม่อย่างนั้นกรรมการอาจจะยุติการแข่งขันได้ ดังนั้นผมจึงต้องเคลื่อนไหวตลอด”
ทุกอย่างเปลี่ยนไปในยกที่ 2 ต้องขอบคุณคำแนะนำจากพี่เลี้ยงที่ข้างเวทีของเขา นั่นช่วยให้นักสู้วัย 28 ปี เริ่มหาจังหวะออกหมัดได้แม่นยำมากขึ้น
“อย่างแรกเลยก็คือต้องลดจังหวะเข้าทำ พยายามยกการ์ดให้สูง จากนั้นตอบโต้กลับไป”
“ยิวยิตสู ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ผมไม่ค่อยได้ใช้เกมในท่าภาคพื้นสักเท่าไหร่ แต่บางทีอาจจะมีเหยื่อที่ต้องเจอกับสิ่งนี้มากขึ้นในอนาคต”
หลังกลับมาต่อสู้กันอีกครั้ง ทิง ก็เน้นไปที่การจับรวบ แทนที่จะเป็นการหาจังหวะน็อกเอาต์ ซึ่งเขาเองก็พอใจที่ได้รวบ อาเบ ลงไปนอนกับพื้นได้
นักสู้ชาวญี่ปุ่นพยายามที่จะหลบหนี แต่ก็มาโดน rear-naked choke และตบขอยอมแพ้ เพียงแค่ 16 วินาทีก่อนที่ระฆังจะดัง
ทิง ได้รับเสียงเชียร์จากแฟนๆ ชาวมาเลเซีย แม้ว่าเขาเชื่อว่าจะต้องได้รับชัยชนะครั้งนี้ แต่เขาก็โล่งใจโขที่การต่อสู้อันแสนหนักหน่วงจบลงเสียที
“ผมรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่ผมเชื่อมาตลอดว่าจะต้องชนะ ก่อนที่ทุกคนจะได้เห็นแล้วในวันนี้”
ทิง วิ่งไปที่มุม พร้อมกับหยอกล้อกับแฟนๆ โดยสัญญาว่าเขาจะไม่ทำให้แฟนๆ ต้องหวาดเสียว ใจหายใจคว่ำแบบนี้อีก ก่อนที่จะกล่าวขอบคุณทุกคนและให้สัมภาษณ์บนเวที
เขายังคงไร้พ่ายที่กัวลาลัมเปอร์ แต่มันก็ผ่านมาแล้ว 2 ปี นับจากที่เขาเคยได้โอกาสขึ้นเวทีสู้ต่อหน้าแฟนๆ ร่วมชาติของเขา ซึ่งเขาดีใจมากที่สามารถสานต่อสถิตินี้ต่อไปได้
“สถิติ 10-0 ที่กัวลาลัมเปอร์มันมีความหมายอย่างมากสำหรับผม มากกว่าความรู้สึกที่ได้เงิน 1 ล้านเหรียญด้วยซ้ำ”
ถึงตอนนี้ ทิง ถูกจับตาให้เป็นนักสู้ตัวท็อปของรุ่นนี้ แม้ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกกำราบมาแล้วสองครั้ง แต่มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหากพ่ายแพ้ต่ออดีตแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวตอย่าง “ชินยะ อาโอกิ” และพ่ายน็อกเอาต์อย่างรวดเร็วด้วยมือของ ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์รุ่นไลต์เวตอย่าง “เซยิด กูเซน อาร์สลานาเลียฟ”
ตอนนี้เขาหมายไปที่แชมป์โลกของรุ่นอย่าง “คริสเตียน ลี” และหวังว่าจะมีโอกาสได้ทาบชั้นในสักวันหนึ่ง