ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำ “ฟาบิโอ” ขอคิดบัญชี “พงษ์ศิริ” มั่นใจจบไม่เหมือนเดิม
“ฟาบิโอ” ประกาศลั่น ขอปิดบัญชีแค้น “พงษ์ศิริ” ในการพบกันภาคที่สอง มั่นใจไฟต์นี้จะดุเดือดเลือดพล่านสมการรอคอย พร้อมพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในฐานะมือปราบนักมวยไทย
“ฟาบิโอ เรอิส” นักมวยฟอร์มร้อนชาวโปรตุเกส ที่ไล่กำราบนักมวยไทยแถวหน้า มาแล้วสามคนติดต่อกัน เตรียมขึ้นเวทีโชว์ฝีมืออีกครั้ง โดยคราวนี้จะต้องพบกับคู่ปรับเก่า ที่เคยยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้เมื่อหนึ่งปีก่อน อย่าง “แฝดอโยธยา” พงษ์ศิริ พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135 – 145 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 24 วันศุกร์ที่ 7 ก.ค.นี้
นาทีนี้คงไม่มีแฟนกีฬาคนไหนไม่รู้จักชื่อของ “ฟาบิโอ เรอิส” อีกต่อไป หลังสร้างชื่อกระฉ่อนขึ้นมาจากการไล่ปราบนักมวยไทยแถวหน้าแบบไม่ครบยกมาแล้วถึงสามรายติดต่อกัน เริ่มจาก “ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี”, “เฟอร์รารี แฟร์เท็กซ์” และล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 15 ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักมวยต่างชาติคนแรกที่สามารถเอาชนะน็อก “ทารกเงินล้าน” แสงมณี พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม ไปได้ จนทำให้ตอนนี้แฟน ๆ ต่างขนานนามให้เขากลายเป็น “มือปราบนักมวยไทย” ไปแล้ว
โดยไฟต์ที่สามในสังเวียน ONE ลุมพินี “ฟาบิโอ” จะได้โอกาสสะสางบัญชีแค้นกับอดีตคู่ปรับเก่าอย่าง “พงษ์ศิริ พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” ที่เคยปะทะฝีมือกันมาแล้วเมื่อวันที่ 8 ก.ค.65 ในรูปแบบมวย 5 ยกกติกาพิเศษ แบ่งเป็นมวยสากล 2 ยก และมวยไทยอีก 3 ยก ซึ่งผลการแข่งขันเป็นทางด้านของ “แฝดอโยธยา” ที่สามารถเอาชนะคะแนน “ฟาบิโอ” ไปได้
โดย “ฟาบิโอ” ยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ สำหรับการโคจรกลับมาพบกันในภาคสองกับ “พงษ์ศิริ” ที่บังเอิญมาบรรจบครบรอบหนึ่งปีจากภาคแรกพอดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมาเจอกันในรายการระดับโลก ONE ลุมพินี ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าบทสรุปสุดท้ายของคดีนี้จะแตกต่างออกไปจากการพบกันในครั้งก่อน เพราะในปัจจุบัน ตนไม่ใช่ “ฟาบิโอ” คนเดิมที่เคยพลาดท่าพ่ายแพ้ในอดีตอีกต่อไป
“ผมรู้สึกดีที่เราทั้งคู่จะได้จบเรื่องราวต่อกันเสียที ผมแพ้ให้กับเขาเมื่อวันที่ 8 ก.ค.65 มันน่าทึ่งมาก ที่เราจะได้สู้กันอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ค.66 ซึ่งครบรอบหนึ่งปีพอดี และคราวนี้เราจะสู้กันในสังเวียนที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ผมตื่นเต้นมาก ๆ ว่าสุดท้ายแล้วตอนจบของเรื่องราวของเรามันจะจบลงยังไง”
“ตอนนี้ผมไม่ใช่ “ฟาบิโอ” คนเดิมในหนึ่งปีที่ผ่านมา เพราะทั้งพละกำลัง ทักษะ และความฟิตของผมดีขึ้นกว่าหนึ่งปีก่อนมาก และผมคิดว่าเรื่องราวของเราในภาคที่สองนี้จะจบลงแตกต่างออกไปจากภาคแรกแน่นอน”
การต้องพบกับ “พงษ์ศิริ” ซึ่งเป็นนักมวยไทยสไตล์ไฟเตอร์ เดินหน้าลุยแบบไม่มีเกียร์ถอย ทำให้ “ฟาบิโอ” ทราบดีว่ารูปเกมในไฟต์นี้จะต้องแตกต่างออกไปจากสามไฟต์ก่อนหน้าที่ตนสามารถเอาชนะมาได้แบบไม่ครบยก พร้อมยืนยันชัดเจนว่าไฟต์นี้ต้องการสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ตนพัฒนาขึ้นมามากขนาดไหน
“ผมคิดว่ามันจะเป็นค่ำคืนที่ยาวนานแน่ ๆ สำหรับเราสองคน ผมไม่คิดว่าไฟต์นี้จะจบลงอย่างรวดเร็วแน่นอน เกมการชกมันจะลุกเป็นไฟ เราสองคนจะทำให้ต่างฝ่ายต่างต้องเจ็บหนักแน่ ๆ เพราะเราทั้งคู่ต่างเป็นมวยเดินบุกเหมือนกัน แล้วมาดูกันว่าใครจะเป็นฝ่ายถอยก่อน”
“ไฟต์นี้สำคัญต่อผมมาก เพราะผมเคยแพ้ “พงษ์ศิริ” มาก่อน ผมต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าตัวผมพัฒนา และเติบโตขึ้นมามากขนาดไหนจากหนึ่งปีที่ผ่านมา ดังนั้นไฟต์นี้จะไม่ใช่การต่อสู้เพื่อใคร แต่เพื่อตัวผมเองเท่านั้น และตอนนี้ผมพร้อมแล้วที่จะพบกับเขา”
แม้ปัจจุบัน “พงษ์ศิริ” จะอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรง เก็บชัยชนะมาได้แบบสุดระห่ำสองไฟต์ติดต่อกัน แต่ “ฟาบิโอ” ก็เฝ้าศึกษาทำการบ้านมาเป็นอย่างดี จนทราบว่าจอมบู๊จากเมืองกรุงเก่ารายนี้ยังคงมีจุดอ่อนให้เห็น และพร้อมจะบุกขยี้เล่นงาน เพื่อเป็นฝ่ายกำชัยชนะ แก้แค้นจากการพบกันในภาคแรกแบบทบต้นทบดอก
“จากที่ผมศึกษาฟอร์มการชกของเขาในสองไฟต์ล่าสุด ผมคิดว่า “พงษ์ศิริ” เป็นนักมวยไทยที่ไม่มีพลังมากพอที่จะน็อกใครได้ วิธีการเขาใช้เอาชนะคือการเดินบดเข้าหาเพื่อทำให้คู่ต่อสู้อ่อนแรงไปเองเท่านั้น และไฟต์นี้ผมจะมุ่งเน้นไปที่การเล่นงานคาง และขาที่เป็นจุดอ่อนของเขา ทุกคนคาดหวังได้เลยว่าผมจะเดินไม่มีหยุดตลอดทั้งสามยก”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 24 วันศุกร์ที่ 7 ก.ค.นี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ)
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand (ทุกคู่)
- YouTube ONE (ทุกคู่)
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.