“เบนซ์ วิชญกรณ์” อดีตแบดบอยกลับใจ เปลี่ยนเรื่องชกต่อยสู่สังเวียนนักสู้ลูกผู้ชาย

นักเลง

อดีตแบดบอยที่เคยผ่านสนามการต่อสู้แบบไร้เวทีเพื่อพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชาย “เบนซ์ วิชญกรณ์” กลับตัวกลับใจสู่เส้นทางเดินใหม่ที่เล่นไปตามกฎกติกา

“Superbenz” วิชญกรณ์ เนียมถนอม นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) พันธุ์ดุสัญชาติไทย วัย 23 ปี เจ้าของแชมป์ทัวร์นาเมนต์สมัครเล่น MFC เป็นอีกหนึ่งคนที่ก้าวสู่สังเวียนระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ ภายใต้ชื่อศึก ONE: A NEW BREED II โดยชิมลางไฟต์แรกกับแชมป์คิกบ็อกซิ่งจากโมร็อกโก “Monster” คาลิด ฟริกกีนี วัย 21 ปี ที่เพิ่งผันตัวมาเอาดีเปิดซิงในกีฬานี้เป็นครั้งแรก

ก่อนที่เราจะได้เห็นฝีมือสองดาวรุ่งน้องใหม่ต่างสายเลือดบนเวทีการต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นไลต์เวต ในวันศุกร์ที่ 11 กันยายนนี้ เราจะพาไปรู้จัก เบนซ์ วิชญกรณ์ ให้มากขึ้น บอกเลยว่าเขาก็หนึ่งใน “แบดบอยกลับใจ” เลยทีเดียว

 

พี่สาวคือแม่คนที่สอง

Witchyakorn family.jpg

มัลลิกา รสรื่น (พี่สาว) และคุณพ่อของ วิชญกรณ์

 

วิชญกรณ์ มีชื่อเล่นว่า “เบนซ์” เขาเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด พ่อกับแม่ทำสวนมะพร้าว มีพี่สาวหนึ่งคน ตัวเขาเป็นลูกหลง มีอายุห่างกับพี่ถึง 26 ปี

ช่วงที่ วิชญกรณ์ เกิดเป็นเวลาเดียวกันกับที่พี่สาวกำลังมีลูกชาย ส่วนแม่ขณะนั้นอายุ 44 ปี จึงฝากฝังให้พี่สาวช่วยเลี้ยงดูเขาด้วยอีกแรง พี่สาวจึงเปรียบเสมือนแม่คนที่สองที่คอยดูแลเขามาตั้งแต่เด็ก

วิชญกรณ์ เริ่มต้นเรียนรู้ศาสตร์การต่อสู้ กังฟูจีน ที่โรงเรียนไทย-จีนเส้าหลินกังฟู เมื่ออายุ 15 ปี ด้วยแรงกระตุ้นจากหนังจีนกำลังภายในที่เคยดูในวัยเด็ก

ช่วงฮอร์โมนวัยรุ่นกำลังพลุ่งพล่านเต็มไปด้วยความคึกคะนอง วิชญกรณ์ มีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียนเป็นประจำ ครั้งหนึ่งเด็ก ม.3 อย่างเขา จัดการรุ่นพี่ ม.6 ถึง 6 คน บาดเจ็บถึงขั้นต้องไปทำศัลยกรรม ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียนรุ่นพี่ต่างเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินหลักแสนบาท

และนี่เองคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาคิดได้ว่าจะเลิกปัญหาการทะเลาะวิวาท และนำทักษะการต่อสู้ที่มีไปใช้บนเวทีให้ถูกต้องตามกติกา

 

คว้าแชมป์ตั้งแต่เวทีแรก

Witchyakorn belt.jpg

กับเข็มขัดแชมป์ MFC

 

เมื่อ วิชญกรณ์ เรียนอยู่ชั้น ปวช. ตอนอายุ 17 ปี เขารู้จักมวยไทยผ่านการเก็บตัวซ้อมหนึ่งเดือนที่ค่ายของลูกชาย “พุฒ ล้อเหล็ก” จังหวัดตรัง ซึ่งทุกวันนี้เจ้าตัวเองก็จำชื่อค่ายและรายละเอียดอื่นไม่ได้มากนัก จำได้แต่ว่าหลังฝึกวิชาเสร็จก็ได้ทดสอบฝีมือบนเวทีทันที โดยไฟต์แรกเขาขึ้นชกในฐานะคู่รองของรายการ และคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งด้วยการแทงเข่าน็อกในยกที่สอง

“ลึกๆ พี่สาวผมเขาไม่อยากให้ผมชกมวย แต่เขารู้ว่าผมเป็นคนหัวไม่ดี มีดีแค่เรื่องเอาตัวรอดได้ในการชกต่อย เขาเลี้ยงผมไม่ต่างจากลูกของตัวเองแท้ๆ ดูแลและสนับสนุมผมทุกอย่าง สุดท้ายเขาก็เปิดค่ายให้ผมที่บ้านชื่อ ส.มนัสยิม เอาไว้ซ้อมเองและสอนมวยควบคู่ไปด้วยเพื่อเป็นอาชีพติดตัวจนผมมีวันนี้ได้”

 

S__43851778.jpg

วิชญกรณ์ (เสื้อชมพู) และลูกๆ ของพี่สาว

 

วิชญกรณ์ หาเวทีลงแข่งขันเรื่อยๆ จนได้มาเจอกับทัวร์นาเมนต์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) สมัครเล่น ซึ่งเขาเคยดูกีฬานี้ผ่านตามาบ้าง จึงตัดสินใจลงสมัครแข่งขัน แต่รุ่นน้ำหนักของเขามีผู้สมัครเต็มหมดแล้ว จึงต้องยอมแบกน้ำหนักขึ้นไปร่วม 10 กิโลกรัม และปรากฏว่าเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งคนไทยสองคนในทัวร์นาเมนต์ ด้วยการน็อกเพียงยกแรก และคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์นี้ไปครอง

หลังจากนั้น วิชญกรณ์ กลับมาสู้ในรุ่นน้ำหนักของตัวเอง แต่กลับต้องพบกับความพ่ายแพ้ครั้งแรก เมื่อเจอกับนักสู้ต่างชาติผู้ชำนาญการเกมนอนสู้ เขาโดนจับทุ่มลงพื้นหลายต่อหลายครั้ง และถูกซับมิชชัน (รัดคอ) ในยกสุดท้าย

จากประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาตัดสินใจเสริมความแกร่งด้วยวิชา มวยไทยโบราณ โดยเน้นที่การป้องกันตัวจากคู่แข่งในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานโดยเฉพาะ ซึ่งนับแต่นั้นเขาก็ไม่เคยแพ้ใคร แถมสร้างสถิติน่าเกรงขาม ชนะ 7 แพ้ 1 โดยเป็นชัยชนะด้วยการน็อกทั้งหมด ที่สำคัญยังได้แชมป์มาเพิ่มอีกสองรายการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรายการ MFC

 

โอกาสแรกบนเวทีระดับโลก

นักเลง.jpg

 

วิชญกรณ์ สานต่อความสำเร็จต่อเนื่องในวัย 19 ปี ด้วยการเข้าร่วมสังกัด Shinji Dojo ซึ่งเป็นค่ายเดิมของ “อากิฮิโร ฟูจิซาวา” ซึ่งปัจจุบันเป็นนักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ โดย วิชญกรณ์ ได้ฝึกฝนวิชาบราซิลเลียนยิวยิตสู เพื่อเน้นพื้นฐานเกมนอนสู้แบบเต็มพิกัด ก่อนที่จะเทิร์นโปรลงแข่งขันในรายการ Full Metal Dojo

คู่แข่งรายแรกในรายการใหม่ มีดีกรีแชมป์ MFG รุ่น 77 กิโลกรัม ที่ลดน้ำหนักลงมาแข่งในรุ่น 70 กิโลกรัม โดยไฟต์นั้น วิชญกรณ์ ปิดเกมคู่แข่งขันได้ตั้งแต่ยกสอง ด้วยการซับมิชชันในท่า Rear Naked Choke (รัดคอ) ก่อนที่ไฟต์ต่อมาเจ้าตัวจะลดน้ำหนักลงมาสู้ในรุ่นที่เล็กกว่า และต้องพบกับความพ่ายแพ้ไปแบบบอบช้ำ ถึงขั้นที่พี่เลี้ยงต้องขอยุติการแข่งขัน

ปีที่ผ่านมา วิชญกรณ์  ย้ายมาอยู่ภายใต้สังกัด Yorky MMA ของ “JJ” นิโคลัส ลี อดีตนักกีฬา วัน แชมเปียนชิพ โดยเขาได้ขัดเกลาทักษะศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานชุดใหญ่ และคว้าชัยชนะด้วยการน็อกตั้งแต่ยกแรกในรายการ Full Metal Dojo จนทำให้ได้รับโอกาสให้ขึ้นแสดงฝีมือบนเวทีระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ เป็นครั้งแรก

“ตอนที่ นิค (นิโคลัส ลี) โทรมาบอกผมเรื่องเซ็นสัญญา กับ วัน แชมเปียนชิพ และได้คิวเปิดตัวศึกแรกทันที ทีแรกผมยังไม่กล้าตอบตกลงเพราะร้างเวที MMA ไปหลายเดือน  แต่พอ นิค ได้ช่วยเช็กร่างกายและเนื้อตัว ซึ่งช่วงโควิดที่ผ่านมาผมได้ซ้อมและสอนมวยอยู่ที่บ้าน เขาเชื่อใจว่าผมทำได้ ก็นับเป็นโอกาสที่ดีมากครับ ที่จะได้โชว์ฝีมือในเวทีระดับโลก”

สำหรับการเปิดตัวศึกแรกใน วัน แชมเปียนชิพ ของ วิชญกรณ์ จะปรากฏสู่สายตาแฟนๆ ในรูปแบบของบันทึกการแข่งขัน ในวันศุกร์ที่ 11 กันยายนนี้

** รับชมได้ทาง**

  • ONE Super App เวลา 19.30 น.
  • YouTube ONE Championship เวลา 19.30 น.
  • AIS PLAY เวลา 19.30 น.
  • ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.40 น.

 

อ่านเพิ่มเติม:

ดูเพิ่มเติมในหมวด ข่าว

11 Suakim vs Panrit OL92 (9)
7_OL81_ShadowMohammad (34)
12 Sitthichai vs Shadow OL92 (48)
77942
OL92_Faceoffs (23)
Cover_OL92_KiamranNabil
OL83 Panrit vs Superball (15)
Khunsueklek Boomdeksean VS Koko Sor Sommai2 1200x800
BG_ONE03_0 (67)
OL68 Sibmuen vs Tyson Harrison (31)
Maisangkum Sor Yingcharoenkarnchang VS Petsansuk ChotBangsaen (17)
ONE172 Takeru vs Rodtang PC 16 12 24 (69)