กลับมายืนที่เดิม “ราฟฟี่” พร้อมรับน้อง “ตะเภาแก้ว” แจ้งเกิดใหม่ในวัย 31 ปี ศึก ONE ลุมพินี 12
“ราฟฟี่” มวยดังแห่งลุมพินีกลับมาให้แฟนมวยหายคิดถึง พร้อมงัดความเก๋าท้าชนพลังเข่ามวยหนุ่มฟอร์มสด “ตะเภาแก้ว” ในศึก ONE ลุมพินี 12
หากกล่าวถึงนักมวยไทยชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “ราฟฟี่ โบฮิค” อดีตเจ้าของเข็มขัดแชมป์มวยไทยลุมพินี วัย 31 ปี จากฝรั่งเศส โดยหลังจากหายหน้าไปกว่า 2 ปี เขาเตรียมคืนเวทีที่สร้างชื่ออีกครั้งในศึกใหญ่ ONE ลุมพินี 12 ดวลกับ “ตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน” ขุนเข่ารุ่นน้อง วัย 20 ปี จากพัทลุง ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135 – 145 ป.)
“ราฟฟี่” ถือเป็นนักมวยที่มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวง เริ่มศึกษามวยไทยผ่านทางวิดีโอตอนอายุ 15 ปี พออายุ 17 ปี เขาลงทุนขับมอเตอร์ไซด์ข้ามเมืองเพื่อไปซ้อมมวยไทยทุกวัน และตัดสินใจจากแผ่นดินแม่มาอยู่เมืองไทยเพื่อฝึกวิชามวยไทยต้นตำรับเมื่ออายุได้ 21 ปี โดยไปฝังตัวฝึกซ้อมกับค่ายสิงห์ป่าตอง ค่ายดังแห่งเกาะภูเก็ตที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลุกปั้นมวยไทยชาวต่างชาติฝีมือดีมากหน้าหลายตา จน “ราฟฟี่” สร้างชื่อเป็นที่รู้จักไปทั่วแวดวงมวยไทย
ตลอดกว่า 7 ปีครึ่งที่อยู่เมืองไทย “ราฟฟี่” ฝากผลงานไว้ในการแข่งขันเกือบ 100 ไฟต์ โดยเคยประมือกับนักมวยไทยชื่อดังมามากมาย เช่น ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์, แสงมณี พีเค.แสนชัยมวยไทย, ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ และ แรมโบ้ ม.รัตนบัณฑิต (เพชร ปตอ.) เป็นต้น
แต่ไฟต์ที่ประทับใจ “ราฟฟี่” มากที่สุดคงไม่พ้นนัดชิงแชมป์มวยไทยเวทีลุมพินี รุ่น 147 ป. ที่เขากระชากเข็มขัดมาจาก “พงษ์ศิริ พีเค.แสนชัยยิมไทย” และหลังจากนั้นยังสร้างสถิติเป็นกำปั้นต่างชาติที่สามารถป้องกันตำแหน่งได้ยาวนานถึง 4 สมัยด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด ประกอบกับมีลูกน้อยลืมตาดูโลก “ราฟฟี่” จึงตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเกิด ทำให้ต้องห่างจากการแข่งขันไปกว่า 2 ปี แต่เขายังฟิตซ้อมร่างกายให้พร้อมกลับคืนเวทีอยู่เสมอ
“ตั้งแต่เจอโควิด ผมก็กลับบ้านที่ฝรั่งเศสไปทำงานเป็นเทรนเนอร์สอนมวยไทยครับ ตอนนั้นผมยังอยากชกมวยอยู่ แต่ผมต้องเริ่มเก็บเงินมากขึ้นเพราะได้เป็นคุณพ่อแล้ว ทำให้ต้องคิดถึงลูกก่อนค่อยนึกถึงเรื่องชกมวยครับ ก่อนหน้านี้เพิ่งได้เคาะสนิมไปแค่ไฟต์เดียว แล้วก็ได้มาชกที่ ONE ลุมพินี เลยครับ”
เมื่อได้มาเจอนักมวยหนุ่ม “ตะเภาแก้ว” ที่อายุน้อยกว่า 11 ปี “ราฟฟี่” อาจดูเสียเปรียบเรื่องความสด แต่มวย 3 ยก สวมนวมเล็กชกกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยกลับมาครั้งนี้ เขาก็พร้อมจัดอาวุธครบชุดมาโชว์ให้แฟนมวยได้ชมอย่างจุใจ
“ในมุมมองของผม ตะเภาแก้ว เป็นมวยที่เก่งและฉลาดครับ แต่ ผมยังเชื่อว่าตัวเองจะสู้กับน้องเขาได้แบบไม่มีปัญหา นี่เป็นการชกแบบ 3 ยก ทำให้ไม่มีโอกาสกอดกันมากนัก อาวุธของผมมีทั้งหมัด เตะ และศอก ทุกอย่างที่เป็นอาวุธประจำตัวผม ทุกคนจะได้เห็นแน่นอน เขาเสริมหมัดมาสู้ ผมก็ต้องระวังให้ดีครับ”
แน่นอนว่าการได้ลงแข่งในศึก ONE ลุมพินี เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้พิสูจน์ฝีมือต่อหน้าแฟนกีฬาทั่วโลกผ่านการถ่ายทอดสดสู่ 180 ประเทศทั่วโลก ซึ่งก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่หวังว่าจะได้เข้าใกล้หมุดหมายสำคัญของชีวิตการเป็นนักมวย นั่นคือการครองเข็มขัดแชมป์โลก ONE สักครั้งในชีวิต
มวยดังจากแดนน้ำหอมจึงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะลุยสุดฝีมือในไฟต์แรกใน ONE ลุมพินี ให้เป็นที่ประทับใจเพื่อแจ้งเกิดใหม่อีกครั้งในถิ่นเก่าที่คุ้นเคย
“ไฟต์นี้ผมกลับมามีความตั้งใจมากครับ วันศุกร์ที่ 7 เม.ย.นี้ ผมพร้อมขึ้นเวทีชกแบบเต็มที่แล้ว ผมคิดถึงเวทีลุมพินี คิดถึงมวยไทย สู้เต็มที่ไม่มีถอย ถึงผมจะหายหน้าไปนานแต่ไม่มีผลต่อฟอร์มการชกแน่นอนครับ ฝากถึง ตะเภาแก้ว เตรียมเจอกันบนเวทีได้เลย เดี๋ยวรู้กัน”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 12 วันศุกร์ที่ 7 เมษายนนี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมทาง
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ)
- Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ)