นักมวยยุคใหม่ “หนุ่มสุรินทร์” ใช้สื่อโซเชียลสร้างตัวตนเผยแพร่มวยไทย
“หนุ่มสุรินทร์” ต้นแบบนักชกยุคใหม่ นอกจากทำผลงานบนเวทีให้ดี ต้องขยันเปิดโอกาสแสดงตัวตนบนโลกออนไลน์ สร้างภาพน่าจดจำด้วยการเผยแพร่วิชามวยไทยจนมีผู้ติดตามไอจีทะลุหลักแสน
“หนุ่มสุรินทร์ ช.เกตุวีณา” มวยขวาบู๊ดุดัน วัย 27 ปี จากศรีสะเกษ ฝากผลงานโดดเด่นในศึก ONE ลุมพินี เก็บชัยไปได้ 2 ไฟต์ติดต่อกัน เตรียมกลับมาสานต่อความสำเร็จในศึก ONE ลุมพินี 23 วันศุกร์ที่ 30 มิ.ย.66 ดวลพลังภาคสามคนบ้านเดียวกัน “โชคดี แม็กจันดี” มวยใจสู้เตะขาหนัก วัย 25 ปี ในกติกามวยไทย พิกัดแคตช์เวต (116 ป.)
นอกจากผลงานน่าจดจำบนเวที “หนุ่มสุรินทร์” ยังมีบทบาทนอกสังเวียนที่น่าสนใจอีกเพียบ ทั้งเป็นการทำหน้าที่โค้ชสอนมวยให้กับนักเรียนรุ่นใหม่ การรู้จักใช้สื่อโชเซียลให้เกิดประโยชน์เปิดรับโอกาสใหม่มากมาย รวมถึงมีแผนการใช้ชีวิตที่ยึดมั่นในความไม่ประมาท ถือเป็นอีกหนึ่งนักมวยต้นแบบที่น่าสนใจ เราขออาสาพาไปทำความรู้จักเขาให้มากขึ้นกัน
#“หนุ่มสุรินทร์” ที่ไม่ได้เกิดที่สุรินทร์
“หนุ่มสุรินทร์ ช.เกตุวีณา” หรือชื่อจริง “ยุทธนา ตะเคียนรัมย์” เกิดที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ครอบครัวมีอาชีพทำนาฐานะปานกลาง อายุ 9 ขวบเริ่มชกมวย จากการชักชวนของคุณลุงที่ลงทุนซ้อมให้ด้วยตัวเอง ไฟต์แรกในชีวิตได้ค่าตัว 120 บาท จนกระทั่งอายุ 14 ปี ได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ ในโควตาของนักกีฬา ซึ่งหลังจากได้ชกต่อเนื่องทำให้ยิ่งรู้สึกตกหลุมรักในกีฬามวยไทยเข้าไปทุกที
ส่วนที่มีของชื่อ “หนุ่มสุรินทร์” มาจากตอนที่ขึ้นมาเรียนที่กรุงเทพฯ อาจารย์เห็นว่าสามารถพูดภาษาเขมรได้ จึงนึกว่าเจ้าตัวเป็นคน จ.สุรินทร์ เลยตั้งชื่อให้ว่า “หนุ่มสุรินทร์” โดยตอนแรกเจ้าตัวมีความคิดจะเปลี่ยนชื่อเป็น “หนุ่มศรีสะเกษ” ด้วย แต่ตอนนั้นใช้ชื่อ “หนุ่มสุรินทร์” ขึ้นชกชนะบ่อยครั้งก็เลยยึดใช้ชื่อเดิมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งถ้ามีโอกาสได้ขึ้นเวทีใหญ่จะได้รับค่าตัวอยู่ที่ 5,000 – 6,000 บาท
#นักกีฬาทีมชาติ – ทหาร – โค้ชมวย
สมัยเรียนในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาลัยเขตสุโขทัย คณะศึกษาศาสตร์ สาขาพละศึกษา “หนุ่มสุรินทร์” เคยผ่านการคัดเลือกได้เป็นตัวแทนของทีมชาติไทยไปลุยศึก “มวยไทยชิงชนะเลิศมหาวิทยาลัยโลก” ในปี 2561 ซึ่งเจ้าตัวทำผลงานดีคว้าเหรียญทองมาคล้องคอได้ด้วย
ในขณะที่ช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันนั้น “หนุ่มสุรินทร์” ยังได้ตัดสินใจสมัครไปเป็นทหารเป็นระยะเวลา 1 ปี เคยฝากผลงานช่วยต้นสังกัดทั้งในส่วนของทหารบกและทหารอากาศคว้าแชมป์กีฬาภายในมาครองได้ แต่สุดท้ายติดปัญหาไม่สามารถทำเรื่องติดยศได้ จึงตัดสินใจคืนสู่เหย้าผันตัวมาเป็นโค้ชมวยแทน
หลังเรียนจบ “หนุ่มสุรินทร์” เลือกมาสมัครเป็นครูสอนมวยที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายอยากปั้นเด็กให้มีอนาคตติดทีมชาติให้ได้ ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องของเอกสาร, ความเป็นอยู่, การซ้อมตั้งแต่เช้ายันค่ำ ฯลฯ ทำให้ต้องจัดสรรแบ่งเวลาฝึกสอนเด็กกับการซ้อมมวยของตัวเองให้ดี
#ONE ลุมพินี บันไดสู่ความสำเร็จ
ก่อนได้มาโชว์ผลงานในศึก ONE ลุมพินี “หนุ่มสุรินทร์” ผ่านการชกมามากกว่า 300 ไฟต์ เคยได้ค่าตัวสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 35,000 บาท ตอนนี้อาชีพนักมวยของเขากำลังเติบโตไปอีกขั้น เป้าหมายในวัย 27 ปี คืออยากไปแสดงฝีมือในศึก วัน แชมเปียนชิพ ให้ได้
“ผมติดตามมวยศึก ONE มาตลอดเมื่อมีนักชกไทยขึ้นชกครับ พอได้มาสัมผัสรายการนี้ด้วยตัวเองรู้สึกดีมากครับ ผมพอใจผลงานของตัวเองมากเพราะเจอคู่ต่อสู่ที่่เก่งกว่าและสามารถเอาชนะมาได้ทั้งหมด รายการนี้ทำให้ผมก้าวขึ้นมาอีกระดับกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากขึ้น โดยเฉพาะแฟนขาวต่างชาติมีเยอะขึ้นมากครับ”
“สัปดาห์ก่อนผมได้เห็น ทองพูน (พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม) ได้รับโอกาสเซ็นสัญญาไปลุยศึก ONE ทำให้ผมมีความคิดอยากได้รับสิทธิ์นั้นบ้างครับ ตอนแรกผมไม่คิดว่าเขาจะเปิดโอกาสให้รุ่นเล็กด้วย แต่พอเห็น ทองพูน ได้ผมผมก็อยากไปถึงตรงจุดนั้นให้ได้บ้างเหมือนกันครับ ซึ่งถ้ามีโอกาสได้ไปลุยในศึกที่ใหญ่ขึ้น ผมต้องปรับปรุงออกอาวุธให้มีความหลากหลายกว่าเดิมครับ”
#นักมวยสายโซเชียล
ในยุคที่ทุกคนมีมือถืออยู่ในมือเราสามารถเป็นสื่อได้ไม่ยาก “หนุ่มสุรินทร์” ใช้ประโยชน์จากจุดนี้เผยภาพลักษณ์ของตัวเองผ่านทางโลกออนไลน์ โดยเฉพาะทางอินสตาแกรม (@yutthana_tkr) ที่มียอดผู้ติดตามทะลุหนึ่งแสนราย กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้ใกล้ชิดกับแฟนคลับมากขึ้น รวมถึงเปิดโอกาสมีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย
“ผมคิดว่าเรื่องฝีมือนักมวยของไทยเราเก่งอยู่แล้วครับ แต่ผมอยากแนะนำให้ลองแบ่งเวลามาศึกษาเรื่องการตัดต่อคลิปและลงคลิปเพื่อโปรโมตตัวเองเอาไว้บ้าง ช่วงแรกอาจมีติดขัดไม่มีคนดูไม่มีคนติดตาม แต่สมัยนี้โลกโซเชียลเร็วมากทำให้ผู้คนเห็นได้ง่าย อยากให้ลองเริ่มทำกันด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากครับ”
“ในส่วนคลิปของผมที่ลงในสื่อโซเชียล ก็มีคิดคอนเซ็ปต์ ออกแบบมุมภาพ ตัดต่อเองทุกอย่าง จุดขายของผมคือทุกคนจะได้เห็นการซ้อมที่แปลกใหม่ ซึ่งส่วนมากจะเป็นแฟนมวยต่างชาติที่ให้ความสนใจเยอะครับ โดยส่วนตัวผมชอบเรื่องศิลปะการต่อสู้ทุกประเภท พอเอามาประยุกต์รวมกันทำให้เกิดช็อตที่แปลกใหม่น่าตื่นตาขึ้นมาครับ”
สำหรับการเจอ “โชคดี” ที่เคยผลัดกันชนะคะแนนมาคนละครั้งในวันศุกร์นี้ “หนุ่มสุรินทร์” รับประกันว่าแฟนมวยจะได้ชมเกมเปิดแลกที่สนุกดุเดือดเหมือนเดิม หวังลุ้นปิดเกมเร็ว พร้อมแอบหวังให้ประตูสู่ ONE เปิดอ้าแขนรับเพื่อมีอนาคตที่ดีกว่าเดิม
“ผมคิดว่าไฟต์นี้เราสองคนคงเปิดเกมแลกกันสนุกเหมือนเดิมครับ แต่ผมต้องระมัดระวังมากขึ้นห้ามประมาทแม้แต่วินาทีเดียว ไฟต์นี้ผมอยากพยายามเอาชนะน็อกให้ได้เร็วที่สุดครับ เพราะ โชคดี เป็นมวยที่อึดมาก ถ้ารูปเกมยืดเยื้อผมคิดว่าจะทำให้เจ็บตัวมากแน่ ถ้ามีโอกาสปิดเกมเร็วได้ต้องทำให้สำเร็จครับ”
“ตอนนี้เป้าหมายของผมคืออยากไปชกศึก ONE ให้ได้ครับ เพราะต้องยอมรับว่าชกแบบ 5 ยกเรื่องเงินที่ได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายครับ ตอนนี้ผมเริ่มอายุมากอยากเก็บเงินเอาไว้สำหรับวันข้างหน้า การใช้ชีวิตของเราในอนาคตต้องไม่ลำบากครับ ผมไม่อยากเป็นเหมือนนักมวยบางคนในรุ่นก่อน ถ้าร่างกายสุขภาพไม่ดีและยังไม่มีเงินเก็บอีกคงไม่ค่อยดีครับ”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 23 วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายนนี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR และรับชมการถ่ายทอดสด คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมทาง
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.,
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ)
- Facebook & YouTube ONE (ทุกคู่)