รู้จัก “ไอแซค อารายา” นักชกมือพระกาฬผู้ขอหักด่าน “เสกสรร” ในศึก ONE ลุมพินี 29
ทำความรู้จัก “ไอแซค อารายา” จอมบู๊มือพระกาฬชาวสเปน วัย 36 ปี ที่จะขอมาลองดี ประชันฝีมือกับนักสู้ขวัญใจมหาชน “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง ในศึก ONE ลุมพินี 29
ไอแซค อารายา เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2529 ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่เกาะเตเนริเฟ ในแคว้นกานาเรียส เมื่ออายุได้ 5 ขวบ ชีวิตในวัยเด็กของ “ไอแซค” ไม่ต่างจากเด็กทั่วไปในประเทศสเปนที่นิยมชมชอบการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างแรก จนกระทั่งเมื่ออายุ 17 ปี จึงเริ่มหันมาฝึกคิกบ็อกซิ่ง และกลายเป็นจุดเริ่มต้นสู่การหลงเสน่ห์ของกีฬาการต่อสู้ตั้งแต่นั้นมา
ในปี 2547 “ไอแซค” ได้เจอจุดเปลี่ยนสำคัญ หลังบังเอิญเห็นการแข่งขันมวยไทย และรู้สึกตกหลุมรักกีฬาชนิดนี้ทันที จนทำให้เช้าวันต่อมา จึงตัดสินใจสมัครเรียนมวยไทย ที่ค่าย Shooton ซึ่งถูกยกให้เป็นค่ายมวยไทยที่ดีที่สุดบนเกาะเตเนริเฟทันที โดยหลังฝึกซ้อมไปได้ 3 ปี “ไอแซค” ก็ได้รับโอกาสขึ้นสังเวียนไฟต์แรกในปี 2550 ในกติกามวยไทยสมัครเล่น และสามารถเก็บชัยชนะไปได้ด้วยคะแนนเอกฉันท์ หลังประเดิมไฟต์แรกด้วยชัยชนะ “ไอแซค” ได้ตัดสินใจวางเป้าหมายที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นนักมวยไทยอาชีพให้ได้
จุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ “ไอแซค” ก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดนักมวยไทยชั้นนำของประเทศสเปน คือการตัดสินใจเดินทางมาฝึกซ้อมมวยไทยอย่างจริงจังที่ประเทศไทย ในปี 2554 โดยเลือกซ้อมที่ค่ายมวยศักดิ์ชัยโชติ และได้โอกาสร่วมซ้อมกับสองสุดยอดนักมวยไทยรุ่นเด็กในขณะนั้น อย่าง “ลำน้ำมูลเล็ก อ.อัจฉริยะ” และ “ซุปเปอร์แบงค์ ศักดิ์ชัยโชติ” โดยที่ปัจจุบันทั้งสองคนได้เติบโตขึ้นมาเป็นดาวดังแห่งวงการมวยไทยไปแล้ว
นับตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา “ไอแซค” ลงทุนเดินทางจากประเทศสเปน เพื่อมาฝึกซ้อมมวยไทย ที่ประเทศไทย โดยใช้ฝึกซ้อมเป็นเวลา 2-3 เดือนในแต่ละปี และเคยผ่านประสบการณ์ขึ้นสังเวียนระดับอาชีพในเมืองไทย ทั้งหมด 10 ไฟต์ ซึ่งรวมถึงการประชันฝีมือกับดาวดังอย่าง “หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์” และ “วีรชัย มีนะโยธิน” มาแล้ว จนทำให้กระดูกมวยของเขาเริ่มแข็งกล้าขึ้นเรื่อย ๆ
กระทั่งในปี 2559 “ไอแซค” ประสบความสำเร็จขั้นแรกในชีวิตด้วยการคว้าแชมป์มวยไทย WMC ของประเทศสเปนมาครอง ซึ่งนั่นเป็นเพียงปฐมบทของความยิ่งใหญ่ เพราะหลังจากนั้น “ไอแซค” เดินหน้ากวาดเข็มขัดแชมป์มาครองอีกมากมายหลายรายการ เริ่มจากแชมป์มวยไทย WBC ทวีปยุโรป ในปี 2562, แชมป์ทัวร์นาเมนต์ CFN ปี 2562, แชมป์ WBC อินเตอร์คอนติเนนทัล ปี 2564 และล่าสุดคือแชมป์โลก WBC ปี 2565
ผลจากความสำเร็จในระดับสูง ทำให้ในช่วงปี 2564 “ไอแซค” เคยได้รับการทาบทามจาก ONE ในฐานะหนึ่งในผู้ท้าชิงบัลลังก์มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) คนต่อไปของ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายเขาพลาดโอกาสนั้นไป แต่ “ไอแซค” ก็ไม่ท้อและเฝ้ารอโอกาสที่จะได้พิสูจน์ตัวเองในรายการ ONE มาโดยตลอด
“ในปี 2564 ผมเคยได้รับการติดต่อจากทีมงาน ONE ว่าผมเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับการชิงแชมป์โลกมวยไทยจาก “รถถัง” แต่สุดท้ายผมไม่ได้รับเลือก มันน่าเสียดายมาก ๆ ไฟต์นี้จึงสำคัญสำหรับผมมาก ผมต้องการฝ่าด่าน “เสกสรร” ไปให้ได้ เพื่อคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครอง แล้วผมจะเข้าไปลุยต่อในรุ่นฟลายเวตครับ”
ด้วยฝีมือระดับพระกาฬและผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาแล้วในหลายสังเวียน ทำให้ “ไอแซค” ได้รับโอกาสให้เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 29 วันศุกร์ ที่ 18 ส.ค.นี้ ในฐานะคู่เอกนำรายการ ซึ่งคู่ต่อสู้ที่เขาจะต้องเจอก็คือนักชกขวัญใจมหาชน “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง ผู้ถือครองสถิติไร้พ่าย 4 ไฟต์ติดต่อกัน โดยจะแข่งขันกันในกติกามวยไทย พิกัดแคตช์เวต 140 ป.
สำหรับการเตรียมความพร้อมในไฟต์นี้ “ไอแซค” เลือกเดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อเก็บตัวฟิตซ้อมที่ค่ายมวยไฟแรงอย่าง ค่ายส.เดชะพันธ์ ที่อุดมไปด้วยนักมวยชาวไทย และชาวต่างชาติฝีมือดีจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้ความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจของ “ไอแซค” ทะลุเกินร้อยไปแล้ว พร้อมขึ้นสังเวียนเพื่อปะทะเดือดกับ “เสกสรร” ให้สมกับเป็นคู่เอกของรายการ
“ไฟต์นี้ผมเก็บตัวซ้อมที่ค่ายส.เดชะพันธ์ เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ผมซ้อมหนักมาก และตอนนี้ผมก็พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ส่วน “เสกสรร” เขาเป็นตำนานตัวจริงนะ ผมให้ความเคารพเขามาก แต่บนเวที ผมจะไม่เคารพเขาแน่นอน เพราะเขาจะกลายเป็นศัตรูของผม แม้เขาจะมีจุดแข็งเรื่องความอึดถึกทนที่ไม่เป็นสองรองใคร แต่จุดอ่อนของเขาก็มี นั่นคือการออกอาวุธที่ดูสะเปะสะปะมากเกินไป”
“ผมขอรับประกันเลยว่าไฟต์นี้มันจะเดือดระห่ำไฟลุกท่วมเวทีแน่ ๆ เพราะเราสองคนต่างเป็นมวยบู๊เหมือนกัน เมื่อจอมบู๊สองคนอยู่บนเวทีเดียวกัน มันก็ไม่ต่างอะไรกับวัวกระทิง ที่มีแต่จะเดินหน้าอัดใส่กันจนกว่าจะล้มกันไปข้างหนึ่งครับ”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 29 วันศุกร์ที่ 18 ส.ค.นี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมทาง
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- Facebook ทุกคู่ (บางประเทศ)
- YouTube ONE ทุกคู่ (บางประเทศ)
- Watch.ONEFC.com ทุกคู่ (บางประเทศ)