จับเข่าคุย “วิกตอเรีย ลี” เปิดอกโต้คอมเมนต์ ความสำเร็จที่ได้มาไม่ใช่เรื่องฟลุก
สาวน้อยมหัศจรรย์ “The Prodigy” วิกตอเรีย ลี เปิดอกให้สัมภาษณ์โต้คอมเมนต์ ว่าความสำเร็จในฐานะนักสู้หญิงอายุน้อยที่สุดของ ONE ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ
นักสู้สาวน้อยวัย 17 ปี สร้างความตื่นตะลึงเมื่อเธอโชว์ฟอร์มซับมิชชัน “Thunderstorm” สุนิษา ศรีแสน นักสู้สาวชาวไทยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วิกตอเรีย กำลังจะได้กลับลงสังเวียนเป็นครั้งที่สองเพื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้รอบจัด “Little Sprouts” หวัง ลู ปิง ในศึก ONE: BATTLEGROUND ซึ่งจะถ่ายทอดสดจากสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ในวันศุกร์ที่ 30 ก.ค.นี้
การกลับมาครั้งนี้ วิกตอเรีย ยังคงต้องแบกรับความกดดันจากการความสำเร็จของพี่สาวและพี่ชาย แชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวตหญิง “Unstoppable” แองเจลา ลี และแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวต “The Warrior” คริสเตียน ลี โดยหลายคนมองว่าเธออาศัยเงาของพี่ ๆ เธอจึงอยากพิสูจน์ตัวเองว่าเธอที่ผ่านมาเธอถูกฝึกให้เป็นนักสู้มืออาชีพอย่างแท้จริง เราลองไปดูบทสัมภาษณ์พิเศษนี้เพื่อทำความรู้จักตัวตนและความคิดของขุนศึกตระกูลลีหมายเลข 3 คนนี้ให้มากยิ่งขึ้น
https://www.instagram.com/p/CJXtuD1FREh/
วิกตอเรีย – คริสเตียน
ONE: นี่เป็นช่วงปิดเทอมสำหรับนักเรียน ม.ปลายส่วนใหญ่ แต่ วิกตอเรีย กลับกำลังฟิตซ้อมสำหรับไฟต์สำคัญนี้ คุณจัดตารางเวลาตัวเองยังไงบ้าง?
วิกตอเรีย: หนูตื่น 07.00 น. เหมือนตอนไปโรงเรียน แต่มาที่โรงยิมแทน จากนั้นฝึกถึง 10:30 น. กลับบ้านไปกินข้าวเที่ยง พักผ่อน เล่นกับหมา แล้วก็กลับมาที่ยิมเพื่อทำการฝึกฝนรอบเย็นค่ะ
ONE: ย้อนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนขึ้นสังเวียน ONE ครั้งแรกในระดับอาชีพ รู้สึกอย่างไรกับการแข่งขันครั้งนั้น
วิกตอเรีย: จริง ๆ หนูค่อนข้างคุ้นเคยกับมัน เพราะที่ผ่านมาหนูเห็นทุกขั้นตอนในตอนพี่ชายกับพี่สาวลงแข่งมาแล้ว เลยรู้ดีว่าจะมีการทำอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง แต่พอถึงตาตัวเอง มานั่งบนเก้าอี้ ตอบคำถาม และถ่ายภาพ มันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่โดยรวมก็สนุกดีค่ะ หนูหวังว่าคนอื่น ๆ ในครอบครัวจะมาเชียร์ได้ แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องโควิดในสิงคโปร์นั้นเข้มงวดมาก โชคยังดีที่มีพ่อกับแม่อยู่ด้วย
ONE: อะไรคือบทเรียนสำคัญที่สุดที่ได้เรียนรู้จากการต่อสู้กับ สุนิษา ศรีแสน?
วิกตอเรีย: หนูได้ประสบการณ์หลายอย่างจากการแข่งขันครั้งนั้น ทำให้มีความพร้อมสำหรับไฟต์นี้มากขึ้น เพราะรู้แล้วว่าสิ่งต่าง ๆ จะเป็นไปในทิศทางไหน ครั้งที่แล้วต้องอาศัยโค้ชให้อธิบายเรื่องต่าง ๆ แต่ตอนนี้หนูมีประสบการณ์ รวมถึงความรู้ที่ได้จากการแข่ง และมันจะช่วยได้มากสำหรับการเก็บตัวฝึกซ้อมครั้งนี้
ONE: คุณรู้อะไรเกี่ยวกับคู่แข่งรายต่อไปอย่าง หวัง ลู ปิง บ้าง?
วิกตอเรีย: หนูคิดว่าเธอมีประสบการณ์มากกว่า สุนิษา เธอนักสู้ที่เก่งรอบด้านและพลังเยอะ คิดว่าสไตล์ของเราเข้ากันได้ดี จุดแข็งที่สุดของเธอคือทักษะยืนสู้ เธอดูเหมือนนักกีฬายืนสู้ที่เน้นพลังในการโจมตีที่กะเอาถึงน็อก แต่หนูเองก็ฝึกทักษะยืนสู้ การจับล็อก มวยปล้ำ และทักษะ MMA ทั้งหมด คิดว่าวิธีการผสมผสานทักษะต่าง ๆ ในการต่อสู้ที่หนูมีอยู่จะรับมือเธอได้
ONE: หวัง บอกว่าทักษะยืนสู้ของเธอดีกว่า คุณอยากจะโต้ตอบอะไรไหม?
วิกตอเรีย: หนูคิดว่านักสู้ทุกคนต้องมีความมั่นใจในตัวเอง และสำหรับหนูมันไม่สำคัญหรอกว่าฝ่ายตรงข้ามจะพูดอะไร สิ่งสำคัญคือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในกรงเท่านั้นค่ะ หนูก็แค่โฟกัสกับตัวเอง ไม่ใช่กับสิ่งที่เกิดขึ้นจากฝั่งตรงข้าม จากนั้นเราค่อยมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราเจอกันในกรง
ONE: คุณมีข้อได้เปรียบในเรื่องความสูงและช่วงตัว คุณจะใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบนี้ยังไงบ้าง?
วิกตอเรีย: หนูว่าน่าจะใช้ความสูงชิงความได้เปรียบในการคุมระยะร่วมกับการโจมตีท่ายืนและเทกดาวน์ แต่ถึงเธอจะเป็นนักสู้ที่เตี้ยกว่าและช่วงสั้นกว่า หนูก็ไม่กล้าประมาท เพราะเธอสามารถใช้ฟุตเวิร์กชดเชยความเสียเปรียบเรื่องระยะได้ หนูต้องระมัดระวังให้ดีและไม่ประเมินเธอต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
ONE: คุณได้รับคำแนะนำอะไรจากพี่สาวพี่ชาย แองเจลา และ คริสเตียน บ้างไหม?
วิกตอเรีย: ก็เหมือนกับไฟต์ที่แล้วค่ะ คู่ต่อสู้มีประสบการณ์มากกว่า แผนการชกคงไม่ต่างจากกัน คือโฟกัสและเชื่อมั่นในการฝึกซ้อมของเรา มั่นใจในแผนการสู้ และทำให้สำเร็จตามแผน
ONE: มีคนไม่เชื่อว่าคุณเก่งจริงอย่างที่อวยกัน คุณคิดยังไง?
วิกตอเรีย: ทุกคนในครอบครัวสนับสนุนและทำทุกอย่างเพื่อให้หนูประสบความสำเร็จ และพวกเขาแนะนำว่าอย่าไปสนใจคอมเมนต์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคำติเตียนหรือแม้กระทั่งคำชม ทุกคนที่อยู่นอกสังเวียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คนที่สำคัญที่สุดคือครอบครัว และนั่นคือสิ่งที่หนูทำ หนูพยายามเทสมาธิไปที่การแข่ง และไม่สนใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายนอก
ONE: การรักษาสถิติไร้พ่ายสำคัญกับคุณแค่ไหน?
วิกตอเรีย: ในการแข่งขันแต่ละนัด หนูจะสู้เต็มที่ให้เหมือนกับเป็นศึกที่สำคัญที่สุดในชีวิต เป้าหมายของหนูคือการเป็นแชมป์โลก ONE ที่เก่งที่สุด และนั่นคือสิ่งที่หนูกำลังทำอยู่ตอนนี้
ONE: อยากให้ไฟต์นี้จบลงยังไง?
วิกตอเรีย: อยากให้จบในยกแรกค่ะ แนวทางในการฝึกที่ยูไนเต็ด MMA และวิธีที่พ่อสอน คือการหาทางเผด็จศึกคู่ต่อสู้ให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม เพราะนี่คือการต่อสู้กัน ต้องจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ
อ่านเพิ่มเติม: