โบนัสเปลี่ยนชีวิต “ใจสิงห์” จากกำปั้นอับโชคสู่การเกิดใหม่ใน ONE ลุมพินี
“ใจสิงห์” เปิดใจเหมือนชีวิตเกิดใหม่ หลังผ่านไปสองไฟต์ได้รับโบนัสก้อนโตจาก ONE ลุมพินี หวังตัวเองมีวาสนาดีพอเข้าตา “บิ๊กบอสชาตรี” เปิดทางให้ไปลุย วัน แชมเปียนชิพ
ใจสิงห์ ศิษย์นายกพันศักดิ์ นักมวยใจสู้ วัย 27 ปี จากเมืองตาก เปิดตัวร้อนแรงเก็บชัยสองไฟต์ติดต่อกัน พร้อมรับเงินรางวัลโบนัสไปแล้วรวม 7 แสนบาท กลับมาโชว์ฝีมือรอบสามในศึก ONE ลุมพินี 24 วันที่ 7 ก.ค.66 เตรียมรับมือน้องใหม่อันตราย “อาเมียร์ อับดุลมุสลิมอฟ” วัย 20 ปี จากรัสเซีย เจอกันในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125 – 135 ป.)
“ใจสิงห์” เริ่มชกมวยตอนอายุ 11 ขวบ หลังมีอาจารย์มวยคนใหม่มาเปิดค่ายมวยที่โรงเรียนเด่นไม้ซุงวิทยาคม จังหวัดตาก ที่เขากำลังศึกษาอยู่และได้ฝึกมวยไทยเป็นครั้งแรกที่นี่ จากนั้น เขาก็ตระเวนชกตามเวทีมวยที่จัดในละแวกบ้านจนกระทั่งเริ่มติดใจการเป็นนักมวย เพราะเมื่อได้รับชัยชนะก็จะมีเงินซื้อขนมและมีรายได้เป็นของตัวเอง
จากนั้นเมื่ออายุ 16 ปี ได้ย้ายไปสังกัดค่ายมวย ท.พราน 49 และมีโอกาสได้ขึ้นมากชกที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก สองปีต่อมา “ใจสิงห์” มีโอกาสโยกย้ายไปอยู่ค่ายมวย ต.บ้านตาล จ.เชียงใหม่ และได้ขึ้นมาชกที่กรุงเทพฯ อยู่เรื่อย ๆ แต่แม้ว่าจะเพียรพยายามเท่าไหร่แต่ยังไม่สามารถสร้างชื่อได้สักที
จนกระทั่งอายุ 24 ปี “ใจสิงห์” ได้รับคัดเลือกเข้ารับราชการทหาร ซึ่งเจ้าตัวหวังยึดอาชีพนี้สร้างความมั่นคงควบคู่ไปกับการชกมวย โดยใช้เวลาว่างหลังเลิกงานซ้อมมวยอยู่ที่โรงเรียนกีฬาพิษณุโลกก่อนที่ในปัจจุบันจะเปลี่ยนมาใช้สีเสื้อ “ศิษย์นายกพันศักดิ์” ตามผู้ให้สนับสนุน และได้โอกาสขึ้นมาโชว์ผลงานในศึก ONE ลุมพินี และสร้างชื่อเป็นที่จดจำชั่วข้ามคืน
ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 20 “ใจสิงห์” โชว์ทีเด็ดโดยใช้เวลาเพียง 34 วินาที ของยกแรก เตะก้านคอ “จาง จินฮู” คู่ชกจากจีน หลับกลางอากาศ ทำให้เจ้าตัวมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการได้มาชกในรายการนี้ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปชนิดพลิกฝ่ามือ สร้างความภาคภูมิใจให้ครอบครัว
“หลังได้มาชกใน ONE ลุมพินี ไปสองไฟต์ ชีวิตของผมเปลี่ยนไปมากครับ เมื่อก่อนผมแทบไม่มีเงินเก็บ ต้องใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน แต่ตอนนี้ผมสามารถช่วยแบ่งเบาภาระให้ครอบครัวได้ จากที่เมื่อก่อนเวลาแม่โทรมาขอเงิน ผมไม่มีให้ก็แอบไปร้องไห้บ้าง มาถึงตอนนี้ถ้าแม่อยากได้อะไร ผมยังพอโอนแบ่งให้เอาไปซื้อได้ครับผม นอกจากนั้นยังมีคนรู้จักผมมากขึ้น ส่งผลดีต่อเนื่องไปถึงในงานราชการด้วยครับ”
ย้อนไปในปี 2563 “ใจสิงห์” พยายามไล่ตระเวนสอบนายสิบถึงห้าครั้งก่อนจะติดยศได้สมใจ ขณะที่ปัจจุบันได้ไต่เต้าขึ้นมาติดยศสิบโท รับราชการทหารประจำอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก ซึ่งช่วงแรกยังไม่มีใครรู้ว่าตนเป็นนักมวยด้วยซ้ำ แต่หลังผ่านการชกในศึก ONE ลุมพินี ไปสองไฟต์ ทำให้มีคนรู้จักมากขึ้นแบบทันตาเห็น
“ผมแบ่งแยกเวลางานราชการกับการซ้อมมวยออกจากกันอย่างชัดเจน ตอนเช้าผมตื่นตี 5 ออกมาวิ่ง พอถึงเวลา 8 โมงเช้าผมก็เข้าไปทำงานตามปกติ จากนั้นหลังเลิกงาน 4 โมงเย็นก็ไปซ้อมครับ ซึ่งหลังได้ไปชกในศึก ONE ลุมพินี ทำให้มีคนรู้จักผมมากขึ้น ล่าสุดทางค่ายทหารได้เชิญผมไปฝึกสอนเรื่องการป้องกันตัวให้ทหารอเมริกัน ซึ่งพวกเขาที่ชอบมวยไทยอยู่แล้วต่างพอใจในกิจกรรมนี้มาก ทหารบางนายบอกว่าถ้าว่างจะตามมาเชียร์ผมที่สนามในวันศุกร์นี้ด้วยครับ”
ไฟต์ต่อไป “ใจสิงห์” ยังเตรียมร่างกายมาสู้แบบเต็มร้อยเหมือนเดิม พร้อมศึกษาฟอร์มการต่อสู้ของ “อาเมียร์” มาเป็นอย่างดี หวังทำการชกออกมาให้ดีที่สุดและหากรวมกับผลงานสองไฟต์ที่ผ่านมา คิดว่าน่าจะมีดีพอไปเตะตาของบิ๊กบอส “ชาตรี” ได้บ้าง ซึ่งตนอยากมีโอกาสไปลุยในศึก วัน แชมเปียนชิพ เหมือนกับคนอื่นเช่นกัน
“สภาพร่างกายของผมตอนนี้พร้อมขึ้นชกมากครับ เพราะไฟต์ที่แล้วก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากด้วย จุดแข็งของ อาเมียร์ คือมีหมัดซ้ายที่แม่นยำและเข้าออกไว ทำให้ผมต้องฝึกในส่วนของสเต็ปขาให้เร็วขึ้น ต้องพยายามตามเขาให้ทันครับ ผมคิดว่าหากตัวเองมีบุญวาสนาก็อยากไปชกใน วัน แชมเปียนชิพ เหมือนกัน ถ้าไฟต์นี้ผมโชว์ผลงานดีเข้าตาเก็บชัยชนะได้ ฝากทางบิ๊กบอสชาตรีช่วยพิจารณาผมด้วยครับ”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 24 วันศุกร์ที่ 7 ก.ค.นี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ)
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand (ทุกคู่)
- YouTube ONE (ทุกคู่)
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.