“เจเน็ต” เล็งรวบเข็มขัด “เพชรจีจ้า” ทิ้งท้ายไฟต์อำลาสังเวียนลงเวทีแบบสวย ๆ
“JT” เจเน็ต ท็อดด์ ราชินีคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต (105 – 115 ป.) คนปัจจุบัน วัย 38 ปี ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกา พร้อมทุ่มสุดตัวในการทำหน้าที่ป้องกันบัลลังก์ครั้งแรก และเป็นไฟต์อำลาสังเวียนจบเส้นทางอาชีพนักสู้ของตัวเอง โดยเผชิญหน้ากับ “เดอะควีน” เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม นักสู้สาวแกร่งขวัญใจชาวไทย วัย 22 ปี เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต เฉพาะกาล เพื่อพิสูจน์ฝีมือหาราชินีตัวจริงในสายคิกบ็อกซิ่ง
โดยทั้งคู่ขึ้นป้ายเป็นคู่เอกในศึก ONE Fight Night 20 โปรแกรมสุดพิเศษรวมหญิงแกร่งแถวหน้าของ ONE เพื่อแสดงศักยภาพของพลังหญิงแห่งวงการต่อสู้ ฉลองวันสตรีสากล 8 มี.ค. ของทุกปี ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 9 มี.ค.นี้
สำหรับ “เจเน็ต” ถือเป็นมวยหญิงยอดอัจฉริยะแห่งยุค สามารถกระชากเข็มขัดคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต มาได้จากสาวแกร่งชาวไทย “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” เมื่อปี 2563 ก่อนข้ามสายไปล่าฝันในกติกามวยไทย และเคยไปถึงจุดสูงสุดคว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต เฉพาะกาล อย่างยิ่งใหญ่เมื่อปี 2565 ก่อนมาเสียตำแหน่งราชินีมวยไทยตัวจริงให้กับ “อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส” ในไฟต์ล่าสุด
ทำให้ถึงตอนนี้ “เจเน็ต” เหลือเพียงเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งให้ป้องกัน ซึ่งนอกจากต้องการพิสูจน์ความเป็นตัวแม่รวบเข็มขัดมาไว้ในกำมือให้ได้แล้ว เธอยังต้องการเก็บชัยชนะส่งท้ายเส้นทางอาชีพเพื่อตอกย้ำทุกคนว่าเธอคือนักสู้ระดับไอคอนอย่างแท้จริง ก่อนเตรียมทุ่มเทเวลากับครอบครัวมากขึ้นและใช้ชีวิตนอกสังเวียนอย่างมีความสุขต่อไป
อย่างไรก็ตาม “เจเน็ต” ยืนยันว่าจะไม่เอาเรื่องการขึ้นสังเวียนเป็นครั้งสุดท้ายมารบกวนจิตใจ โดยพร้อมมุ่งสมาธิไปยังไฟต์ที่กำลังรออยู่ตรงหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถโชว์ผลงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดออกมาได้
“ฉันทุ่มเทพลังทั้งหมดให้กับไฟต์นี้ บนเวทีฉันจะไม่คิดถึงเรื่องแขวนนวม แต่จะโฟกัสและให้ความสำคัญกับการชกเหนือสิ่งอื่นใด ฉันอยากปิดฉากอาชีพในตำแหน่งสูงสุด เป็นผู้หญิงคนแรกในรุ่นอะตอมเวตที่สามารถป้องกันตำแหน่งไว้ได้ และแสดงให้ทุกคนเห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขค่ะ”
ในฐานะที่เคยขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็น “ดับเบิลแชมป์” ครองความยิ่งใหญ่ทั้งในกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่งพร้อมกันมาแล้ว ทำให้ “เจเน็ต” ตระหนักดีว่าตอนนี้คือช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับการโบกมือลาอาชีพการต่อสู้ เพื่อไปตามล่าฝันในเส้นทางอื่นและได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัว
“ฉันตัดสินใจไปแล้วว่านี่คือไฟต์สุดท้ายในอาชีพ และเมื่อฉันตัดสินใจแล้วก็จะไม่เปลี่ยนแปลง ONE มอบโอกาสสุดยิ่งใหญ่ให้ฉันทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้มาก่อน ฉันได้รับอะไรหลายอย่างและประสบการณ์มากมายในช่วงเวลาสั้น ๆ รวมถึงพบเพื่อนแท้หลายคนที่จะคบหากันไปทั้งชีวิต แต่ตอนนี้ฉันพร้อมก้าวออกไปเจอสิ่งใหม่ ฉันเริ่มอายุมากขึ้น และอยากให้เวลากับครอบครัวมากขึ้นค่ะ”
ภารกิจสุดท้าย “เจเน็ต” ต้องเจองานยากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อคู่ต่อสู้คือ “เพชรจีจ้า” ที่แจ้งเกิดด้วยผลงานชนะทีเคโอคู่ชก 4 รายรวด ขณะที่ล่าสุดโชว์เหนือเอาชนะคะแนน “อนิสสา เม็กเซน” คว้าตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวตหญิง เฉพาะกาล มาได้ แต่ไม่ว่ายังไง “เจเน็ต” ก็พร้อมงัดลูกเก๋าออกมาเล่นงานคู่ชกรุ่นน้องให้อยู่มือ
“เพชรจีจ้า มีหมัดที่หนักและเชิงชกดีมาก ฉันไม่แปลกใจเลยที่เธอสู้กับ อนิสสา ได้ดีขนาดนั้น ฉันคิดว่าเธอวางแผนการต่อสู้มาดีจริง ๆ เธอเก่งแบบรอบด้าน จุดแข็งของเธอคือมวยสากล และการโยกหลบอาวุธ ซึ่งเธอแสดงให้เห็นชัดเจนทุกครั้งที่ขึ้นชกใน ONE ส่วนจุดอ่อนของเธอ อยู่ที่วิธีการออกหมัด เธอชอบชกแบบใส่น้ำหนักทั้งตัว ทำให้เผยเห็นช่องโหว่บางส่วนออกมาค่ะ”
นอกจากนั้น “เจเน็ต” ยังยกย่องนักสู้สาวฟอร์มแรงจากแดนสยามว่า มีสไตล์ชกเน้นกดดันรุนแรงต่อเนื่องและพลังโจมตีที่หนักหน่วง แต่เธอเองก็มีประสบการณ์โชกโชนและพร้อมเต็มร้อยที่จะรับมือกับความท้าทายทุกรูปแบบเช่นกัน
“เพชรจีจ้า เป็นมวยสไตล์บู๊ดุดัน ชอบเดินเข้าหา และฉันก็เคยเจอกับนักสู้แบบนั้นมาก่อน ไฟต์นี้เราจะใส่กันเต็มที่ มันจะเป็นไฟต์ที่ดี และจะไม่ใช่ไฟต์ที่ง่าย ตอนนี้ฉันพร้อมเผชิญกับทุกสิ่งที่จะได้เจอบนเวทีและสนุกกับมัน และตอนจบฉันจะได้รับการชูมือและมีเข็มขัดพาดบ่าค่ะ”
ติดตาม “เจเน็ต vs เพชรจีจ้า” ศึก ONE Fight Night 20 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เสาร์ที่ 9 มี.ค.67 เริ่มคู่แรกเวลา 08.00 น. รับชมทาง
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 08.00 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 08.00 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 08.00 น.
- จองบัตรเข้าชมที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) THAI TICKET MAJOR