ไม่มีอะไรต้องเสียใจ “โจ” รับทุ่มเททุกอย่างเต็มที่แล้ว ต่อให้ย้อนเวลาได้ก็จะไม่เปลี่ยนอะไร
“โจ ณัฐวุฒิ” นักชกอินดี้ที่ช่วงหลังฮอตติดลมบน ยืนยันไม่มีอะไรต้องเสียใจ หลังได้ทุ่มเททุกอย่างลงไปอย่างสุดความสามารถแล้ว แม้จะได้รับความพ่ายแพ้ในการเจอกับ “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) เฉพาะกาล โดยถูกสับศอกพ่ายน็อกยกแรก ในการชกกติกามวยไทย ศึก ONE ลุมพินี 81: ซุปเปอร์บอน vs โจ เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา
การพบกันระหว่าง “ซุปเปอร์บอน vs โจ” ถือเป็นอีกหนึ่งคู่มวยในฝันที่แฟนมวยทั่วโลกเฝ้ารอคอย อยากเห็นทั้งสองในฐานะอันดับ 1 และ 2 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ได้โอกาสวัดฝีมือกันสักครั้ง โดยเฉพาะต่างเคยพิสูจน์ตัวเองด้วยการต่อกรกับเจ้าบัลลังก์อย่าง “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” อย่างสนุกสูสี ชนิดที่พ่ายไปด้วยคะแนนเสียงข้างมาก (แพ้ 2 เสมอ 1) ทั้งคู่
อย่างไรก็ตาม เกมการชกไฟต์หยุดโลกในครั้งนี้ กลับต้องจบลงอย่างรวดเร็วเกินคาด เมื่อ “โจ” พลาดท่าถูก “ซุปเปอร์บอน” ฟันศอกซ้ายเรียกแผลแตกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถูกเผด็จศึกด้วยศอกขวาเข้าเต็มปลายคาง พ่ายน็อกไปแบบช็อกแฟนมวยทั่วโลกด้วยเวลาเพียง 1:43 นาที ของยกแรกเท่านั้น
โดยปัจจุบัน “โจ” พักรักษาแผลแตกบริเวณใต้คิ้วขวาจนหายดีแล้ว ได้เปิดใจเล่าถึงเหตุการณ์ที่พ่ายแพ้ในวันนั้น
“ไฟต์นี้ผมไม่ได้วางแผนอะไรมาเป็นพิเศษ แค่ขึ้นไปสู้ตามปกติ และคอยอ่านเกมไปด้วยตามสไตล์ของผม เพียงแต่ผมไปพลาดโดนศอกเข้าบริเวณใต้คิ้วก่อน และแผลมันลึกมาก มันปวดหน้า และมีเลือดไหลเข้าตา จึงทำให้มองไม่ค่อยเห็นด้วย สติก็เริ่มไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว”
“ตอนนั้นตัวมันชาไปหมด แต่ผมก็พยายามสู้ต่อ จนมาโดนอีกศอกหนึ่งในจังหวะปิดเกม ซึ่งเอาจริง ๆ บนเวทีตอนนั้นผมแทบไม่รู้ตัวเลยนะครับว่าโดนอะไร ผมรู้สึกเหมือนแค่ว่ามีอะไรมาโดนคางเบา ๆ แล้วล้มลงไป ผมพยายามลุก แต่ไม่ไหว เพราะร่างกายมันช็อตไปแล้ว ตัวมันชา ๆ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน จนกลับถึงโรงแรม มาเปิดคลิปย้อนดูถึงได้รู้ว่าตัวเองโดนศอกครับ”
“หลังจบเกมวันนั้น ผมได้รับข้อความให้กำลังใจจากแฟน ๆ เยอะมาก ผมตกใจจริง ๆ ที่มีคนรัก และชื่นชอบผมมากขนาดนี้ อยากฝากบอกทุกคนด้วยว่า ผมขอบคุณมากจริง ๆ สำหรับทุกกำลังใจที่ส่งมาครับ”
แม้เกมการชกจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว แต่ “โจ” ผู้เข้าใจสัจธรรมของชีวิตการเป็นนักสู้อาชีพ ยังยืนยันว่าตราบใดที่ตื่นมาแล้วมีความสุขกับการชกมวยอยู่ ตนก็พร้อมที่จะสู้ต่อไป เพื่อไล่ล่าบัลลังก์แชมป์มาครองในช่วงโค้งสุดท้ายของอาชีพ
“ตอนนี้สภาพจิตใจผมดีมาก อย่างที่บอกผมไม่เคยเครียดเลย เพราะก่อนชกผมไม่เคยคิดเรื่องผลแพ้ชนะอยู่แล้ว ไม่ว่าผลจะออกมายังไง ผมคิดแค่ว่าเราต้องทำให้เต็มที่ ๆ สุดเท่านั้นก็พอ และวันนั้นผมก็ทำเต็มที่แล้วจริง ๆ”
“ส่วนข้อผิดพลาดต่าง ๆ ในไฟต์นี้ อย่างเรื่องการป้องกันตัว ผมต้องนำมาเก็บเป็นบทเรียน เพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกในไฟต์ต่อไปครับ”
“ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่เปลี่ยนอะไรเลย เพราะผมทุ่มเททุกอย่างไปหมดแล้วตั้งแต่การฝึกซ้อมจนถึงวันแข่งขัน ส่วนเรื่องเป้าหมายการคว้าแชมป์โลก ก็ต้องยอมรับตามตรงว่าไฟต์ล่าสุดฟอร์มผมไม่ดีเท่าไหร่ ก็ต้องกลับมาทำฟอร์มใหม่ ซึ่งไม่เป็นไร ฟอร์มการชกปั้นขึ้นมาใหม่ได้อยู่แล้ว มันยังมีเวลา ผมยังมีความสุขกับการชกมวยอยู่”
“ตอนนี้ผมกลับมาซ้อมมวยเบา ๆ เล่นฟิตเนส ปั่นจักรยาน เพื่อดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้วครับ หลังจากนี้ผมจะเคลียร์งาน ทำธุระที่เหลือที่ประเทศไทย ก่อนจะบินกลับไปสหรัฐอเมริกาสิ้นเดือน ต.ค.นี้ครับ ซึ่งหลังจากนี้ก็น่าจะอยู่ทำงานที่นู่นยาว ๆ จนกว่าจะมีรายการอีกครั้งเลยครับ”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEfc.com/th รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH