“โจ ณัฐวุฒิ” ลั่นไม่ว่าเป็นตัวจริงหรือสำรอง ก็พร้อมลุยแหลก!
“สโมกกิน’ โจ” ณัฐวุฒิ ยอมรับเคยหวังลึก ๆ ว่าจะได้เป็นตัวจริงในศึกคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ และในที่สุดโอกาสนั้นก็ลอยมาถึงมือจนได้ โดยเจ้าตัวยังคงจุดยืนชัดเจน พร้อมลุยแหลกแบบไร้แผนการชก
ยอดฝีมือคิกบ็อกซิ่งจากเมืองย่าโม วัย 32 ปี ที่ไปสร้างชื่อระบือไกลในอเมริกา ได้รับโอกาสให้ลงแข่งขันศึกคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เพื่อชิงเก้าอี้สำรอง แต่เจ้าตัวก็ถูกส้มหล่นใส่อย่างจังเมื่อหนึ่งในตัวเต็งอย่าง “มารัต กริกอเรียน” จำต้องถอนตัวจากการแข่งขันรอบรองชนะเลิศตามมาตรการไวรัสโควิด-19 ในช่วงโค้งสุดท้าย ทำให้ โจ ได้เสียบแทนเป็นตัวจริงทันที
ในศึก ONE: ONLY THE BRAVE ที่จะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 28 มกราคมนี้ โดยมีการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เป็นไฮไลต์ของรายการ โจ จึงต้องเผชิญหน้ากับ “Cinga” ชิงกิซ อัลลาซอฟ” คู่ชกเดิมของ มารัต ในฐานะคู่รองของรายการโดยปริยาย โดยเจ้าตัวเผยถึงความรู้สึกหลังจากได้ข่าวนี้ว่า
“ตอนผมได้รับข่าว ผมก็กำลังยุ่ง ๆ กับการเตรียมเอกสาร ผมก็รู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมาย แต่จริง ๆ ก็รู้สึกดีครับที่ได้รับโอกาสได้มาอยู่ตรงนี้ ก่อนหน้านี้ พูดตรง ๆ ผมก็มีแอบคิดว่าจะไม่มีใครถอนตัวบ้างเลยหรือ แล้วก็มีจริง ๆ และผมก็ได้รับโอกาสนี้จนได้ครับ”
อันที่จริง โจ เองก็เคยมีประสบการณ์เป็นหนึ่งในผู้แข่งขันเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2562 โดย โจ โชว์ผลงานปราบเจ้าตำนาน “ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์” ในรอบ 8 คนแรก แต่น่าเสียดายที่ โจ มาถึงทางตันในรอบรองชนะเลิศเมื่อถูกน็อกด้วยน้ำมือตัวพ่อคิกบ็อกซิ่งชาวอิตาเลียน “The Doctor” จอร์จิโอ เปโตรเซียน ตกรอบไป
ครั้งนี้ โจ ได้โอกาสเป็นตัวจริงอีกครั้งแม้จะในฐานะมวยแทน แต่ไม่ว่าเป็นนักกีฬาตัวจริงหรือตัวสำรอง โจ ก็ยังคงยืนยันถึงจุดยืนของตนเองว่าเขาทำเต็มที่ทุกแมตช์และไม่หวั่นจะว่าต้องเปลี่ยนคู่ชกอีกสักกี่คน เพราะเขาไม่เคยสนใจศึกษาคู่แข่งอยู่แล้ว โดยจะโฟกัสที่การฝึกซ้อมของตนเองเพื่อพัฒนาทักษะในแต่ละด้านให้ดีที่สุดเท่านั้น
ดังนั้น การวิเคราะห์ถึงจุดอ่อนหรือจุดแข็งของคู่แข่งจึงไม่หลุดออกจากปาก โจ แต่สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจที่จะพูดคือสไตล์การชกและฝีมือของตนเองที่ยังคงบู๊ ดุดัน เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความหนักหน่วงและรุนแรงขึ้น
“การเปลี่ยนคู่ชกครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบอะไรกับผมเลยครับ เพราะไม่ว่าจะชกกับใคร ผมก็จะซ้อมในแบบของผมอยู่แล้ว ผมจะซ้อมเรื่องความเร็วในการออกอาวุธครับ ซึ่งสิ่งที่ผมรู้สึกว่าพัฒนาขึ้นในครั้งนี้คือเรื่องความเร็วและน้ำหนัก คืออาวุธผมหนักกว่าเดิมแน่นอนครับ”
หาก โจ สามารถผ่าน ชิงกิซ ไปได้ในด่านนี้ ก็จะเข้าไปเจอกับผู้ชนะระหว่าง “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” และ “ดาวิต คิเรีย” และเมื่อถูกถามว่า โจ อยากเจอใครมากที่สุดระหว่างสองคนนี้ เจ้าตัวก็ตอบแบบไม่ลังเล
“ผมอยากเจอ สิทธิชัย มากกว่าครับ เพราะว่าผมเชียร์เขาอยู่ อยากให้เขาชนะ คือส่วนตัวผมชื่นชอบ สิทธิชัย มาก สำหรับผมเขาคือที่หนึ่งของโลกของแท้ ผมอยากให้เขาชนะ และถ้าผมชนะ ก็จะได้เจอกันครับ”
ติดตามชม “โจ vs ชิงกิซ” ONE: ONLY THE BRAVE ถ่ายทอดสด ศุกร์ที่ 28 ม.ค.65 เริ่มคู่แรกเวลา 18.00 น. รับชมทาง
- แอปมือถือ ONE Super App
- ยูทูบ ONE Championship
- AIS Play (เฉพาะลูกค้า AIS)
- ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.40 น.
อ่านเพิ่มเติม: