“โจ ณัฐวุฒิ” เผยความพร้อมคือปัจจัย ไม่เซอร์ไพรส์ที่คว้าชัยชนะ
“สโมกกิน โจ” ณัฐวุฒิ หนึ่งในนักชกคิกบ็อกซิ่งแนวหน้าของไทยกลับมาโชว์โหดแบบสะใจด้วยการเอาชนะน็อกนักชกหมัดหนักแดนหมีขาว “ยูริก ดาฟเทียน” ตั้งแต่ยกแรกในศึก ONE: NEXTGEN II เมื่อ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา คว้าเก้าอี้สำรองของการแข่งขันศึก คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต ไปครอง โดยเจ้าตัวเผยการเตรียมพร้อมมาเต็มร้อยคือปัจจัยสู่ชัยชนะ
ดูเหมือนว่า โจ นักชกหัวใจอินดี้จะไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรมากนักกับการคว้าชัยชนะในครั้ง เพราะเขาไม่เคยวางแผนการชกและไม่เคยคาดหวังว่าจะแพ้แหรือชนะ สิ่งที่เขารู้ดีที่สุดคือการเตรียมความพร้อมของตนเอง โดยมองว่าหากตนมีความพร้อมและใส่เต็มร้อย ทุกอย่างจะออกมาดี และก็เป็นไปตามที่เขาได้ลั่นวาจาไว้จริง ๆ
เมื่อได้เจอกับ ยูริก ตัวต่อตัวบนวังเวียน โจ ยอมรับว่า ยูริก เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง แม้จะไม่เคยได้ศึกษาคู่ต่อสู้มาก่อน แต่โจ ก็รับมือกับเกมเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี
“ยูริก เขาแข็งแกร่งครับเพราะเขาก็เคยชนะน็อกมา เรารู้อยู่ว่าเขาต่อยแรง แต่เตะเขาสู้เราไม่ได้อยู่แล้วครับ แต่อย่างที่บอกแล้วว่า ผมไม่เคยวางแผนมาก่อน ผมแค่เตรียมตัวของผมมาให้เต็มที่ มาถึงบนเวทีผมก็คิดแค่ว่า โดนก่อน เจ็บก่อน หลับก่อนครับ”
โจ ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังในฐานะนักชกสายโหด โดยในยกแรก โจ ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินเข้าแลกอาวุธกันอย่างดุเดือดโดยใช้หมัดอันว่องไวและหนักหน่วงทะลวงการ์ดของคู่ต่อสู้ได้จะแจ้งหลายดอก ในขณะเดียวกันก็ป้องกันหมัดจู่โจมลำตัวของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเหนียวแน่น
จนกระทั่งวินาทีสำคัญมาถึง เมื่อ โจ ใช้ความไวชิงกระแทกหมัดอัดเข้าเต็มกราม ยูริก ร่วงลงไปนอนเมาที่พื้น กรรมการเห็นท่าไม่ไหว จึงสั่งยุติการชกและชูมือ โจ ชนะน็อกในนาทีที่ 2.50 ของยกแรก
สำหรับ โจ ความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจคือปัจจัยหลักที่ทำให้เขาสามารถลงศึกใดก็ได้โดยไม่รู้สึกกลัวหรือกังวล เช่นเดียวกับในไฟต์นี้ ซึ่งเขารู้ว่าตนเองเตรียมพร้อมเต็มที่และใส่เต็มร้อยไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างในไฟต์นี้จึงดูราบรื่นสำหรับเขาไปเสียหมด
“สำหรับไฟต์นี้ ไม่มีอะไรที่เซอร์ไพรส์หรือน่าตื่นเต้นอะไรสำหรับผมครับ เพราะผมรู้ว่าตัวเองว่าพร้อมเต็มที่ทุกอย่างทั้งเรื่องการซ้อม สภาพร่างกาย เรื่องการทำน้ำหนัก สบาย ๆ ครับ”
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ โจ เป็นหนึ่งในสองนักกีฬาสำรองสำหรับการแข่งขันคิกบอกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต ปี 2564 ซึ่งจำเป็นต้องมีไว้ในกรณีนักกีฬาตัวหลักไม่สามารถลงแข่งขันได้เพื่อให้การแข่งขันดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ดังนั้น ถึงจะนั่งเก้าอี้สำรอง แต่ โจ ก็ยังมีสิทธิ์ลุ้นได้เป็นตัวจริงได้ตลอดเวลา และเชื่อว่าหาก โจ ได้รับสิทธิ์นั้น เขาก็พร้อมสู้เต็มร้อยไม่มีแผ่วเหมือนทุกไฟต์ที่ผ่านมา
ติดตามความคืบหน้าของศึกคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต รอบรองชนะเลิศ ได้ที่นี่
อ่านเพิ่มเติม: