รักษาแรงกิงยิ่งชีพ “โจ” พร้อมบู๊แหลกดับซ่า “บัมปารา” เพื่อโอกาสกลับขึ้นชิงบัลลังก์
“โจ ณัฐวุฒิ” นักสู้ขวัญใจมหาชน จากเมืองย่าโมโคราช เตรียมแผนเด็ดมาแลกหมัด เพื่อรั้งแรงกิงอันดับ 2 ที่ครองอยู่จาก “บัมปารา คูยาเต” นักสู้ฝีมือจัดจากฝรั่งเศส เจ้าของตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง ที่คิดการใหญ่ หวังจะนั่งแทนที่ โดยจะสู้กันในกติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ในศึกใหญ่ ONE 170 ที่จะจัดขึ้น ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.68 เริ่มคู่แรก 18.30 น.
ในปี 2567 ที่ผ่านมา ชีวิตของ “โจ ณัฐวุฒิ” ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยได้รับความนิยมแบบพุ่งกระฉูดจากแฟนมวยทั่วประเทศ แม้จะประสบความพ่ายแพ้ใน 2 ไฟต์หลัง
“โจ” ยังเป็น “โจ” คนเดิมที่เข้าใจถึงการแพ้ชนะอันเป็นสัจธรรมของชีวิตนักกีฬาอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเขาได้สะท้อนถึงสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเผยถึงเป้าหมายในปี 2568 ที่ตั้งใจจะมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองให้ดีกว่า ทั้งในฐานะนักมวยและชายธรรมดาคนหนึ่ง
“ปีที่แล้ว ถึงผมจะเก็บชัยชนะไม่ได้เลย แต่ถือว่าเป็นปีที่น่าพอใจสำหรับผม เพราะการได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์ครั้งแรก ถือเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของผม จะแพ้ชนะก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และในทุก ๆ ไฟต์ ไม่ว่าจะผลเป็นอย่างไร ก็ทำให้ผมได้บทเรียนเสมอซึ่งสามารถนำไปพัฒนาต่อได้”
“อย่างไฟต์ล่าสุดที่แพ้ ซุปเปอร์บอน (ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์) ต้องยอมรับว่าเขาเตรียมตัวมาดี เปิดเกมเร็วกว่าที่คาด ส่วนผม เครื่องร้อนช้าไปหน่อย ถือเป็นบทเรียนให้ผมรู้ว่าควรต้องเปิดเกมให้เร็วกว่านี้ จะมายืนนิ่ง ๆ ดูอาวุธไม่ได้ครับ”
“ด้านชื่อเสียงก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด มีคนรู้จักเยอะขึ้น มีโอกาสใหม่ ๆ เข้ามาให้ทำเยอะมาก ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี แต่ผมก็ไม่หลงไปกับชื่อเสียงหรือแสงสีอะไร ผมยังเป็นผมคนเดิมที่ใช้ชีวิตในแบบที่เคยเป็นมาตลอดครับ”
“สำหรับเป้าหมายในปีนี้ ถ้าในฐานะนักมวย ผมก็อยากจะเห็นตัวเองยังคงรักษาระเบียบวินัยอย่างนี้ต่อไป และอยากทำหน้าที่ให้เต็มที่ในทุกไฟต์ ผมไม่ได้มองไปไกลมาก แต่จะทำผลงานให้ดีที่สุดไปทีละไฟต์ครับ”
“ส่วนในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง ผมก็อยากมีความสุขกับชีวิตในทุก ๆ วัน และได้ช่วยเหลือสังคมให้มากขึ้น โดยเฉพาะการช่วยเหลือสัตว์จรจัดและผู้ยากไร้ อย่างเช่นเวลาที่มีอุทกภัยหรือภัยพิบัติ ผมก็อยากไปช่วยเหลือเท่าที่กำลังของผมพอจะทำได้ครับ”
ตอนนี้ “โจ” ได้เดินทางจากอเมริกา มาเก็บตัวอยู่ที่ค่ายแฟร์เท็กซ์ ในเมืองพัทยา เป็นที่เรียบร้อย โดยได้บรรดาน้อง ๆ ยอดฝีมือร่วมค่าย อาทิ “นักรบ”, “เฟอร์รารี” และ “คมเพชร” รับบทเป็นคู่ซ้อมช่วยเสริมแกร่งเพื่อเตรียมความพร้อมให้ถึงขีดสุด ก่อนขึ้นสังเวียนพบกับ “บัมปารา คูยาเต” นักสู้หน่วยก้านดี จากฝรั่งเศส ที่ไฟต์ล่าสุดระเบิดฟอร์มเทพ อัดทีเคโอ “ลุค ลิสซีย์” กำปั้นจอมชั้นเชิงจากสหรัฐอเมริกา มาได้ในศึก ONE Fight Night 23 เมื่อเดือน ก.ค.67
โดยไฟต์นี้ “โจ” ยืนยันหนักแน่น จะไม่ยอมให้ “บัมปารา” บุกมาชิงเก้าอี้ผู้ท้าชิงอันดับ 2 ในแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ที่ตนครองไปได้ เพราะยังมีความฝันและเป้าหมายสำคัญที่จะต้องไปให้ถึง
“บัมปารา เป็นนักชกต่างชาติที่มีความเป็นมวยสูงมาก ออกอาวุธมวยไทยได้ครบทุกลูก จุดเด่นของเขาคือหมัดที่ออกได้เร็วและแม่นยำ และได้เปรียบเรื่องส่วนสูง อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าผมมีความแข็งแรงมากกว่า”
“จากไฟต์ที่เขาเจอกับ ลุค ผมมองว่า ลุค ชกได้แข็งแรงกว่า เพียงแต่พลาดโดนศอกจนได้แผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องแพ้ในไฟต์นั้นไป”
“ผมมองว่าไฟต์นี้มีโอกาสจบไม่ครบยก เพราะทั้งผมและเขาต่างก็มีหมัดที่เร็วและคม ใครพลาดโดนก่อนก็ร่วงได้ทันที สำหรับความหนักของหมัด ผมคิดว่าไม่ต่างกันมาก ผมเองก็เป็นมวยที่ชอบใช้หมัดเหมือนกัน ก็จะเอาหมัดไปสู้กับแบบเกลือจิ้มเกลือไปเลย ผมบู๊แหลกแน่นอนครับ”
“ความฝันและเป้าหมายของผมคือการได้กลับไปชิงแชมป์มวยไทยอีกครั้ง ดังนั้น ผมจะต้องรักษาตำแหน่งแรงกิงอันดับ 2 ไว้ให้ได้ ไม่ยอมให้เขาชิงแรงกิงของผมไปง่าย ๆ ครับ”
ติดตาม “โจ vs บัมปารา” ศึก ONE 170 ถ่ายทอดสดจาก อิมแพ็ค อารีนา วันศุกร์ที่ 24 ม.ค.68 คู่แรกเริ่มเวลา 18.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 18.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 18.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 18.30 น.