พร้อมชนของร้อน “โจ ณัฐวุฒิ” เครื่องฟิตพร้อมหยุดฟอร์มแรง “ตะวันฉาย”
“โจ ณัฐวุฒิ” ไม่สนใจ ถูกมองเป็นรอง “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัยฯ” มั่นใจในสภาพร่างกาย พร้อมลุยหนักแบบจัดเต็ม ให้สมกับการกลับมาในรอบ 1 ปี 2 เดือน
“โจ ณัฐวุฒิ” นักชกรุ่นใหญ่ใจถึง วัย 34 ปี จากจังหวัดนครราชสีมา ดีกรีแชมป์โลก Lion Fight สองรุ่น และแชมป์โลกมวยไทย WMC เตรียมกลับมาขึ้นสังเวียนโชว์ฝีมือให้แฟน ๆ หายคิดถึง ด้วยการรับเผือกร้อน ท้าชน “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พีเค.แสนชัยฯ ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145 – 155 ป. ) ในศึก ONE Fight Night 15: ธานฮ์ vs อิลยา ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.66
ครั้งสุดท้ายที่ทุกคนเห็น “โจ” ขึ้นสังเวียนโชว์ฝีมือใน ONE ต้องย้อนกลับไปถึงเดือน ก.ค.65 ในศึก ONE 159 ที่แพ้คะแนนหวุดหวิดให้กับ “จามาล ยูซูพอฟ” โดยที่หลังจากนั้นเป็นต้นมา ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ “โจ” ได้ห่างหายไปจากหน้าสื่อจนทำให้แฟน ๆ หลายคนสงสัยว่านักชกอินดี้จากเมืองย่าโม รายนี้หายหน้าหายตาไปไหน โดยล่าสุด “โจ” ได้ออกมาอัปเดตชีวิตของตนเองตลอดที่ผ่านมา ที่มีทั้งการทำงาน ฝึกซ้อม และผ่อนคลาย ในแบบฉบับของตัวเอง
“หลังจากชกไฟต์สุดท้าย ผมก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมตลอด ตื่นเช้ามาผมก็ต้องไปทำงานก่อน ผมสอนทั้งฟิตเนสและมวยไทยครับ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วก็มาเข้ายิมซ้อมส่วนตัว กว่าจะซ้อมเสร็จก็ช่วงบ่ายแล้ว หลังจากนั้นก็กินข้าวพักผ่อน อ่านหนังสือ เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ตอนเย็นก็เข้ามายิมสอนอีก 1 ชั่วโมง หลังสอนเสร็จตอนเย็นก็จะไปพักผ่อนกับเพื่อนครับ ไปร้านอาหาร หาของอร่อยกินกัน”
“ผมเป็นคนลุย ๆ ปีนเขา ทำงาน พักผ่อน ซ้อมมวยด้วย สนุกสนานกับชีวิตเหมือนเดิม มีเวลาว่างช่วงหนึ่ง ผมก็ไปขับรถเที่ยวทั่วอเมริกา ไปแคมปิง, ปีนเขา, สโนว์บอร์ด ใช้ชีวิตกินนอนในรถ เป็นวิถีชีวิตอีกแบบที่สนุกดีครับ”
การที่ “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” ได้รับบาดเจ็บจนตัดสินใจถอนตัวในการเปิดศึกท้าชิงบัลลังก์มวยไทยจาก “ตะวันฉาย” ทำให้ทาง ONE จำต้องเร่งเฟ้นหาตัวนักกีฬาฝีมือดีเข้ามาเสียบแทนเป็นการด่วน ก่อนจะเป็น “โจ” ที่อาสารับเผือกร้อน คว้าโอกาสทองที่จะได้กลับมาโชว์ฝีมืออีกครั้ง พร้อมปรับกติกาจากมวยไทย มาเป็นคิกบ็อกซิ่ง แทนเพื่อความเหมาะสม โดยที่ “โจ” ยืนยันว่าแม้จะมีเวลาเตรียมตัวไม่ถึง 2 สัปดาห์ แต่ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญ เพราะตลอดที่ผ่านมา ตนหมั่นฝึกซ้อม และดูแลร่างกายเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
“ตอนที่ “ซุปเปอร์บอน” ถอนชก ผมก็มีคุยเล่น ๆ กับเพื่อนครับว่าโอกาสมันจะมาถึงเราหรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้คิดจริงจังอะไร ตอนนั้นผมก็คิดนะว่าใครจะกล้าตอบรับมาเป็นคู่ต่อสู้คนใหม่ ในช่วงเวลาที่กะทันหันแบบนี้”
“เมื่อ ONE ติดต่อมาให้ผมชกกับ “ตะวันฉาย” ผมก็ขอไปปรึกษากับเพื่อนของผมก่อน ก็มองว่าเรายังมีเวลาพอ ที่จะสปีดทำร่างกายทันได้ เพราะตลอดที่ผ่านมาผมก็ซ้อมมาโดยตลอด ออกกำลังกายอยู่เสมอ ร่างกายผมก็ไม่ได้แย่ด้วย ก็เลยตอบรับโอกาสครั้งนี้ครับ”
“โจ” ยอมรับว่า “ตะวันฉาย” มีพัฒนาการเร็วมาก และมีลูกเตะซ้ายที่ร้ายกาจไม่แพ้ใคร พร้อมทั้งชื่นชมว่าเป็นนักมวยที่มีไอคิวยอดเยี่ยม โดยยกตัวอย่างจากผลงานในไฟต์ล่าสุด ที่ “ตะวันฉาย” มองเห็นจุดอ่อนของ “ดาวิต คิเรีย” ที่ใช้การยกท่อนแขนขึ้นมาบังลูกเตะอยู่ตลอด จนนำมาซึ่งการโหมกระหน่ำสาดพายุแข้งซ้าย เข้าที่ท่อนแขนนับครั้งไม่ถ้วน จนสามารถเอาชนะทีเคโอ ไปได้
“ผมดู “ตะวันฉาย” ครั้งแรก ที่เขาชกชิงแชมป์โลก เขาเป็นนักมวยที่เก่งมากนะครับ น้องเขาพัฒนาเร็วมาก อาวุธแข็งแรง มีจุดเด่นคือเตะซ้ายที่แข็งแกร่ง และรวดเร็วมาก ไฟต์ที่แล้วที่เขาทำผลงานได้ดีมากครับ เขารู้จุดอ่อนคู่ต่อสู้ แล้วโจมตีย้ำไปที่เดิม เก่งมากครับ สมองดีมาก มีการวางแผนการชกที่ดี
แม้ไฟต์นี้จะถูกแฟนกีฬาการต่อสู้หลาย ๆ คนมองว่าเป็นรอง “ตะวันฉาย” โดยเฉพาะการร้างเวทีไปนาน แต่เรื่องนั้นไม่สร้างความหวั่นวิตกให้กับ “โจ” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวบนสังเวียนนักสู้มานักต่อนักแต่อย่างใด โดยมองว่าขอแค่เตรียมความพร้อมซ้อมมาให้ดี แล้วขึ้นไปทำหน้าที่ให้เต็มที่ก็พอ พร้อมการันตีไฟต์นี้ขนอาวุธมาเต็มคลังแสง พร้อมบุกโจมตีตามสไตล์ถนัด มั่นใจเกมการชกจะออกมาสนุกตื่นเต้นสมการรอคอย
“จากที่หลาย ๆ คนมองว่าผมเป็นรอง “ตะวันฉาย” ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรนะครับ เพราะผมเป็นคนที่ไม่ได้ตื่นเต้นหรือกดดันอะไรอยู่แล้ว และผมไม่มีหวั่นใจแน่นอน นักมวยรุ่นผมไม่มีใครวิตกกังวลกันแล้วครับ เราแค่ขึ้นไปชกให้เต็มที่ก็พอ ไม่เกี่ยงว่าคู่ชกของเราจะเป็นใคร เรามองแค่ว่า เราเตรียมตัวได้ดี เรามีโอกาสชนะได้เท่านี้ก็พอ”
“ส่วนเรื่องการร้างเวทีไปนานเป็นปี มันไม่เกี่ยวเลยครับกับผลงานบนเวที เพราะมันอยู่ที่การซ้อมเท่านั้น ถ้าซ้อมดี ยังไงผลงานก็ต้องออกมาดี ส่วนไฟต์นี้ผมก็เตรียมอาวุธมาทุกอย่างครับ จะพยายามเตะต่อยเยอะ ๆ เหมือนเดิม ผมถือคติโดนก่อนเจ็บก่อน และแฟน ๆ ทั่วโลกจะได้เห็นการต่อสู้ที่สนุกตื่นเต้นแน่นอนครับ”
ติดตาม “โจ vs ตะวันฉาย” ในศึก ONE Fight Night 15 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันเสาร์ที่ 7 ต.ค.66 สามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR เริ่มคู่แรกเวลา 07.00 น. และรับชมผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 07.00 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 07.00 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 07.00 น.