เข็มขัดต้องกลับมา! “กำปั้นหินผา” ลั่นดังขอแตกหัก “ฟาบริซิโอ” แบบชัดเจน
“กำปั้นหินผา” จอห์น ลินีเคอร์ ประกาศดังขอจัดการเด็กซ่าบราซิล “ฟาบริซิโอ” ให้เห็นแบบชัด ๆ เพื่อเอาเข็มขัดกลับมาประดับเอวในศึกรีแมตช์ภาคสอง 25 ก.พ.นี้
“กำปั้นหินผา” จอห์น ลินีเคอร์ ได้คิวรีแมตช์ศึกแห่งสายแห่งสายเลือดแซมบา ชิงตำแหน่งแชมป์โลก ONE รุ่นแบนตัมเวต (145 ป.) ที่ว่างอยู่ กับคู่แข่งจอมแสบ “วันเดอร์บอย” ฟาบริซิโอ อานดราเด” ในฐานะคู่เอกของศึก ONE FIGHT NIGHT 7: จอห์น vs ฟาบริซิโอ II ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้า 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 25 ก.พ.66
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ต.ค.65 ซึ่งในขณะนั้น “กำปั้นหินผา” เป็นผู้ครองบัลลังก์รุ่นแบนตัมเวต และได้คิวป้องแหน่งแชมป์โลกกับ “ฟาบริซิโอ” ครั้งแรก แต่ไม่ทันไร “จอห์น” ก็เข็มขัดหลุดตั้งแต่ก่อนขึ้นชกเนื่องจากทำน้ำหนักไม่ผ่าน
แม้จะหมดสิทธิ์ได้ครอบครองเข็มขัดที่เคยเป็นของตัวเอง แต่ “จอห์น” ก็ก้าวขึ้นสังเวียนด้วยศักดิ์ศรีที่ค้ำคอ ก่อนที่ “ฟาบริซิโอ” จะเป็นฝ่ายคุมเกมเป็นส่วนใหญ่ในยกที่สาม และโจมตีพลาดไปที่ใต้เข็มขัดโดยไม่ตั้งใจจนทำให้กระจับของ “จอห์น” แตก ส่งผลให้แมตช์นี้ถูกตัดสินให้ไม่มีผลการแข่งขัน
หลายคนมองว่าหากไฟต์นั้นไม่ได้จบลงแบบนั้น “จอห์น” ก็อาจพลาดท่าถูก “ฟาบริซิโอ” ซึ่งดูจะครองเกมเหนือกว่าเอาชนะไปได้ แต่ “จอห์น” กลับไม่คิดเช่นนั้น
“ผมกลับมาย้อนดูการแข่งขันของผมกับ ฟาบริซิโอ อีกรอบ แต่เมื่อดูผ่านจอแล้วได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ผมเห็นว่าผมปล่อยให้เขาแย็บใส่หน้าตั้งหลายครั้งจนหน้าผมระบมไปหมด แต่ผมไม่รู้สึกถึงแรงหมัดของเขาเท่าไหร่ ผมไม่ได้กลัวหมัดของเขา ผมไม่ได้หลบหมัดของเขาเลย หน้าของผมก็เลยบูดบวมอย่างที่เห็นครับ”
“เพราะนอกจากเข่าที่เขาเอามากระแทกซี่โครงของผมแล้ว อย่างอื่นผมไม่ได้เจ็บเลย แล้วจากนั้นเขาก็ตีเข่าใส่หว่างขาของผม ถ้าดอกนั้นไม่ใช่การโจมตีที่ผิดกติกา เราอาจจะสู้กันต่อจนครบห้ายก และมันจะเป็นสงครามจนถึงที่สุดแน่นอน”
ยิ่งไปกว่านั้นนักสู้หมัดหนักวัย 32 ปี ยังมั่นใจด้วยว่าเขาเห็นช่องโหว่ของ “ฟาบริซิโอ” แบบทะลุปรุโปร่งซึ่งจะทำให้เขาเป็นต่อในไฟต์นี้ โดยประกาศกร้าวขอเคลียร์ดรามาที่ค้างคา แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพื่อแสดงให้เห็นว่า “ฟาบริซิโอ” ไม่ได้เหนือกว่าเขาในไฟต์ที่ผ่านมาและไม่คู่ควรได้รับตำแหน่งแชมป์โลกของรุ่นนี้
“ผมสังเกตเห็นช่องโหว่ในเกมของ ฟาบริซิโอ รวมถึงจุดแข็งของเขาด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผมในทางใดทางหนึ่ง และแน่นอนว่าผมจะไม่เน้นบุกหนักเหมือนกับที่ผมทำในไฟต์ที่แล้ว เนื่องจากผมเคยสู้กับเขามาแล้ว ผมเชื่อว่าประสบการณ์จะช่วยผมได้ในหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะการรับมือกับการเคลื่อนไหวและโจมตีของเขาครับ”
“ไฟต์นี้จะแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ชนะผม และเขาไม่ใช่คนที่แย่งเข็มขัดของผมไป พวกเราไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ เราจะเข้าไปในกรง ทำให้ดีที่สุด และท้ายที่สุดแล้ว เราจะได้เห็นว่าใครจะได้รับการชูมือ”
บทสรุปของมหากาพย์ระหว่างสองนักสู้ร่วมชาติบราซิลกำลังจะปรากฏในไม่ช้าในศึก ONE FIGHT NIGHT 7 เสาร์ที่ 25 ก.พ.นี้ แฟน ๆ กีฬาสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามล่วงหน้าได้แล้วตอนนี้ที่ www.thaiticketmajor.com