ยืนหยัดด้วยหัวใจ “โจนาธาน” เผยนาทีฝ่าวิกฤติ ป้องเข็มขัดมวยไทยครั้งแรกสำเร็จ
“โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” เผยถึงกุญแจสำคัญที่ทำให้ได้รับชัยชนะเหนือ “ฟิลิปเป โลโบ” ป้องกันเข็มขัดมวยไทยครั้งแรกได้สำเร็จ พร้อมเล็งเป้าท้าชิงเข็มขัด MMA เพื่อสร้างประวัติศาสตร์นั่งแท่นราชัน 3 บัลลังก์
ยังคงฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แชมป์โลก ONE มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) วัย 26 ปี ชาวอังกฤษ หลังสามารถป้องกันเข็มขัดมวยไทยไว้ได้เป็นครั้งแรก ด้วยการเอาชนะทีเคโอ “ฟิลิปเป โลโบ” ผู้ท้าชิงอันตราย วัย 30 ปี จากบราซิล เจ้าของเก้าอี้เบอร์ 3 ของแรงกิงมวยไทยรุ่นนี้ ในศึก ONE Fight Night 19 ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งไฟต์ที่ “โจนาธาน” โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงด้วยการโชว์พลังกำปั้นจัดหนัก “ฟิลิปเป” จนคว้าชัยไม่ครบยกได้อย่างสะใจ ซึ่งนี่คือชัยชนะที่เขารอคอยมานานเพื่อการันตีว่าเขาคู่ควรกับตำแหน่งแชมป์โลก ONE อย่างไร้ข้อกังขา
“นี่เป็นการป้องกันเข็มขัดครั้งแรกของผม ผมพูดเสมอว่าคุณจะยังไม่ใช่แชมป์จริง ๆ จนกว่าจะป้องกันเข็มขัดได้ แม้ครั้งนี้จะไม่ใช่การชกในแบบที่ผมตั้งใจไว้ เพราะผมอยากโชว์ฟอร์มให้สวยกว่านี้ แต่บางครั้งเราก็ต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้งานสำเร็จ และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องทำในครั้งนี้ครับ”
เกมการแข่งขันเดือดตั้งแต่ยกแรกเมื่อทั้งคู่สาดอาวุธใส่กันไม่ยั้ง กระทั่งช่วงปลายยก “โจนาธาน” มาพลาดโดนหมัดชุดใหญ่จนทรุดลงไปนั่ง ถูกนับแปดแบบช็อกคนดูทั้งสนาม ก่อนจะเรียกสติกลับคืนในยกต่อมาพร้อมกับปลุกจิตวิญญาณนักสู้ที่มีในตัวอย่างเหลือล้น จนสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะทีเคโอเหนือ “ฟิลิปเป” ได้อย่างน่าประทับใจ
แม้จะสามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกมวยไทยไว้สำเร็จสมใจ แต่ “โจนาธาน” ยอมรับว่าการฝึกซ้อมครั้งนี้ไม่เป็นไปตามเป้า 100 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังได้รับข่าวร้ายเรื่องลุงที่สนิทสนมคุ้นเคยต้องจากไปอย่างกะทันหันก่อนวันชกด้วย
“ฟิลิปเป ชกได้ดีมาก เขาเล่นงานผมแบบไม่ทันตั้งตัวในยกแรก ขณะเดียวกันแผนของผมก็ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ เขาไม่ได้เจอ แฮ็กเกอร์ตี 100% เพราะผมพร้อมแค่ 60% เท่านั้น ในจังหวะถูกนับ ผมรู้สึกเหมือนหลังพิงเชือกอยู่และพยายามเรียกสติกลับคืนมา เมื่อผมฟื้นแล้ว ผมบอกกับตัวเองว่า ตอนนี้นายเล่นงานฉันได้ แต่นายจะทำอะไรฉันในยกที่สองไม่ได้แน่“
สิ่งสำคัญที่ทำให้ “โจนาธาน” ฮึดกลับมาคว้าชัยในไฟต์นี้ได้สำเร็จ นั่นคือเสียงเชียร์และกำลังใจจากคนรอบข้างและทีมงานเบื้องหลังที่คอยส่งมาให้เขาถึงขอบสนามอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ เขายังมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยนี้เพื่ออุทิศให้ลุงผู้ล่วงลับของเขาด้วย
“ผมมีโค้ชที่ดีที่สุดในโลกอย่าง คริสเตียน โนวส์ และผมยังมีพ่อเป็นพี่เลี้ยง เขาพยายามบอกให้ผมตั้งสติ ผมมองไปข้างเวทีแล้วเห็นแม่ แฟน และน้องชาย อยู่ที่นั่น พวกเขาคอยให้กำลังใจผมอยู่เสมอ นอกจากนี้ ผมยังนึกถึงหน้าลุงของผม ผมรู้ว่าท่านกำลังมองลงมา ทั้งหมดนี้กลายเป็นแรงฮึดให้กับผม และผมคิดว่าจะต้องไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังให้ได้ครับ”
และในที่สุด “โจนาธาน” ก็แสดงให้เห็นหัวใจนักสู้ที่มีอยู่เต็มเปี่ยมและกลายมาเป็นผู้อยู่เหนือช่วงเวลาวิกฤต โดยเจ้าตัวเล่าย้อนถึงคววามรู้สึกลึก ๆ ในใจในวินาทีนั้นด้วยความภาคภูมิใจว่า
“ผมรู้สึกว่าหมัดอัปเปอร์คัตและหมัดซ้ายของผมทำงานได้ดี เหลือแค่ปิดบัญชีด้วยหมัดขวา ซึ่งหมัดขวาที่ผมต่อยออกไปก็ถือว่ามาถูกที่ถูกเวลาพอสมควร ผมเห็นเขาล้มลงไป เขาโงนเงนและพยายามจะลุกขึ้นมา ผมรอให้กรรมการโบกมือยุติการแข่งขัน และผมก็คิดว่า งานจบแล้ว”
“แม้ว่าชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่ผลงานที่ดีสำหรับผม แต่ผมสามารถจบด้วยการปิดเกมได้ และทำให้ Demolition Man จอมทำลายล้าง (ฉายาของ ฟิลิปเป โลโบ) โดนทำลายเสียเอง”
อย่างไรก็ตาม ราชันสองบัลลังก์จากเมืองผู้ดี ดูเหมือนยังไม่พอใจกับความสำเร็จเพียงเท่านี้ โดยเขาหวังเปิดศึกคำรบสองกับ “ฟาบริซิโอ อานดราเด” เพื่อรวบตึงเข็มขัดแชมป์โลกการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) มาคาดเอวให้ได้อีกเส้น ซึ่งจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการเป็นนักกีฬาชายคนแรกใน ONE ที่สามารถคว้าเข็มขัดแชมป์โลกมาครองได้ทั้ง 3 ชนิดกีฬา
“ผมพร้อมน็อก ‘ฟาบริซิโอ’ อีกครั้งครับ ผมอยากเป็นแชมป์โลก 3 กติกา ผมอยากครองเข็มขัดคิกบ็อกซิ่ง MMA และมวยไทย พร้อมกัน ผมอยากได้ทั้งหมดครับ ”
ติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh