ผมไม่ใช่ทางผ่านใคร “คมเพชร” ข้ามชกคิกบ็อกซิ่ง ขอดับฝัน “ฮัว” ชิงโอกาสลุยศึก ONE
“คมเพชร” กลับคืนเวทีหวังประเดิมสีเสื้อใหม่ “แฟร์เท็กซ์” ให้น่าจดจำ ไม่ติดขัดต้องปรับตัวไปลุยสายคิกบ็อกซิ่ง เล็งสกัดทางรุ่ง “ฮัว” แย่งโอกาสลุย ศึก ONE รายการใหญ่
“คมเพชร แฟร์เท็กซ์” มวยขวาสาดแข้งดุ วัย 23 ปี จากเมืองย่าโม เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี นัดปฐมฤกษ์ ตั้งแต่ยังใช้นามสกุล “ศิษย์สารวัตรเสือ” โดยเป็นฝ่ายพ่ายคะแนน “พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” แบบน่าเสียดาย กลับมารอบสองขอลองเปลี่ยนเชิงบู๊เป็นกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115 – 125 ป.) ปะทะ “ฮัว เซียวหลง” มวยฝีมือดุ วัย 28 ปี จากจีน ที่เก็บชัยชนะมารวดมาแล้วสองไฟต์ติด ในศึก ONE ลุมพินี 23 วันศุกร์ที่ 30 มิ.ย.นี้
“คมเพชร” เริ่มชกมวยตอนอายุ 7 ขวบ ตามพี่ชายที่เคยเป็นนักมวยเก่า “เพชรกอบทรัพย์ ศิษย์เพชรฉลูกัณฑ์” โดย “คมเพชร” เดินสายล่าชัยเดิมพันเป็นว่าเล่น ก่อนจะเริ่มมีชื่อเสียงหนาหูไปทั่วโคราชเมื่อย้ายไปสังกัดค่าย ก.อดิศร จากนั้น เมื่อเรียนจบชั้นมัธยม 3 อายุได้ 15 ปี ก็ถูกทาบทามให้ไปอยู่ค่ายศิษย์สารวัตรเสือ ที่จังหวัดสมุทรปราการ
ตลอดกว่า 8 ปี ที่อยู่ค่ายศิษย์สารวัตรเสือ “คมเพชร” โชว์ผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ เคยกวาดเข็มขัดแชมป์มาครองได้ถึง 6 เส้น (108 ป. ช่อง7, 108 ป. ประเทศไทย, 112 ป. ลุมพินี, 112 ป. ช่อง7, 118 ป. ลุมพินี และ 126 ป. ช่อง7) พร้อมมีค่าตัวแตะหลักหมื่นบาท ก่อนตัดสินใจจากรังเก่าออกไปเติบโตอีกขั้น โดยได้ “เสี่ยไพโรจน์ ผันโพธิ์” หัวหน้าค่ายฯ ที่ผลักดันให้มาอยู่ค่ายใหญ่อย่าง แฟร์เท็กซ์ ในปัจจุบัน
“คมเพชร” ย้ายมาอยู่ที่ค่ายดังเมืองพัทยา พร้อมกับเพื่อนรัก “ก้องศึก แฟร์เท็กซ์” และ “เพชร แฟร์เท็กซ์” ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวมากนัก ขณะที่ทีมงานให้การต้อนรับอย่างดีพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ จากนี้ขึ้นอยู่กับตัวเองว่าจะพัฒนาก้าวไปได้ไกลถึงระดับไหน
“ได้มาอยู่ที่ค่ายแฟร์เท็กซ์ผมต้องซ้อมหนักขึ้นครับ ทุกอย่างทางค่ายพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ที่เหลือก็อยู่ที่ตัวเราเองว่าจะตั้งใจทำผลงานให้ออกมาได้ดีแค่ไหน ส่วน ก้องศึก ที่มีประสบการณ์ชกใน ONE ลุมพินี มาก่อน แนะนำให้ผมตั้งใจชกให้เต็มที่ ถ้าชนะต่อเนื่องและผลงานดี อาจมีโอกาสไปลุยศึกใหญ่ ONE แต่ไฟต์นี้ผมหนักใจตรงที่ต้องมาสู้ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งเป็นทางที่คู่ชก ฮัว มีความถนัดมากกว่าครับ”
“คมเพชร” รู้ซึ้งดีว่าการต้องปรับตัวสู้จากมวยไทยมาเป็นคิกบ็อกซิ่งต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจเรื่องกฎกติกาอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าตัวเชื่อว่าสามารถนำประสบการณ์ที่ตนเคยไปชกในการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งรายการดังในญี่ปุ่นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ โดยมุ่งมั่นกลับมาแก้ตัวจากที่ผลงานไฟต์แรกไม่ได้ดั่งใจ
“ผมไม่พอใจผลงานตัวเองในไฟต์แพ้ พระจันทร์ฉาย ครับ อยากทำผลงานให้ออกมาดีกว่านี้ ไฟต์นี้ทางทีมงานตัดสินใจเลือกให้ผมชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง แน่นอนว่ามันมีความแตกต่างกันครับ เพราะให้คะแนนคนละแบบกับมวยไทย ถือว่ายากพอสมควร แต่ผมเคยมีประสบการณ์ชกคิกบ็อกซิ่งที่ญี่ปุ่นมาสองไฟต์ (ชนะ 1, แพ้ 1) ทำให้ผมยังพอจับทางได้อยู่บ้างครับ”
ทางฝั่งนักชกจากแดนมังกรก็ผลงานไม่ธรรมดา โดยถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่มีโอกาสได้ไปลุย ONE รายการหลักในเร็ววันนี้ ทำให้ “คมเพชร” ต้องเตรียมพร้อมรับมือการชกในไฟต์นี้ให้ดี โดยเจ้าตัวเล็งใช้แผนปล่อยอาวุธหนักสยบความเร็วดับฝันของคู่ชก ฉกชิงโอกาสลุ้นก้าวสู่ระดับโลกมาเป็นของตัวเอง
“ไฟต์นี้ผมเตรียมเน้นออกอาวุธให้หนักมากขึ้นครับ เพราะทาง ฮัว มีขาที่เร็วมาก ตอนช่วงต้นเกมอาจสู้กันยากแต่ถ้ายืดเยื้อและคู่ชกสปีดลดลง ผมมั่นใจว่าเขาเสร็จผมแน่นอนครับ ไฟต์นี้ผมตั้งใจเอาชนะน็อกให้ได้ครับ เพราะอยากได้โบนัสและชกให้ประทับใจด้วย ผมเองก็หวังอยากได้ไปลุยศึก วัน แชมเปียนชิพ เหมือนกัน ผมจะดับฝันของเขา ทำฟอร์มของตัวเองให้ดีและเซ็นสัญญาไป ONE ให้ได้ครับ”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 23 วันศุกร์ที่ 30 มิ.ย.นี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR และรับชมการถ่ายทอดสด คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมทาง
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.,
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ)
- Facebook & YouTube ONE (ทุกคู่)