ประสบการณ์ที่ดี “กุหลาบดำ” ปลื้มพลิกเกมหยุดสถิติฮอต “จอห์น ลินีเคอร์” ตั้งเป้ายกระดับฝีมือต่อเนื่อง
“ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย ยอดมวยหมัดสั่ง วัย 26 ปี จากสุรินทร์ สุดภูมิใจหลังออกอาวุธแม่ไม้มวยไทยครบสูตร พลิกเกมจากโดนนับ 8 เอาชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ “กำปั้นหินผา” จอห์น ลินีเคอร์ จอมบู๊สายแข็ง วัย 34 ปี จากบราซิล ดีกรีอดีตแชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในศึก ONE Fight Night 27 เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา
ศึกครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีของ “กุหลาบดำ” ที่ได้โอกาสกลับมาแข่งขันใน ONE รายการใหญ่ ซึ่งการโคจรมาเจอกับ “จอห์น” อดีตเจ้าบัลลังก์ MMA ที่มีผลงานการชกกติกามวยไทยไม่ธรรมดาจากการปิดเกมน็อกคู่ต่อสู้ทั้งสองครั้งบนสังเวียนแห่งนี้
“ผมรู้สึกดีใจมากที่ทีมงานเห็นถึงศักยภาพของผมว่าสามารถกลับมาชกใน ONE รายการใหญ่ได้ หลังจากได้รู้ว่าถูกประกบให้เจอกับ จอห์น ส่วนตัวผมมองว่าเป็นงานยากในระดับหนึ่งเลย เขาซัดคู่ชกหล่นเป็นว่าเล่น แต่ผมไม่เคยเกี่ยงคู่ชก ในเมื่อรายการให้โอกาสมาแล้วผมก็พร้อมจะทำอย่างเต็มที่”
“ที่สำคัญ ไฟต์นี้เป็นครั้งแรกในรอบ 7-8 ปี ที่ครอบครัวผมมาเชียร์กันทั้งบ้านเลย ยิ่งทำให้ผมมีความคาดหวังสูงว่าเราแพ้ไม่ได้ ไม่อยากทำให้ทุกคนผิดหวังครับ”
เกมการชกบนเวทีเป็นไปอย่างดุเดือด “กุหลาบดำ” ที่แม้จะโดนนับ 8 ตั้งแต่ยกแรก แต่เขาฮึดสู้ทันควัน โดยถล่มอาวุธมวยไทยทั้ง หมัด เท้า เข่า ศอก ใส่ “จอห์น” ได้ตรงเป้าและสร้างความเสียหายชัดเจนกว่าตลอด 2 ยกที่เหลือ กรรมการจึงเห็นพ้องให้ “กุหลาบดำ” ชนะคะแนน สถิติไร้พ่ายในกติกามวยไทยของกำปั้นชาวบราซิลจึงถูกหยุดไว้เพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
“ยกแรกผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนอะไร จังหวะโดนนับเหมือนไฟดับ ตอนที่หล่นลงไปวินาทีนั้น หน้าลูกลอยมาเลยครับ พอได้สติคิดว่ายังไงก็ต้องลุกขึ้นมา เราแพ้แบบนี้ไม่ได้เพราะครอบครัวมาดูทั้งบ้าน ผมไม่อยากให้พวกเขาผิดหวัง”
“หลังจากโดนนับไปแล้ว ผมตั้งใจว่าจะเอาคืน ถ้าไม่ได้นับคืนก็ต้องเดินยำให้เขาเจ็บหนักที่สุดให้ได้ ตอนแรกผมวางแผนมาแลกหมัดกับเขา แต่เขามาดีกว่า ยก 2-3 เลยเปลี่ยนไปใช้แข้งซ้าย หมัดซ้าย ถึงจะโดนนับตั้งแต่ยกแรกแต่ 2 ยกหลังจากนั้นผมมั่นใจว่าทำได้ดีกว่า ออกอาวุธเข้าเป้าชัดเจนมากกว่า”
“พอกรรมการชูมือว่าเป็นผู้ชนะผมโล่งใจมาก ๆ ที่สามารถกลับมาเอาชนะเขาได้ และดีใจที่เป็นคนหยุดสถิติชนะรวด 2 ไฟต์ในกติกามวยไทยของเขาได้”
ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 9 ในรายการของ ONE ซึ่งเจ้าตัวภูมิใจที่ได้พิสูจน์ให้แฟนมวยทั่วโลกเห็นหัวใจนักสู้ของเขา นอกจากนี้ ยังหวังนำทุกข้อผิดพลาดไปปรับปรุงเพื่อจะพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิมในไฟต์ต่อไป
“การกลับมาเยือนรายการใหญ่ของ ONE ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ผมได้พิสูจน์ให้แฟนมวยได้เห็นว่า มวยไทย คือมรดกไทยของแท้ ถ้าผมไม่หลับ ผมสู้ขาดใจแน่นอน”
“แต่ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องกลับไปปรับปรุง ถือเป็นบทเรียนให้เราสามารถพัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง โอกาสหน้า ผมมั่นใจว่าจะต้องทำได้ดีกว่านี้แน่นอน”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com/th รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH