ถ้าเผลอเจอศอกแน่ “เมืองไทย” พร้อมจัดชุดใหญ่ใส่ “กุหลาบดำ” วัดฝีมือภาค 4 ในศึก ONE ลุมพินี 9
“ขุนศอกผีดิบ” เมืองไทย ความมั่นใจเริ่มกลับมา พร้อมโชว์ฟอร์มเก่งเพื่อล้างตา “กุหลาบดำ” ให้รู้ดำรู้แดง
โคจรเจอกันครั้งที่ 4 “ขุนศอกผีดิบ” เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม มวยจอมอึดนักบูวัย 28 ปี จากบุรีรัมย์ เปิดศึกคนหน้าคุ้น “ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย มวยหมัดหนักวัย 24 ปี จากสุรินทร์ ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ศึก ONE ลุมพินี 9 วันศุกร์ที่ 17 มีนาคมนี้
เรียกได้ว่า “เมืองไทย” และ “กุหลาบดำ” เป็นไม่เบื่อไม้เมากันมานาน เจอกันทีไรไฟต์นั้นเดือดทุกรอบ โดยครั้งแรก “เมืองไทย” ชนะคะแนนไปก่อน ส่วนครั้งถัดมาเสมอกันดุเดือดจนถูกยกให้เป็นไฟต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2561 ก่อนล่าสุด “กุหลาบดำ” จะเป็นฝ่ายชนะน็อกในยกที่ 3
5 ปีผ่านไป เส้นทางของทั้งคู่เวียนมาบรรจบกันอีกครั้งในศึก ONE ลุมพินี ซึ่งผลงานไฟต์ล่าสุดในรายการนี้ต่างฝ่ายต่างกำชัยมาคนละครั้ง โดย “เมืองไทย” โชว์ฝีมืออัดชนะเอกฉันท์ “มาฟลุด ตูปิเยฟ” จากอุซเบกิสถานไปได้ในนัดปฐมฤกษ์ ศึก ONE ลุมพินี
ส่วน “กุหลาบดำ” ไม่น้อยหน้าเดินหน้าขยี้ชนะคะแนนเอกฉันท์ย้ำแค้น “แสงมณี พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” แบบสะใจ ในศึก ONE ลุมพินี 2 เจอกันรอบนี้ศักดิ์ศรีเลยค้ำคอและยังมีบัญชีที่ต้องสะสางให้หายคาใจ
“เมืองไทย” เริ่มเข้าสู่เส้นทางนักสู้ไม่ต่างกับนักมวยส่วนใหญ่ในบ้านเรา ที่หวังอยากให้ครอบครัวหนีพ้นความยากจน โดยมีคุณพ่อฝึกมวยให้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ รวมถึงเป็นคนตั้งชื่อในวงการมวยให้เองด้วย เพราะมองว่าดูยิ่งใหญ่ระดับประเทศไทย กาลเวลาผ่านไปก็พิสูจน์ว่าผลงานของเขาไม่ธรรมดาจริง ๆ โดยเก็บชัยชนะมากกว่า 200 ไฟต์ ทั้งยังครองใจแฟนหมัดมวยด้วยสไตล์การชกดุดันไม่ยอมใคร
“เมืองไทย” ได้โอกาสเปิดตัวบนเวทีระดับโลกใน ONE ก่อนหยุดพักไปกว่า 2 ปี เพื่อพักร่างกาย ก่อนที่จะกลับคืนสังเวียนระดับโลกอีกครั้ง แต่ก็ต้องแพ้ให้กับ “เลียม แฮร์ริสัน” แบบสุดพลิกล็อก
แม้จะกลับมาได้ชัยชนะในไฟต์ต่อมา “เมืองไทย” รู้ดีว่าฟอร์มของตนเองยังไม่กลับมาเต็มที่หลังจากร้างสังเวียนไปนาน บวกกับคำวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ทำให้เขาต้องกลับไปทำการบ้านเพื่อคืนฟอร์มแกร่ง ในที่สุด เขาก็ปลดล็อกตัวเองกู้ความมั่นใจกลับมาได้เมื่อคว้าชัยชนะอย่างงดงามในศึกลุมพินี นัดปฐมฤกษ์ แถมคว้าโบนัสกลับบ้านด้วย
“ไฟต์ที่ผมเจอกับ ตูปิเยฟ ไม่ยากเหมือนที่คิดเอาไว้ เพราะได้ชกตามสไตล์ของตัวเองทำให้มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น พอไม่กลัว ผมก็ยิ่งกล้าแลกกล้าชนมากขึ้นครับ”
การวนกลับมาเจอกับอริเก่า “กุหลาบดำ” เป็นอีกครั้งที่ “เมืองไทย” จะได้พิสูจน์ตัวเอง แม้จะถูกมองว่าเป็นรอง แต่เขาพร้อมงัดศักยภาพออกมาเต็มที่เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาดีพอ และภาคสี่ต้องจบลงแบบเคลียร์คัตชัดเจน
“กุหลาบดำ เป็นคู่ชกที่น่ากลัวครับ เขามีหมัดที่อันตราย ถือเป็นงานหนักที่ผมต้องเจอเลย แล้วยิ่งเป็นนวมเล็กยิ่งต้องระวังครับ คนมองว่าผมจะเป็นรองในไฟต์นี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ครับ เพราะ กุหลาบดำ พัฒนาขึ้นมาเร็วมาก และเป็นเพราะฟอร์มของผมตกไปเองด้วย ไฟต์นี้ผมอยากทำให้ทุกคนได้เห็นว่าตัวเองยังมีความสามารถ เป้าหมายของผมคืออยากเป็นแชมป์เหมือนคนอื่นบ้าง แต่ตอนนี้ขอทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดก่อนครับ”
“เราเจอกันมา 3 ครั้งก่อนหน้านี้สนุกทุกครั้งครับ แต่ไฟต์ที่ 4 เป็นการชก 3 ยก และ ใช้นวมเล็ก ผมคิดว่ารูปเกมอะไรก็เกิดขึ้นได้ จุดเด่นของ กุหลาบดำ คือเขาชกหมัดได้คล่องกว่า แต่ผมมีอาวุธศอกเป็นทีเด็ด เรารู้ทางกันอย่างดี อยากให้แฟนมวยทุกคนรอลุ้นบนเวทีเพราะผมเองก็เป็นคนไม่ยอมใครอยู่แล้วครับ”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 9 วันศุกร์ที่ 17 มีนาคมนี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมทาง
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ)
- Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ)