ศอกผีดิบพร้อมทำงาน ลุยฟลายเวตครั้งแรกต้องปัง “เมืองไทย” หวังหยุดสถิติฮอต “นักรบ”
“ขุนศอกผีดิบ” เมืองไทย พีเค.แสนชัย จอมอึดใจเกินร้อย วัย 30 ปี จากบุรีรัมย์ พร้อมประเดิมไฟต์แรกในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125 – 135 ป.) ท้าชนนักชกรุ่นน้องฟอร์มฮอต “ขุนเข่าพลังช้าง” นักรบ แฟร์เท็กซ์ จอมบู๊ วัย 25 ปี จากสุรินทร์ ที่เก็บชัยมาแล้ว 2 ไฟต์รวด โดยทั้งคู่มีนัดฟาดปากกันในศึกใหญ่แห่งปี ONE ลุมพินี 58: ซุปเปอร์บอน vs มารัต ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
สำหรับ “เมืองไทย” นั้นก่อนหน้านี้โลดแล่นต่อสู้อยู่ในรุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) มาโดยตลอด แต่เพราะความเสียเปรียบเรื่องรูปร่างและแรงปะทะ จึงทำให้เจ้าตัวตัดสินใจค่อย ๆ ปรับลดน้ำหนักลงมา โดยชิมลางชกในพิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 136 ป. เป็นครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี 46: ตะวันฉาย vs ซุปเปอร์บอน เมื่อ 22 ธ.ค.66
แต่เพราะต้องเจอกับนักชกก้านยาวเจ้าของส่วนสูง 192 เซ็นติเมตร อย่าง “นาบิล อานาน” ทำให้ “เมืองไทย” ไม่สามารถโชว์ศักยภาพอาวุธศอกที่ถนัดได้เต็มที่ จึงต้องแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย
“การลดลงมาสู้ในรุ่น 136 ป. ครั้งแรกในไฟต์ที่ผ่านมาถือว่าน่าพอใจครับ เพราะทำให้เราทนอาวุธได้มากขึ้น แต่ถ้ามองในเรื่องฟอร์มการชกก็ยังไม่พอใจเท่าไหร่ เพราะ นาบิล ช่วงชกยาวกว่ามาก ทำให้ผมเข้าไม่ถึงตัว และออกอาวุธได้ไม่เต็มที่ ในช่วงท้าย ผมจึงตัดสินใจเร่งฮึดขึ้นมา กัดฟันเดินหน้าลุยแหลกตามสไตล์ ซึ่งผมคิดว่าทำได้ดี แม้จะไม่สามารถพลิกกลับมาชนะได้ แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะผมทำเต็มที่แล้วจริง ๆ”
ผลจากการปรับน้ำหนักตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ค่ายพีเค.แสนชัย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยดูแล ส่งผลให้ เมืองไทย สามารถทำน้ำหนักลงมาในรุ่น 136 ป. ได้อย่างราบรื่นในไฟต์ที่แล้ว เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ “เมืองไทย” สามารถพาตัวเองเข้ามาอยู่ในรุ่นฟลายเวตซึ่งเป็นพิกัดที่ตนรู้สึกมั่นใจในขณะนี้
โดยคู่ต่อสู้คนแรกในรุ่นฟลายเวตที่รอรับน้อง “เมืองไทย” ก็คือ “นักรบ แฟร์เท็กซ์” จอมบู๊ไฟแรงสูงที่เคยออกปากว่ามี “ขุนศอกผีดิบ” เป็นนักชกไอดอลในดวงใจ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ชื่นชมในฝีมือของรุ่นน้องรายนี้เช่นกัน
“ผมไม่รู้มาก่อนเลยครับว่า นักรบ เขามองผมเป็นไอดอล ผมเพิ่งมารู้ตอนที่เห็นเขาโพสต์เฟซบุ๊กในวันนั้น รู้สึกปลื้มใจมากครับ ที่น้องเขามองเราเป็นไอดอล ส่วนตัวผมเองก็มองว่า นักรบ เป็นมวยที่มีอนาคตไกล น้องเขาร่างกายดีมาก และฟอร์มก็กำลังมาแรงด้วยครับ”
การพบกับ “นักรบ” ที่มีสไตล์การชกบู๊สะบัดเหมือนกัน ทำให้ “เมืองไทย” กล้าให้การการันตีในความมันดุเดือดที่จะเกิดขึ้น โดยของัดประสบการณ์และความใจกล้าบ้าบิ่นออกมาหยุดฟอร์มแรงของ “นักรบ” พร้อมประเดิมไฟต์แรกในรุ่นฟลายเวตด้วยชัยชนะ เพื่อเปิดโอกาสในการกลับไปยืนบนเวทีระดับโลก ONE อีกครั้ง
“ยอมรับว่าไฟต์นี้ไม่ใช่งานง่ายของผมเลย เพราะ นักรบ เขาเป็นมวยขวาที่มีความเร็ว เรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งหมัด เท้า เข่า แข้ง ส่วนจุดที่ผมมองว่าได้เปรียบกว่าคือเรื่องกระดูกมวย โดยเฉพาะเรื่องความอดทน ใจสู้ ซึ่งผมกล้าพูดได้เลยว่าเรื่องนี้ผมไม่แพ้ใคร”
“ไฟต์นี้ผมเตรียมอาวุธมาครบเครื่องเหมือนเดิม และถ้ามีโอกาส ศอกผีดิบจะทำงานแน่นอน มั่นใจว่ารูปเกมน่าจะออกมาสนุกถูกใจแฟนมวย เพราะทั้งผมและ นักรบ ต่างเป็นมวยบู๊เหมือนกัน ถ้าใครพลาดมีโอกาสสูงที่เกมจะจบลงแบบไม่ครบยกครับ”
“ไฟต์นี้สำคัญมาก เพราะนอกจากจะเป็นไฟต์แรกของผมในปี 2567 แล้ว ยังเป็นการชกในรุ่นฟลายเวตครั้งแรกด้วย ผมไม่อยากประเดิมด้วยความผิดหวัง อยากจะเก็บชัยชนะให้ได้ ส่วนเป้าหมายในปีนี้ ผมอยากจะชกทุกไฟต์ให้ออกมาสนุกที่สุด เดินหน้าเก็บชัยชนะไปเรื่อย ๆ เพื่อกลับไปลุยใน ONE อีกครั้งให้ได้ครับ”
ติดตามชม “เมืองไทย vs นักรบ” ศึก ONE ลุมพินี 58: ซุปเปอร์บอน vs มารัต ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.