มีได้เสีย “เมืองไทย” ยอมกดน้ำหนักวัดใจ “นาบิล” ศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 46
“เมืองไทย พีเค.แสนชัย” ลงทุนกดน้ำหนักต่ำกว่ารุ่นแบนตัมเวตที่ถนัด ท้าวัดฝีมือมวยดาวรุ่งรุ่นน้อง “นาบิล อานาน” หยั่งเชิงก่อนลงมาลุยรุ่นฟลายเวตในอนาคต
สาวกกีฬาการต่อสู้ชาวไทย เตรียมตัวให้พร้อมรับมือศึกใหญ่ ONE ลุมพินี 46 โดยล่าสุดได้มีการประกบคู่มวยคุณภาพเพื่อสมทบความมันส่งท้ายปี “ขุนศอกผีดิบ” เมืองไทย พีเค.แสนชัย มวยซ้ายอันตราย วัย 29 ปี จากบุรีรัมย์ ขอเปิดศึกดวลฝีมือ “นาบิล อานาน” ดาวรุ่งพุ่งแรง วัย 19 ปี เชื้อสายไทย-แอลจีเรีย-ฝรั่งเศส โดยจะเผชิญหน้ากันในกติกามวยไทย แคตช์เวต (136 ป.) วันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
สำหรับ “เมืองไทย” เจ้าของฉายา “ขุนศอกผีดิบ” ถือเป็นอีกหนึ่งนักสู้ที่แฟนมวยคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะผ่านสมรภูมิ ONE รายการใหญ่มาอย่างโชกโชน ทำให้เขาได้โอกาสประเดิมศึก ONE ลุมพินี ในนัดปฐมฤกษ์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการโชว์ฟอร์มเอาชนะ “มาฟลุด ตูปิเยฟ” นักชกมากประสบการณ์ จากอุซเบกิสถาน
ก่อนจะสานต่อชัยชนะด้วยการโค่นยอดมวยดังอย่าง “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” แบบหลับคาเวทีในศึก ONE ลุมพินี 9 แต่ทว่าอีกสามเดือนถัดมา “เมืองไทย” มีอันต้องพบกับความผิดหวังหลังพ่ายทีเคโอให้กับ “นิโค คาร์ริลโล” จอมดีเดือด จากสกอตแลนด์ ไปแบบหักปากกาเซียน
อย่างไรก็ตาม “เมืองไทย” กลับกู้ศรัทธาจากแฟนมวยได้อีกครั้งในไฟต์ล่าสุด ด้วยการคว้าชัยเหนือคู่ปรับตลอดกาลอย่าง “ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ” หลังดวลเดือดกันอย่างเมามันตลอดทั้ง 3 ยก เมื่อ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา
ทางด้าน “นาบิล” ดาวรุ่งร่างโย่งเปิดตัวครั้งแรกบนสังเวียนมวยไทยระดับโลก ในศึกนัดประวัติศาสตร์ ONE ลุมพินี 22 เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยการเผชิญหน้ากับของแข็งอย่าง “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ซึ่ง “นาบิล” ตกเป็นฝ่ายพ่ายน็อกให้กับราชันรายนี้ไปเพียงยกแรกเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม “นาบิล” ได้สลัดทิ้งความผิดหวัง แล้วกลับมากู้ชื่อให้ตัวเองได้สำเร็จในไฟต์ครั้งล่าสุด ด้วยการยัดเยียดความปราชัยครั้งแรกบนเวที ONE ลุมพินี ให้กับ “นักรับ แฟร์เท็กซ์” ชนิดที่ช็อกสายตาแฟนมวยทั่วโลก เมื่อ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับคู่นี้เรียกว่าต่างคนต่างเสียวเพราะต่างฝ่ายต่างชกคนละรุ่นน้ำหนัก โดยฝ่าย “เมืองไทย” ต้องเผชิญกับความท้าทายไม่น้อย โดยเจ้าตัวยอมกดน้ำหนักต่ำลงมาจากเดิมที่เคยชกในรุ่นแบนตัม (135-145 ป.) มาเป็นแคตช์เวต 136 ป. ซึ่งเข้าใกล้รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) มาก แถมยังต้องเจอรุ่นน้องฟอร์มฮอตหาตัวชกยากอย่าง “นาบิล” ที่เก่งในรุ่นน้ำหนักฟลายเวตที่ตนเองถนัดด้วย
แต่หาก “เมืองไทย” สามารถทำน้ำหนักและยังรักษาฟอร์มได้ดีในไฟต์สำคัญนี้ ก็มีโอกาสที่เขาอาจจะลดน้ำหนักลงมาเฉิดฉายในรุ่นฟลายเวต และอาจได้ไต่ไปถึงบัลลังก์ที่มี “รถถัง จิตรเมืองนนท์” นั่งครองอยู่ ขณะที่ “นาบิล” เองก็อยากใช้ชื่อเสียงของ “เมืองไทย” ที่เคยผ่านเวที ONE มาอย่างเจนจัด เป็นบันไดไต่ไปโชว์ฝีมือบนเวทียิ่งใหญ่ระดับโลก
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh