รักษาแรงกิงยิ่งชีพ “นาบิล” ขนอาวุธชุดใหม่ไฟกะพริบ พร้อมพิชิตบุรุษเหล็ก “ซอ ลิน อู”
“นาบิล อานาน” ดาวรุ่งก้านยาว วัย 20 ปี เชื้อสายไทย-แอลจีเรีย-ฝรั่งเศส พร้อมระเบิดฟอร์มสุดพลัง เพื่อรักษาตำแหน่งในแรงกิง จากคู่ชกสุดอันตราย อย่าง “Man of Steel” ซอ ลิน อู คนเหล็กชาวกะเหรี่ยง วัย 32 ปี จากเมียนมา ที่จะขึ้นชกในฐานะนักกีฬา ONE เป็นครั้งแรก โดยทั้งคู่จะปะทะกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในศึกใหญ่ไตรมาสสาม ONE ลุมพินี 81: ซุปเปอร์บอน vs โจ ที่จะสู้กันในวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
สำหรับ “นาบิล” นับแต่เปิดตัวด้วยความพ่ายแพ้ต่อ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) และ คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 22 เมื่อเดือน มิ.ย.66 ก็ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความร้อนแรงของดาวรุ่งหมัดยางยืดรายนี้ได้อีกต่อไป โดยไล่ปราบคู่ชกรุ่นพี่มือพระกาฬ 3 รายรวดบนเวที ONE ลุมพินี จนสามารถคว้าสัญญา ONE มาครองได้สำเร็จในศึก ONE ลุมพินี 69 เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
ไฟต์ล่าสุด “นาบิล” ได้โอกาสเปิดตัวบนเวทีระดับโลก ในฐานะนักกีฬา ONE เป็นครั้งแรก ในศึก ONE Fight Night 24: จาร์เร็ต vs กุสตาโว เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และไม่ทำให้กองเชียร์ต้องผิดหวัง หลังงัดลูกฝีมือ ไล่ต้อนเอาชนะคะแนนเหนือ “Demolition Man” ฟิลิปเป โลโบ ยอดนักสู้ดีกรีอดีตผู้ท้าชิงบัลลังก์และตัวท็อปของแรงกิงชาวบราซิล ไปได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งเจ้าตัวได้กล่าวเปิดใจถึงผลงานในวันนั้นว่า
“ตอนแรกก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยครับ เพราะไม่รู้ว่ารูปเกมจะออกมาเป็นยังไง แต่ว่าตอนชกไปเรารู้สึกว่าเราจับทางได้ แล้วพี่เขาก็กล้า ๆ กลัว ๆ เพราะเดินมาก็โดน ถอยก็โดน ก็เลยเป็นไปตามเกมเรามากกว่า ก็ดีใจที่ผลงานออกมาดีได้ตามที่คาดหวังไว้ครับ”
ผลจากการเอาชนะนักสู้ตัวท็อปอย่าง “ฟิลิปเป” มาได้ ทำให้ “นาบิล” มีชื่อเข้าไปรั้งอยู่ในอันดับ 3 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ทันที ก่อนที่ล่าสุดจะถูกเบียดลงมาอยู่อันดับ 4 หลัง “ซุปเปอร์เล็ก” ขึ้นนั่งบัลลังก์ของรุ่นนี้
“ตอนนี้ผมอยู่อันดับ 4 ในแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ดีใจที่ได้เป็นหนึ่งในแรงกิงครับ รู้สึกว่าเร็วเหมือนกันนะ แต่ผมไต่ขึ้นมาได้ขนาดนี้แล้ว ผมจะรักษาตําแหน่งนี้ไว้ให้ได้ และจะปีนขึ้นไปให้มันสูงขึ้น ผมไม่อยากลงมาต่ำกว่านี้ครับ”
“ผมซ้อมหนักขึ้นทุก ๆ วันนะครับ ผมรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้น การซ้อมอะไรก็เปลี่ยนไป คิดว่าซ้อมได้แข็งแกร่งมากขึ้นครับ นี่ก็แค่เริ่มต้น ยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องเผชิญ คนเก่ง ๆ กว่านี้ก็ยังมีอีกเยอะแยะครับ”
ภารกิจไล่ล่าแต้มชัย 5 ไฟต์รวดของ “นาบิล” จะต้องโคจรมาวัดแกร่งกับ “ซอ ลิน อู” บุรุษเหล็กจากเมียนมา ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก เดินหน้าไล่ถล่มปิดเกมคู่ชกมาแล้ว 3 ไฟต์ติดต่อกัน โดยผลงานล่าสุดคือการเอาชนะน็อกเหนือนักสู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอึดถึกทนอย่าง “พงษ์ศิริ พีเค.แสนชัย” ในยกที่ 2 และสามารถคว้าสัญญา ONE มาครองได้สำเร็จ ในค่ำคืนเดียวกับ “นาบิล”
แม้จะตกเป็นรอง “ซอ ลิน อู” ทั้งด้านความแข็งแกร่ง รวมถึงประสบการณ์ แต่ “นาบิล” เองก็ทำการบ้านวางแผนการชกเป็นอย่างดี โดยพร้อมใช้ความได้เปรียบเรื่องรูปร่าง ประเคนอาวุธเข้าใส่แบบจัดเต็มให้แฟน ๆ ได้เห็นเหมือนทุกไฟต์ที่ผ่านมา เพื่อเก็บชัยชนะไฟต์ที่ 5 ติดต่อกันมาครอง และรักษาเก้าอี้ผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของตัวเองต่อไป
“ซอ ลิน อู เขาก็แข็งจริง แข็งมาก ถ้าเขาไม่ได้เก่งจริงเขาคงไม่ได้เข้า ONE คงไม่ได้สัญญาหรอก เขาก็หักปากกาเซียนมาได้หลายรอบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมค่ายผม ฟาบิโอ (เรอิส) มีแต่คนมองว่า ฟาบิโอ เป็นต่อ แต่ชกไปชกมา ฟาบิโอ ก็แพ้ ไฟต์ล่าสุดอย่าง พงษ์ศิริ หลายคนก็มองว่า พงษ์ศิริ เป็นต่อเยอะมาก ก็แพ้เหมือนกัน ผมคิดว่าเขาก็มีดีเหมือนกันครับ”
“ไฟต์นี้ผมได้เปรียบแค่รูปร่างอย่างเดียว แต่ว่าอย่างอื่นผมน่าจะเป็นรองหมด อยู่ที่ว่าผมจะใช้ลูกอะไรมาเอาชนะ แต่เรื่องประสบการณ์ พี่เขาก็เป็นต่อ ความแข็งแกร่งพี่เขาก็อาจจะเป็นต่อด้วยครับ เขาอาจจะอึดและแข็งแกร่งกว่าหลาย ๆ คนที่ผมเคยเจอมา แต่ถ้ามองเรื่องความเร็วหรืออย่างอื่น ผมน่าจะมองออกอยู่ครับ”
“ไฟต์นี้ ผมวางแผนมาไม่เหมือนกับไฟต์ก่อน ๆ ที่ผมชก จะเป็นไงก็อยากให้ทุกคนรอดูบนเวที น่าจะมีลูกที่หลาย ๆ คนยังไม่เคยเห็น ส่วนเรื่องจะมีนับ หรือมีน็อกไหม ผมไม่แน่ใจครับ เพราะว่าพี่เขาแข็งจริง ๆ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะทําให้ได้ครับ”
ติดตาม “นาบิล vs ซอ ลิน อู” ศึก ONE ลุมพินี 81: ซุปเปอร์บอน vs โจ ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 27 ก.ย.นี้ ส่วนบัตรเข้าชมในสนามจำหน่ายหมดแล้ว หากท่านใดที่ซื้อบัตรไม่ทัน สามารถรับชมถ่ายทอดสดทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.